TOP 10 บทความยอดนิยม

ดูทั้งหมด
สอนเทรดมือใหม่

รูปแบบแท่งเทียน Upside Tasuki Gap

กันยายน 1, 2022

ไขปริศนารูปแบบแท่งเทียน Upside Tasuki Gap: คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับเทรดเดอร์มืออาชีพ

ในโลกของการเทรด Forex และตลาดการเงินอื่นๆ การทำความเข้าใจรูปแบบแท่งเทียนเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง รูปแบบแท่งเทียนแต่ละแบบจะบอกเล่าเรื่องราวของความสัมพันธ์ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายในตลาด ซึ่งช่วยให้เทรดเดอร์สามารถคาดการณ์ทิศทางราคาในอนาคตได้แม่นยำยิ่งขึ้น หนึ่งในรูปแบบที่บ่งชี้ถึงความต่อเนื่องของแนวโน้มขาขึ้นได้อย่างน่าสนใจคือ รูปแบบแท่งเทียน Upside Tasuki Gap บทความนี้จะเจาะลึกทุกแง่มุมของรูปแบบนี้ ตั้งแต่การระบุ การทำความเข้าใจโครงสร้าง ไปจนถึงกลยุทธ์การเทรดที่ใช้ได้จริง เพื่อให้คุณสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการตัดสินใจซื้อขายได้อย่างมั่นใจและเพิ่มศักยภาพในการทำกำไรสูงสุด

Upside Tasuki Gap คืออะไร?

รูปแบบแท่งเทียน Upside Tasuki Gap เป็นรูปแบบความต่อเนื่องของ แนวโน้มขาขึ้น ที่ประกอบด้วยแท่งเทียน 3 แท่ง และมีช่องว่าง (gap) เกิดขึ้น รูปแบบนี้ทำหน้าที่เป็นสัญญาณยืนยันว่าแรงซื้อในตลาดยังคงแข็งแกร่ง และแนวโน้มขาขึ้นมีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไป โดยทั่วไปแล้ว จะบอกให้เทรดเดอร์ทราบว่าผู้ซื้อยังคงเป็นผู้ควบคุมตลาดอย่างสมบูรณ์ และเป็นโอกาสอันดีในการคงสถานะ Long (ซื้อ) ไว้เพื่อทำกำไรต่อเนื่อง

ความสำคัญของ Upside Tasuki Gap ในการเทรด

สำหรับเทรดเดอร์ รูปแบบ Upside Tasuki Gap มีความสำคัญดังนี้:

  • ยืนยันแนวโน้มขาขึ้น: เป็นการตอกย้ำว่าตลาดอยู่ในช่วงขาขึ้นที่แข็งแกร่ง และแรงซื้อยังคงเหนือกว่าแรงขายอย่างชัดเจน
  • บ่งบอกถึงโมเมนตัม: การเกิด Gap บ่งชี้ถึงความกระตือรือร้นของผู้ซื้อที่ทำให้ราคาเปิดสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
  • โอกาสในการคงสถานะ: ช่วยให้เทรดเดอร์ที่กำลังถือสถานะซื้ออยู่มีความมั่นใจที่จะรักษาสถานะนั้นต่อไป หรือพิจารณาเพิ่มสถานะหากกลยุทธ์เอื้ออำนวย
  • การตัดสินใจเข้าซื้อ: สำหรับเทรดเดอร์ที่พลาดโอกาสเข้าซื้อในช่วงต้น อาจใช้รูปแบบนี้เป็นจุดยืนยันในการเข้าซื้อตามแนวโน้ม

วิธีการระบุรูปแบบแท่งเทียน Upside Tasuki Gap อย่างละเอียด

การระบุรูปแบบ Upside Tasuki Gap จำเป็นต้องพิจารณาแท่งเทียน 3 แท่งเรียงกันในลำดับเฉพาะ พร้อมกับเงื่อนไขสำคัญต่างๆ ดังนี้:

