TOP 10 บทความยอดนิยม

ดูทั้งหมด
สอนเทรดมือใหม่

รูปแบบแท่งเทียน Shooting Star

สิงหาคม 26, 2022

รูปแบบแท่งเทียน Shooting Star: สัญญาณการกลับตัวของแนวโน้มขาลงที่นักเทรดควรรู้

การวิเคราะห์แท่งเทียนเป็นหัวใจสำคัญของการเทรดในตลาดการเงิน รูปแบบแท่งเทียนที่หลากหลายสามารถบอกเล่าเรื่องราวของการต่อสู้ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายได้อย่างมีนัยสำคัญ หนึ่งในรูปแบบที่ทรงพลังและได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางคือ Shooting Star ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนการกลับตัวของแนวโน้มขาลงที่มีความแม่นยำสูง บทความนี้จะเจาะลึกถึงโครงสร้าง ความสำคัญ จิตวิทยา และกลยุทธ์การเทรดด้วยรูปแบบ Shooting Star อย่างละเอียด เพื่อให้นักเทรดสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

รูปแบบแท่งเทียน Shooting Star

ทำความเข้าใจรูปแบบแท่งเทียน Shooting Star คืออะไร?

รูปแบบแท่งเทียน Shooting Star เป็นสัญญาณการกลับตัวของแนวโน้มขาลง (Bearish Reversal Pattern) ที่เกิดขึ้นหลังจากการเคลื่อนไหวของราคาที่เป็นขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง มันบ่งชี้ถึงความพยายามของผู้ซื้อที่จะผลักดันราคาให้สูงขึ้น แต่ในที่สุดก็ถูกปฏิเสธอย่างรุนแรงจากแรงขาย ทำให้ราคาปิดตัวลงใกล้ระดับเปิด รูปแบบนี้เป็นหนึ่งใน รูปแบบแท่งเทียนกลับตัว ที่นักเทรดนิยมใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค โดยเฉพาะในตลาดที่มีความผันผวนสูง เช่น Forex หรือทองคำ

เมื่อ Shooting Star ปรากฏขึ้นในกราฟราคา นักเทรดจะตีความว่าผู้ขายกำลังเข้ามามีอำนาจเหนือตลาด และมีศักยภาพที่จะเปลี่ยนทิศทางของแนวโน้มขาขึ้นให้กลายเป็นแนวโน้มขาลง สิ่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการวางแผนการซื้อขายและการจัดการความเสี่ยง

รูปแบบแท่งเทียน Shooting Star

โครงสร้างที่สมบูรณ์แบบของแท่งเทียน Shooting Star

การระบุรูปแบบ Shooting Star ที่แม่นยำนั้นมีหลักเกณฑ์สำคัญ 3 ประการดังนี้:

