TOP 10 บทความยอดนิยม

ดูทั้งหมด
เทรดทองคำ

หางเทียนคืออะไร?

กรกฎาคม 20, 2022

หางเทียนคืออะไร? เจาะลึกความหมายและวิธีใช้งานในตลาด Forex

ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคของตลาดการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาด Forex และ ทองคำ “หางเทียน” หรือที่เรียกว่า “เงาเทียน” (Candlestick Shadow หรือ Wick) เป็นองค์ประกอบสำคัญที่บอกเล่าเรื่องราวการเคลื่อนไหวของราคาได้มากกว่าที่ตาเห็น แม้จะดูเป็นเพียงเส้นเล็กๆ ที่ยื่นออกมาจากตัวเทียน แต่กลับแฝงไปด้วยข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความผันผวน แรงซื้อแรงขาย และจุดสูงสุด-ต่ำสุดของราคาในช่วงเวลาหนึ่งๆ บทความนี้จะพาท่านเจาะลึกความหมายของหางเทียน องค์ประกอบของ แท่งเทียน และวิธีนำไปใช้ในการตัดสินใจเทรดอย่างมีประสิทธิภาพ

ความหมายและองค์ประกอบของหางเทียน (Candlestick Shadow)

หางเทียนคือเส้นที่ยื่นออกมาจากส่วนบนและ/หรือส่วนล่างของ “ตัวเทียน” (Real Body) บนแผนภูมิแท่งเทียนญี่ปุ่น โดยทั่วไปแล้ว เราจะเรียกเส้นที่อยู่ด้านบนว่า “ไส้เทียน” (Upper Shadow/Wick) และเส้นที่อยู่ด้านล่างว่า “หางเทียน” (Lower Shadow/Tail) แต่โดยรวมแล้วทั้งสองส่วนนี้ถูกเรียกรวมกันว่า “เงาเทียน” ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวแทนของช่วงราคาที่สินทรัพย์ได้ทำการซื้อขายไปในช่วงเวลาที่กำหนด

ส่วนประกอบของแผนภูมิแท่งเทียน

แผนภูมิแท่งเทียนถูกสร้างขึ้นจากชุดข้อมูลหลัก 4 ค่า ได้แก่ ราคาเปิด (Open), ราคาสูงสุด (High), ราคาต่ำสุด (Low) และราคาปิด (Close) ซึ่งแต่ละส่วนประกอบของแท่งเทียนจะสะท้อนถึงข้อมูลเหล่านี้:

  • ตัวเทียน (Real Body): แสดงถึงช่วงระหว่างราคาเปิดและราคาปิดของสินทรัพย์ในช่วงเวลาที่กำหนด
  • เงาเทียน (Shadows/Wicks/Tails): เส้นที่ยื่นออกมาจากตัวเทียน แบ่งเป็น:
    • ไส้เทียน (Upper Shadow/Wick): แสดงถึงราคาสูงสุด (High) ที่สินทรัพย์ซื้อขายไปในช่วงเวลานั้น
    • หางเทียน (Lower Shadow/Tail): แสดงถึงราคาต่ำสุด (Low) ที่สินทรัพย์ซื้อขายไปในช่วงเวลานั้น

ความแตกต่างของแท่งเทียนตามราคาเปิดและปิด

ลักษณะของตัวเทียนจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างราคาเปิดและราคาปิด:

  • แท่งเทียนกลวง/สีเขียว/สีขาว (Bullish Candlestick):

    เกิดขึ้นเมื่อราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด ในกรณีนี้ ตัวเทียนจะแสดงช่วงราคาตั้งแต่ราคาเปิด (ด้านล่าง) ไปจนถึงราคาปิด (ด้านบน) และเงาเทียนจะยังคงแสดงราคาสูงสุดและต่ำสุดของช่วงนั้นๆ โดยเฉพาะหางเทียนจะแสดงจุดต่ำสุดที่ราคาเคยลงไปก่อนที่จะถูกผลักดันขึ้นมาปิดสูงกว่าราคาเปิด

  • แท่งเทียนทึบ/สีแดง/สีดำ (Bearish Candlestick):

    เกิดขึ้นเมื่อราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด ตัวเทียนจะแสดงช่วงราคาตั้งแต่ราคาเปิด (ด้านบน) ไปจนถึงราคาปิด (ด้านล่าง) และเงาเทียนจะยังคงทำหน้าที่คล้ายกัน โดยหางเทียนจะแสดงจุดต่ำสุดที่ราคาเคยลงไป และไส้เทียนจะแสดงจุดสูงสุดที่ราคาเคยขึ้นไปก่อนที่จะถูกแรงขายกดดันให้ปิดต่ำกว่าราคาเปิด