  1. แท่งเทียนแรก (First Candlestick): แท่งเทียนขาขึ้นขนาดใหญ่
    • ลักษณะ: เป็นแท่งเทียนขาขึ้น (Bullish Candlestick) ที่มีขนาดลำตัวใหญ่และชัดเจน (มักจะเป็นสีเขียวหรือสีขาว)
    • ความหมาย: บ่งบอกถึงแรงซื้อที่แข็งแกร่งและโมเมนตัมขาขึ้นที่ชัดเจนในตลาด แท่งเทียน นี้เป็นสัญญาณแรกที่ยืนยันว่าผู้ซื้อกำลังควบคุมทิศทางราคา
  2. แท่งเทียนที่สอง (Second Candlestick): แท่งเทียนขาขึ้นพร้อม Gap
    • ลักษณะ: แท่งเทียนนี้จะเปิดโดยมีช่องว่าง (Gap Up) เหนือจุดปิดของแท่งเทียนแรกอย่างชัดเจน และแท่งเทียนที่สองนี้จะต้องมีราคาเปิดที่สูงกว่าราคาปิดของแท่งเทียนแรก และไม่ทับซ้อนกับช่วงราคาของแท่งเทียนแรกเลย
    • ขนาด: มักจะเป็นแท่งเทียนขาขึ้นที่มีขนาดลำตัวเล็กกว่าแท่งแรกเล็กน้อย แต่ก็ยังคงเป็นแท่งขาขึ้น
    • ความหมาย: การเกิด Gap Up แสดงถึงความกระตือรือร้นของผู้ซื้อที่มากเกินปกติในช่วงเวลาที่ตลาดเปิด (หรือช่วงการเทรดที่กำลังจะมาถึง) ซึ่งทำให้ราคาดีดตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและไม่มีการซื้อขายในช่วงราคานั้น การที่แท่งเทียนที่สองยังคงเป็นขาขึ้นบ่งบอกว่าแรงซื้อยังคงดำเนินต่อไป
  3. แท่งเทียนที่สาม (Third Candlestick): แท่งเทียนขาลงแบบ Retracement
    • ลักษณะ: เป็นแท่งเทียนขาลง (Bearish Candlestick) ที่มีราคาเปิดอยู่ภายในช่วงราคาของแท่งเทียนที่สอง (หมายถึงต่ำกว่าราคาเปิดของแท่งที่สอง แต่อาจจะสูงกว่าหรือต่ำกว่าราคาปิดของแท่งที่สองก็ได้) และจะต้องปิดเหนือราคาปิดของแท่งเทียนแรก
    • ความหมาย: แท่งเทียนนี้แสดงถึงการพักตัวหรือการทำกำไร (profit-taking) ของผู้ซื้อบางส่วน ซึ่งทำให้ราคาปรับตัวลดลงชั่วคราว การที่ราคาปิดยังคงอยู่เหนือราคาปิดของแท่งเทียนแรกเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะมันยืนยันว่าการพักตัวนี้เป็นเพียงระยะสั้น และแรงซื้อพื้นฐานยังคงแข็งแกร่งพอที่จะรักษาระดับราคาไว้ไม่ให้ร่วงลงไปปิดช่องว่างที่เกิดขึ้น

หากข้อกำหนดทั้งสามข้อนี้เป็นไปตามที่กล่าวมา คุณก็สามารถยืนยันรูปแบบแท่งเทียน Upside Tasuki Gap บนกราฟราคาได้

ตารางข้อมูลสรุป Upside Tasuki Gap

Upside Tasuki Gap: ตารางข้อมูล

คุณสมบัติ คำอธิบาย
จำนวนเชิงเทียน 3
คาดการณ์ แนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่อง
เทรนด์ก่อนหน้า แนวโน้มขาขึ้น
รูปแบบ Counter Downside Tasuki Gap

ทำความเข้าใจโครงสร้างของ Upside Tasuki Gap Pattern

การทำความเข้าใจโครงสร้างและจิตวิทยาเบื้องหลังรูปแบบ Upside Tasuki Gap จะช่วยให้คุณตีความการเคลื่อนไหวของราคาได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการตัดสินใจเทรดในสถานการณ์จริง

มาวิเคราะห์กราฟราคาทีละขั้นตอน:

  1. แท่งเทียนแรก: การเข้าควบคุมของตลาดกระทิง

    แท่งเทียนขาขึ้นแท่งแรกที่มีขนาดใหญ่บ่งชี้ว่า ผู้ซื้อ (Bull) ได้เข้ามาควบคุมตลาดอย่างเด็ดขาดและกำลังผลักดันราคาให้สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นี่คือสัญญาณเริ่มต้นของแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง

  2. แท่งเทียนที่สอง: การเร่งตัวของโมเมนตัมด้วย Gap

    หลังจากที่แท่งเทียนขาขึ้นแท่งแรกปิดลง ราคาได้เปิดขึ้นในวันถัดไป (หรือในช่วงเวลาถัดไป) โดยมี “Gap Up” หรือช่องว่างราคาที่สูงกว่าราคาปิดของแท่งแรกอย่างชัดเจน การเกิดช่องว่างนี้เป็นเครื่องบ่งชี้ถึงโมเมนตัมแรงซื้อที่รุนแรงมาก ซึ่งอาจเกิดจากข่าวสารเชิงบวก หรือคำสั่งซื้อจำนวนมากที่เข้ามาในช่วงตลาดเปิด

    เคล็ดลับแบบมือโปร: เมื่อมีคำสั่งซื้อจำนวนมากเข้าสู่ตลาดในช่วงท้ายของเซสชั่นการซื้อขาย ราคาจะมักจะเปิดขึ้นโดยมีช่องว่างขึ้นที่ราคาสูงขึ้นในเซสชั่นถัดไป เนื่องจากอุปสงค์ที่สูงเกินอุปทาน

  3. แท่งเทียนที่สาม: การพักตัวเล็กน้อยและการยืนยันความแข็งแกร่ง

    ตลาดมีการเคลื่อนไหวในรูปแบบของคลื่นเสมอ คือมีทั้งคลื่นแรงกระตุ้น (Impulsive Wave) ที่ราคาเคลื่อนที่ไปตามแนวโน้มหลัก และคลื่นการกลับตัวหรือพักตัว (Retracement Wave) ที่ราคาเคลื่อนที่ย้อนแนวโน้มชั่วคราว

    • ในขณะที่แท่งเทียนขาขึ้นสองแท่งแรกแสดงถึงคลื่นแรงกระตุ้นขาขึ้นที่แข็งแกร่ง แท่งเทียนที่สามที่ก่อตัวเป็นแท่งขาลงนั้นบ่งชี้ถึงคลื่นการพักตัวหรือการทำกำไรของผู้ซื้อบางส่วน
    • ประเด็นสำคัญ: การพักตัวที่ตื้นหรือเล็กน้อยบ่งชี้ถึงแนวโน้มที่แข็งแกร่งกว่าการพักตัวที่ลึก นั่นคือเหตุผลสำคัญที่กำหนดไว้ว่า “แท่งเทียนขาลงแท่งที่สามควรปิดเหนือราคาปิดของแท่งเทียนแรก”
    • ความหมาย: การที่ราคาปิดของแท่งเทียนขาลงยังคงอยู่เหนือราคาปิดของแท่งแรก แสดงให้เห็นว่าแม้จะมีการพักตัว แต่แรงซื้อพื้นฐานยังคงรักษาระดับราคาไว้ได้ ผู้ขายไม่สามารถผลักดันราคาให้กลับลงมาปิดช่องว่าง (Gap) ที่เกิดขึ้นได้สำเร็จ นี่เป็นการยืนยันถึงความต่อเนื่องของแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง และบ่งบอกว่าคลื่นแรงกระตุ้นขาขึ้นจะก่อตัวขึ้นอีกครั้งหลังจากที่การพักตัวเล็กน้อยนี้สิ้นสุดลง

วิธีเทรดรูปแบบแท่งเทียน Upside Tasuki Gap

รูปแบบ Upside Tasuki Gap เป็นรูปแบบความต่อเนื่องของแนวโน้มขาขึ้นที่ทรงพลัง แต่เพื่อให้การเทรดมีประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ควรพึ่งพาเพียงรูปแบบแท่งเทียนเดียว ควรใช้ร่วมกับการบรรจบกันของเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เช่น เส้นแนวโน้ม (Trendline) หรือ เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average) เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจ

กลยุทธ์การซื้อขาย EMA อย่างง่าย

หนึ่งในกลยุทธ์ที่นิยมใช้ร่วมกับรูปแบบ Upside Tasuki Gap คือการใช้ Exponential Moving Average (EMA) เพื่อยืนยันแนวโน้มและหาจุดเข้า-ออกที่เหมาะสม:

  • ขั้นตอนที่ 1: การยืนยันแนวโน้มด้วย EMA
    • การตั้งค่า: วาง EMA 21 และ EMA 38 บนแผนภูมิราคาของคุณ (คุณสามารถทดลองใช้ค่า EMA อื่นๆ ที่เหมาะสมกับสินทรัพย์และกรอบเวลาที่คุณเทรดได้)
    • การยืนยันแนวโน้ม: ยืนยันว่าแนวโน้มตลาดเป็นขาขึ้น โดยดูว่าแท่งเทียนส่วนใหญ่ก่อตัวอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ทั้งสองเส้น และเส้น EMA 21 อยู่เหนือ EMA 38 บ่งชี้ถึงแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง หากยังไม่แน่ใจเรื่องการดูแนวโน้ม คุณสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จาก เทคนิคการอ่าน Trend การเทรด
  • ขั้นตอนที่ 2: การเปิดสถานะซื้อ (Long Position)
    • จุดเข้า: เมื่อคุณระบุรูปแบบ Upside Tasuki Gap ได้อย่างถูกต้องตามเงื่อนไขทั้งสามข้อ และแนวโน้มยังคงเป็นขาขึ้นตามการยืนยันของ EMA ให้เปิดคำสั่งซื้อ (Buy Order)
    • จุดหยุดการขาดทุน (Stop Loss): เพื่อจำกัดความเสี่ยง ให้วางจุดหยุดการขาดทุนไว้ใต้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (อาจเป็นใต้ EMA 38 หรือระดับต่ำสุดของแท่งเทียนขาขึ้นแรก) การวาง Stop Loss อย่างเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการบริหารความเสี่ยง
  • ขั้นตอนที่ 3: การจัดการสถานะและจุดทำกำไร (Take Profit)
    • การถือสถานะ: ถือสถานะซื้อต่อไปตราบใดที่แนวโน้มขาขึ้นยังไม่เปลี่ยนแปลง
    • จุดออก: ปิดสถานะซื้อเมื่อเกิดสัญญาณครอสโอเวอร์ (Crossover) ของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ในทิศทางขาลง (เช่น EMA 21 ตัดลงใต้ EMA 38) ซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงการอ่อนตัวของแรงซื้อหรือการสิ้นสุดของแนวโน้มขาขึ้น

นี่เป็นเพียง กลยุทธ์การเทรด อย่างง่าย แต่คุณสามารถเพิ่มเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เช่น RSI, MACD หรือ Volume เพื่อให้สัญญาณมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น และศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ กลยุทธ์การเทรด Forex สำหรับมือใหม่ เพื่อพัฒนาทักษะของคุณ

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับ Upside Tasuki Gap

Q1: Upside Tasuki Gap แตกต่างจากรูปแบบแท่งเทียน Gap อื่นๆ อย่างไร?

A1: สิ่งที่ทำให้ Upside Tasuki Gap แตกต่างคือการมีแท่งเทียนขาลงแท่งที่สาม ซึ่งทำหน้าที่เป็นการพักตัวชั่วคราวแต่ราคาปิดยังคงอยู่เหนือแท่งแรก การพักตัวนี้บ่งชี้ว่าผู้ขายพยายามผลักดันราคาลง แต่ไม่สามารถปิดช่องว่างที่เกิดขึ้นได้สำเร็จ ซึ่งยืนยันความแข็งแกร่งของแนวโน้มขาขึ้น ในขณะที่ Gap รูปแบบอื่น ๆ อาจมีลักษณะแท่งเทียนที่แตกต่างกันออกไป เช่น Runaway Gap ที่ราคาไม่กลับมาปิด Gap เลย หรือ Exhaustion Gap ที่เป็นสัญญาณกลับตัว

Q2: รูปแบบ Upside Tasuki Gap ใช้ได้กับสินทรัพย์ใดบ้าง?

A2: รูปแบบ Upside Tasuki Gap เป็นรูปแบบแท่งเทียนสากลที่สามารถใช้ได้กับสินทรัพย์ทางการเงินหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นหุ้น ดัชนี Forex สินค้าโภคภัณฑ์ (เช่น ทองคำ) หรือแม้แต่สกุลเงินดิจิทัล อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพและความแม่นยำของรูปแบบอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสภาพคล่องและลักษณะของตลาดนั้นๆ การ Backtest รูปแบบในสินทรัพย์ที่คุณสนใจจะช่วยให้คุณเข้าใจประสิทธิภาพได้ดียิ่งขึ้น

Q3: ควรทำอย่างไรหากแท่งเทียนที่สามปิดต่ำกว่าราคาปิดของแท่งแรก?

A3: หากแท่งเทียนที่สามที่เป็นขาลงปิดต่ำกว่าราคาปิดของแท่งเทียนแรก รูปแบบนี้จะไม่ถือว่าเป็น Upside Tasuki Gap ที่สมบูรณ์แบบตามคำจำกัดความ ในกรณีเช่นนี้ มันอาจเป็นสัญญาณเตือนว่าแรงขายมีกำลังมากขึ้นกว่าที่คาดไว้ และแนวโน้มขาขึ้นอาจกำลังอ่อนตัวลงหรืออาจเกิดการกลับตัวได้ เทรดเดอร์ควรพิจารณาอย่างรอบคอบและอาจหลีกเลี่ยงการเข้าซื้อหรือพิจารณาปิดสถานะที่มีอยู่

Q4: มีความเสี่ยงอะไรบ้างในการเทรดด้วย Upside Tasuki Gap?

A4: แม้ว่า Upside Tasuki Gap จะเป็นสัญญาณความต่อเนื่องของแนวโน้มขาขึ้น แต่ก็มีความเสี่ยงเช่นเดียวกับรูปแบบแท่งเทียนอื่นๆ คือ

  • สัญญาณหลอก (False Signal): บางครั้ง รูปแบบอาจก่อตัวขึ้นแต่ตลาดกลับพลิกผันไปในทิศทางตรงกันข้ามได้
  • ความผันผวน: ตลาดที่มีความผันผวนสูงอาจทำให้ Gap เกิดขึ้นและปิดตัวลงอย่างรวดเร็ว ทำให้รูปแบบไม่น่าเชื่อถือ
  • Overbought Condition: หากรูปแบบปรากฏในขณะที่ตลาดอยู่ในสภาวะ Overbought มากเกินไป อาจเกิดการปรับฐานที่รุนแรงได้

ดังนั้น การใช้เครื่องมือยืนยันเพิ่มเติมและการบริหารความเสี่ยง เช่น การตั้ง Stop Loss จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

Q5: ควรใช้ Timeframe แบบใดในการค้นหารูปแบบนี้?

A5: รูปแบบ Upside Tasuki Gap สามารถปรากฏใน Timeframe ใดก็ได้ ตั้งแต่ Timeframe สั้นๆ เช่น 15 นาที (M15) ไปจนถึง Timeframe ที่ยาวขึ้น เช่น รายวัน (Daily) หรือ รายสัปดาห์ (Weekly) โดยทั่วไปแล้ว รูปแบบที่ปรากฏใน Timeframe ที่ยาวขึ้นมักจะมีความน่าเชื่อถือมากกว่า เนื่องจากมีข้อมูลราคาที่มากขึ้น อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์ควรเลือก Timeframe ที่เหมาะสมกับ สไตล์การเทรด ของตนเอง หากคุณเป็น Scalper อาจดูใน Timeframe สั้น แต่ถ้าเป็น Swing Trader อาจมองหาใน Timeframe รายวันหรือ 4 ชั่วโมง

บทสรุป

รูปแบบแท่งเทียน Upside Tasuki Gap เป็นเครื่องมือที่มีคุณค่าสำหรับเทรดเดอร์ในการยืนยันความต่อเนื่องของแนวโน้มขาขึ้น การทำความเข้าใจองค์ประกอบของแท่งเทียนแต่ละแท่ง และจิตวิทยาเบื้องหลังการเคลื่อนไหวของราคาจะช่วยให้คุณสามารถระบุรูปแบบนี้ได้อย่างแม่นยำและนำไปใช้ในการวางแผนการเทรดได้อย่างมั่นใจ

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าไม่ควรพึ่งพารูปแบบแท่งเทียนเพียงรูปแบบเดียว การผสมผสาน Upside Tasuki Gap เข้ากับ เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค อื่นๆ เช่น เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่, ตัวชี้วัดโมเมนตัม หรือ แนวรับแนวต้าน จะช่วยเพิ่มความแม่นยำและลดความเสี่ยงในการเทรดของคุณได้อย่างมาก

ก่อนที่จะนำกลยุทธ์ใดๆ ไปใช้กับการเทรดจริงในบัญชีจริง ควร Backtest กลยุทธ์การซื้อขายอย่างละเอียด และฝึกฝนในบัญชีทดลอง (Demo Account) เพื่อสร้างความคุ้นเคยและเพิ่มความมั่นใจในการตัดสินใจ อย่าลืมว่าการบริหารความเสี่ยงและ วินัยในการเทรด เป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในระยะยาว

You Might Also Like

Contact Us on Line