การตีความหางเทียน: ความผันผวนและแรงขับเคลื่อนตลาด

หางเทียนไม่ได้เป็นเพียงแค่ตัวบอกราคาสูงสุดและต่ำสุดเท่านั้น แต่ยังให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีค่าเกี่ยวกับพลวัตของตลาด อารมณ์ของตลาด และการต่อสู้ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย (Demand-Supply) ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักวิเคราะห์และเทรดเดอร์ในการวาง กลยุทธ์การเทรด

ความยาวของเงาเทียน

  • เงาสั้น:

    เมื่อเงาเทียนทั้งด้านบนและด้านล่างมีความสั้น บ่งชี้ว่าการเคลื่อนไหวของราคาในช่วงเวลานั้นส่วนใหญ่เกิดขึ้นระหว่างราคาเปิดและราคาปิด หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ มีความผันผวนนอกช่วงราคาเปิด-ปิดค่อนข้างน้อย (Volatility) แสดงให้เห็นว่าแรงซื้อและแรงขายมีความสมดุลกัน หรือไม่มีแรงผลักดันที่รุนแรงจากทิศทางใดทิศทางหนึ่ง

  • เงายาว:

    เมื่อเงาเทียนมีความยาว บ่งบอกว่าสินทรัพย์มีการซื้อขายที่ราคาสูงสุดและต่ำสุดอย่างมีนัยสำคัญ ก่อนที่จะกลับมาปิดใกล้กับราคาเปิดหรือราคาปิด แสดงถึงความผันผวนที่สูงในช่วงเวลาดังกล่าว และการต่อสู้ที่ดุเดือดระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย

การเปรียบเทียบความยาวของไส้เทียนและหางเทียน

การวิเคราะห์ความยาวสัมพัทธ์ของไส้เทียน (เงาบน) และหางเทียน (เงาล่าง) สามารถบอกถึงทิศทางของแรงขับเคลื่อนตลาดได้:

ความสำคัญของเงาเทียนในการคาดการณ์การกลับตัวของแนวโน้ม

การก่อตัวของเงาเทียนที่ยาวอย่างมีนัยสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นด้านบนหรือด้านล่าง มักเกิดขึ้นในช่วงที่แนวโน้มปัจจุบันกำลังจะสิ้นสุดลง และก่อนที่จะมีการกลับตัวของราคา ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของแนวโน้มใหม่ในทิศทางตรงกันข้าม

  • เงาบนยาวในแนวโน้มขาขึ้น: หากราคาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น และปรากฏแท่งเทียนที่มีไส้เทียนยาวบ่งบอกว่าผู้ซื้อพยายามดันราคาให้สูงขึ้นไปแล้ว แต่ในที่สุดก็ถูกแรงขายกดดันกลับลงมา นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าแรงซื้อเริ่มอ่อนแอลงและแนวโน้มขาขึ้นกำลังจะสิ้นสุดลง หรือเกิด การกลับตัวเป็นขาลง
  • เงาล่างยาวในแนวโน้มขาลง: ในทางกลับกัน หากราคาอยู่ในแนวโน้มขาลง และปรากฏแท่งเทียนที่มีหางเทียนยาว บ่งบอกว่าผู้ขายพยายามกดราคาให้ต่ำลงไปแล้ว แต่ถูกแรงซื้อดันกลับขึ้นมา นี่อาจเป็นสัญญาณว่าแรงขายเริ่มอ่อนแรง และแนวโน้มขาลงกำลังจะสิ้นสุดลง หรือเกิด การกลับตัวเป็นขาขึ้น

ดังนั้น การสังเกตความยาวและตำแหน่งของหางเทียนจึงเป็นสิ่งสำคัญในการระบุจุดที่มีโอกาสเกิดการกลับตัวของราคา ซึ่งเป็นโอกาสในการเข้าหรือออกจากตลาดสำหรับเทรดเดอร์

การใช้งานหางเทียนร่วมกับกลยุทธ์การเทรด

การทำความเข้าใจหางเทียนช่วยให้เทรดเดอร์สามารถพัฒนาหรือปรับปรุง กลยุทธ์การเทรด ได้หลายวิธี:

  1. การระบุแนวรับและแนวต้าน:

    ปลายสุดของหางเทียนมักจะบ่งบอกถึงระดับราคาที่ตลาดเคยทดสอบแต่ไม่สามารถทะลุผ่านไปได้ ซึ่งอาจกลายเป็น แนวรับหรือแนวต้าน ที่สำคัญในอนาคต หากมีหางเทียนยาวหลายแท่งปรากฏที่ระดับราคาเดียวกัน แสดงว่าระดับนั้นเป็นระดับที่มีนัยสำคัญทางจิตวิทยาที่แรงซื้อหรือแรงขายเข้ามาตอบโต้

  2. การยืนยันรูปแบบแท่งเทียน:

    หางเทียนเป็นส่วนประกอบสำคัญของ รูปแบบแท่งเทียนกลับตัว หลายรูปแบบ เช่น:

    • Hammer และ Hanging Man: มีหางเทียนยาวมากและไส้เทียนสั้นหรือไม่มีเลย ตัวเทียนขนาดเล็ก การปรากฏของ Hammer ในแนวโน้มขาลงเป็นสัญญาณกลับตัวเป็นขาขึ้น ส่วน Hanging Man ในแนวโน้มขาขึ้นเป็นสัญญาณกลับตัวเป็นขาลง
    • Shooting Star และ Inverted Hammer: มีไส้เทียนยาวมากและหางเทียนสั้นหรือไม่มีเลย ตัวเทียนขนาดเล็ก การปรากฏของ Shooting Star ในแนวโน้มขาขึ้นเป็นสัญญาณกลับตัวเป็นขาลง ส่วน Inverted Hammer ในแนวโน้มขาลงเป็นสัญญาณกลับตัวเป็นขาขึ้น
    • Pin Bar: เป็นแท่งเทียนที่มีหางเทียนยาวมากในทิศทางหนึ่ง และตัวเทียนขนาดเล็ก ซึ่งแสดงถึงการปฏิเสธราคาในทิศทางนั้นอย่างรุนแรง

    การทำความเข้าใจบทบาทของหางเทียนในรูปแบบเหล่านี้จะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถยืนยันสัญญาณการซื้อขายได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น

  3. การกำหนดจุด Stop Loss และ Take Profit:

    เทรดเดอร์สามารถใช้ปลายสุดของหางเทียนเป็นแนวทางในการกำหนดจุด Stop Loss หรือ Take Profit ตัวอย่างเช่น หากเข้าซื้อในตลาดขาขึ้นและเห็นแท่งเทียนที่มีหางเทียนยาวด้านล่าง (บ่งชี้ถึงแนวรับ) อาจตั้ง Stop Loss ไว้ต่ำกว่าหางเทียนนั้นเล็กน้อยเพื่อป้องกันความเสี่ยง

✅ ??สมัครยืนยันตัวตนรับ EA ได้ฟรีตลอดชีพ
XM มีโบนัสสำหรับลูกค้าที่สมัครใหม่ $30 และมีโบนัสเงินฝาก

Exness สมัครง่ายฝากถอนเร็ว
https://bit.ly/ExnessCom

MTrading เทรดดีไม่มีสะดุด XAUUSD ไม่มีค่า Swap บนบัญชี M.Pro!
https://bit.ly/MTRatsamee

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับหางเทียน

Q1: หางเทียนคืออะไร และแตกต่างจากไส้เทียนอย่างไร?

A1: หางเทียน (Lower Shadow/Tail) คือเส้นที่ยื่นลงมาจากด้านล่างของตัวเทียนบนแผนภูมิแท่งเทียนญี่ปุ่น แสดงถึงราคาต่ำสุดที่สินทรัพย์ซื้อขายไปในช่วงเวลานั้น ในขณะที่ไส้เทียน (Upper Shadow/Wick) คือเส้นที่ยื่นขึ้นมาจากด้านบนของตัวเทียน แสดงถึงราคาสูงสุดที่สินทรัพย์ซื้อขายไป แม้จะเรียกต่างกัน แต่ทั้งสองส่วนนี้รวมกันเรียกว่า “เงาเทียน” และทำหน้าที่บอกช่วงการเคลื่อนไหวของราคานอกเหนือจากราคาเปิดและปิด

Q2: ความยาวของหางเทียนบอกอะไรเราได้บ้าง?

A2: ความยาวของหางเทียนบ่งบอกถึงระดับความผันผวนและการต่อสู้ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย หากหางเทียนสั้น แสดงว่าราคาไม่ได้เคลื่อนไหวต่ำกว่าราคาเปิด/ปิดมากนัก บ่งบอกถึงความผันผวนต่ำหรือความสมดุลของแรงซื้อขาย แต่หากหางเทียนยาว แสดงว่าราคาเคยลงไปต่ำมากก่อนจะถูกดันกลับขึ้นมา บ่งบอกถึงความผันผวนสูงและมีแรงซื้อที่แข็งแกร่งเข้ามารับซื้อที่ระดับราคาต่ำ

Q3: จะใช้หางเทียนในการระบุสัญญาณกลับตัวของราคาได้อย่างไร?

A3: การปรากฏของหางเทียนที่ยาวอย่างมีนัยสำคัญ สามารถเป็นสัญญาณเตือนการกลับตัวของแนวโน้มได้ ตัวอย่างเช่น หากในแนวโน้มขาลง มีแท่งเทียนที่มีหางเทียนยาวด้านล่าง (และตัวเทียนขนาดเล็ก) ปรากฏขึ้น แสดงว่าผู้ขายพยายามกดราคาลงไปแล้ว แต่ถูกแรงซื้อตอบโต้ดันราคากลับขึ้นมาอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณว่าแนวโน้มขาลงกำลังจะอ่อนแรงลงและมีโอกาสกลับตัวเป็นขาขึ้น เช่นในรูปแบบ Inverted Hammer หรือ Bullish Pin Bar

สรุป

หางเทียนเป็นองค์ประกอบเล็กๆ แต่ทรงพลังบน แผนภูมิแท่งเทียนญี่ปุ่น ที่ให้ข้อมูลอันมีค่าเกี่ยวกับพฤติกรรมของราคา ความผันผวน และแรงผลักดันในตลาด การทำความเข้าใจความหมายของหางเทียน ทั้งความยาวและตำแหน่ง รวมถึงการนำไปวิเคราะห์ร่วมกับส่วนอื่นๆ ของแท่งเทียนและรูปแบบราคา จะช่วยให้นักเทรดสามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลและเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในการเทรด ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือผู้มีประสบการณ์ การให้ความสำคัญกับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เช่น หางเทียน จะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของตลาดได้ชัดเจนยิ่งขึ้นและวางแผนการเทรดได้อย่างแม่นยำ

หากท่านต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับกลยุทธ์การเทรดด้วยแท่งเทียนหรือต้องการเครื่องมือช่วยเทรดอัตโนมัติ (EA) โปรดเยี่ยมชมเว็บไซต์ fttinvesting.com สำหรับบทความและแหล่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์

——–

ติดตามเราได้ที่

?LINE: @ft.th ( https://lin.ee/u0dwlLM )

?Youtube: FTT – investing (https://shorturl.asia/7wqIe )

?Tiktok: https://vt.tiktok.com/ZSdVyv7Ny/

You Might Also Like

Contact Us on Line
ลักษณะเงาเทียน การตีความ ความหมายสำหรับเทรดเดอร์
ไส้เทียน (Upper Shadow) ยาวกว่าหางเทียน (Lower Shadow) บ่งชี้ว่าผู้ซื้อพยายามดันราคาสูงขึ้นอย่างมาก แต่ถูกแรงขายกดดันกลับลงมา ทำให้ราคาปิดต่ำกว่าราคาสูงสุดที่ทำได้
  • แสดงถึงการครอบงำของแรงขายในช่วงท้ายของช่วงเวลา
  • อาจเป็นสัญญาณของการกลับตัวเป็นขาลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเกิดขึ้นหลังแนวโน้มขาขึ้น (Bearish Reversal Signal)
  • ตัวอย่าง: รูปแบบ Shooting Star หรือ Bearish Engulfing
หางเทียน (Lower Shadow) ยาวกว่าไส้เทียน (Upper Shadow) บ่งชี้ว่าผู้ขายพยายามกดราคาลงอย่างมาก แต่ถูกแรงซื้อดันกลับขึ้นมา ทำให้ราคาปิดสูงกว่าราคาต่ำสุดที่ทำได้
  • แสดงถึงการครอบงำของแรงซื้อในช่วงท้ายของช่วงเวลา
  • อาจเป็นสัญญาณของการกลับตัวเป็นขาขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเกิดขึ้นหลังแนวโน้มขาลง (Bullish Reversal Signal)
  • ตัวอย่าง: รูปแบบ Hammer หรือ Bullish Engulfing
ไส้เทียนและหางเทียนยาวพอๆ กัน (Spinning Top/Doji) บ่งบอกถึงความไม่แน่นอนในตลาด หรือการต่อสู้ที่สูสีระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ทำให้ราคาเปิดและราคาปิดอยู่ใกล้กัน
  • เป็นสัญญาณของความไม่แน่ชัด (Indecision)
  • หากเกิดขึ้นหลังจากแนวโน้มที่แข็งแกร่ง อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าแนวโน้มกำลังจะอ่อนแรงลงหรือมีการกลับตัว
  • ตัวอย่าง: Doji Candlestick หรือ Spinning Top