  1. โครงสร้างของแท่งเทียน:
    • เงาบนยาว (Long Upper Shadow): เป็นลักษณะเด่นที่สุดของ Shooting Star เงาบนจะต้องยาวอย่างน้อย 2-3 เท่าของตัวแท่งเทียนจริง เงาที่ยาวนี้แสดงถึงการที่ราคาทะยานขึ้นไปสูงมากในช่วงเวลาซื้อขาย แต่ถูกแรงขายกดดันกลับลงมาอย่างรวดเร็ว
    • ตัวแท่งเทียนจริงขนาดเล็ก (Small Real Body): ตัวแท่งเทียนควรมีขนาดเล็กมาก และอยู่บริเวณส่วนล่างสุดของช่วงราคาทั้งหมด (ใกล้ราคาเปิดและราคาปิด) ตัวแท่งเทียนอาจเป็นสีเขียว (Bullish) หรือสีแดง (Bearish) ก็ได้ แต่หากเป็นสีแดงจะถือเป็นสัญญาณขาลงที่แข็งแแกร่งกว่าเล็กน้อย เพราะแสดงถึงการที่ราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด
    • เงามล่างสั้นหรือไม่มีเลย (Little or No Lower Shadow): แท่งเทียน Shooting Star ที่สมบูรณ์แบบควรมีเงาล่างที่สั้นมากหรือไม่ปรากฏเลย สิ่งนี้ยืนยันว่าไม่มีแรงซื้อเข้ามาดันราคาขึ้นจากจุดต่ำสุดของช่วงราคา
    • อัตราส่วน: เพื่อให้เป็น Shooting Star ที่มีนัยสำคัญ เงาบนควรมีสัดส่วนมากกว่า 70% ของความยาวแท่งเทียนทั้งหมด และตัวแท่งเทียนจริงควรมีสัดส่วนน้อยกว่า 40% ของความยาวแท่งเทียนทั้งหมด หากไม่เป็นไปตามนี้ อาจไม่ใช่ Shooting Star ที่แข็งแกร่งพอ
  2. แนวโน้มก่อนหน้า (Prior Trend):
    • ต้องเป็นแนวโน้มขาขึ้น: Shooting Star จะมีความหมายก็ต่อเมื่อเกิดขึ้นหลังจากที่ราคาได้เคลื่อนที่เป็นแนวโน้มขาขึ้นมาอย่างชัดเจนแล้วเท่านั้น รูปแบบนี้จะบ่งชี้ถึงภาวะ "ซื้อมากเกินไป" (Overbought) และการหมดแรงของฝั่งผู้ซื้อ หากปรากฏในช่วงแนวโน้มขาลงหรือช่วงที่ราคาเคลื่อนที่ในกรอบ จะไม่ถือว่าเป็น Shooting Star และไม่มีนัยสำคัญในการกลับตัว
    • ความสำคัญของแนวโน้ม: การที่ราคาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นก่อนหน้านั้นเป็นเงื่อนไขที่สำคัญที่สุด เพราะมันสะท้อนว่าผู้ซื้อได้พยายามผลักดันราคามาอย่างต่อเนื่อง และเมื่อมีแรงขายเข้ามากดดันจนเกิดเป็น Shooting Star มันคือสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงอำนาจในตลาดอย่างมีนัยยะ
  3. ตำแหน่งของแท่งเทียน (Location of Candlestick):
    • ที่ระดับแนวต้านสำคัญ: ตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับ Shooting Star คือบริเวณ ระดับแนวต้าน (Resistance Level) ที่แข็งแกร่ง หรือบริเวณโซน Supply ที่เคยมีแรงขายหนาแน่นมาก่อน การที่ Shooting Star เกิดขึ้นที่จุดเหล่านี้จะเพิ่มความน่าเชื่อถือของการกลับตัวอย่างมาก เพราะมันแสดงถึงการที่ราคาทะลุแนวต้านไปได้เพียงชั่วครู่ก่อนจะถูกปฏิเสธอย่างรุนแรง
    • การยืนยันด้วยเงายาว: นอกจากนี้ เงาบนที่ยาวของ Shooting Star ควรยื่นออกมานอกช่วงของแท่งเทียนก่อนหน้าอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นการยืนยันถึงความพยายามที่ล้มเหลวในการสร้างจุดสูงสุดใหม่ และการเข้ามาของแรงขายที่แข็งแกร่ง

โครงสร้าง Shooting Star
ตำแหน่ง Shooting Star

ตารางสรุปข้อมูลรูปแบบแท่งเทียน Shooting Star

คุณสมบัติ คำอธิบาย
จำนวนแท่งเทียน 1
คาดการณ์ การกลับตัวของแนวโน้มขาลง (Bearish Reversal)
แนวโน้มก่อนหน้า แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend)
รูปแบบคู่ตรงข้าม แท่งเทียน Hammer (ในแนวโน้มขาลง)

จิตวิทยาเบื้องหลังแท่งเทียน Shooting Star: บอกอะไรกับนักเทรด?

การทำความเข้าใจจิตวิทยาการซื้อขายที่อยู่เบื้องหลังรูปแบบ Shooting Star เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการนำไปใช้เทรดจริง แท่งเทียนนี้บอกเล่าเรื่องราวการต่อสู้ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายในช่วงเวลาหนึ่ง ดังนี้:

  1. การเริ่มต้นวัน/ช่วงเวลา: ราคาเปิดตัวขึ้นในช่วงเวลาซื้อขาย โดยที่ผู้ซื้อยังคงมีอำนาจและผลักดันราคาให้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สร้างจุดสูงสุดใหม่ แสดงถึงความมั่นใจและแรงซื้อที่แข็งแกร่งในตอนแรก
  2. การเข้าแทรกแซงของแรงขาย: เมื่อราคาขึ้นไปถึงจุดสูงสุด (ซึ่งมักจะเป็นบริเวณแนวต้านสำคัญ) ผู้ขายจำนวนมากจะเข้าสู่ตลาด พวกเขาอาจเป็นผู้ที่ต้องการทำกำไรจากสถานะซื้อเดิม หรือผู้ที่คาดการณ์ว่าราคาจะกลับตัวลง จึงเปิดสถานะขายใหม่
  3. การปฏิเสธราคาอย่างรุนแรง: แรงขายที่เข้ามาอย่างมหาศาลจะกดดันราคาให้ลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ราคาไม่สามารถรักษาระดับสูงสุดไว้ได้ การที่ราคาตกลงมาอย่างรุนแรงจนเกิดเป็นเงาบนที่ยาว แสดงถึงความล้มเหลวของผู้ซื้อในการรักษาโมเมนตัมขาขึ้น และการครอบงำของแรงขาย
  4. การปิดตัวลงต่ำ: ในที่สุด ราคาจะปิดตัวลงใกล้ระดับราคาเปิด หรือต่ำกว่าราคาเปิดเล็กน้อย (หากเป็นแท่งแดง) ซึ่งเป็นหลักฐานชัดเจนว่าผู้ขายได้เข้าควบคุมสถานการณ์และเอาชนะผู้ซื้อได้ในท้ายที่สุด
  5. ความสำคัญของการปฏิเสธ: เงาบนที่ยาวของ Shooting Star เป็นการแสดงออกถึง "การปฏิเสธราคา" จากระดับใดระดับหนึ่งอย่างชัดเจน เปรียบเสมือนกำแพงที่ราคาไม่สามารถผ่านไปได้ นี่คือหัวใจสำคัญของจิตวิทยา Shooting Star

นอกจากนี้ อีกเหตุผลสำคัญที่ทำให้ Shooting Star บ่งชี้ถึงการกลับตัว คือการที่มันมักจะเกิดขึ้นใน ภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought Condition) หลังจากที่ราคาเคลื่อนที่เป็นแนวโน้มขาขึ้นมานาน เมื่อราคาถึงจุดที่ตลาดถูก "ซื้อมากเกินไป" โอกาสที่ราคาจะกลับตัวจากแนวต้านจะเพิ่มสูงขึ้น การก่อตัวของ Shooting Star ที่ระดับแนวต้านในภาวะเช่นนี้จึงเป็นการยืนยันสัญญาณการกลับตัวเป็นขาลงที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

จิตวิทยาแท่งเทียน Shooting Star

การทำความเข้าใจจิตวิทยาเหล่านี้จะช่วยให้นักเทรดสามารถแยกแยะ Shooting Star ที่มีประสิทธิภาพออกจากแท่งเทียนที่มีลักษณะคล้ายกันแต่ไม่มีนัยสำคัญได้

กลยุทธ์การเทรดด้วยแท่งเทียน Shooting Star

การเทรดด้วยรูปแบบ Shooting Star เพียงอย่างเดียวอาจมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากสัญญาณแท่งเทียนมักจะให้ความแม่นยำสูงขึ้นเมื่อใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ การรวมสัญญาณเข้าด้วยกัน (Confluence) จะช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ

เคล็ดลับ: รูปแบบแท่งเทียนโดยตัวมันเองไม่ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับระดับการทำกำไร (Take Profit) ที่ชัดเจน เพราะเป็นเพียงสัญญาณของการกลับตัวของแนวโน้มเท่านั้น ดังนั้น นักเทรดควรใช้เครื่องมือทางเทคนิคอื่น ๆ เช่น รูปแบบกราฟ (Chart Patterns), แนวรับแนวต้าน (Support & Resistance), หรืออินดิเคเตอร์ (Indicators) เพื่อกำหนดเป้าหมายการทำกำไรและเพิ่มประสิทธิภาพของกลยุทธ์

สัญญาณซื้อขาย Shooting Star: จุดเข้าและจุดออก

เมื่อคุณระบุ Shooting Star ที่มีโครงสร้างและตำแหน่งที่เหมาะสมในแนวโน้มขาขึ้นได้แล้ว นี่คือแนวทางการซื้อขาย:

  1. การเปิดคำสั่งขาย (Entry):
    • การเข้าแบบเสี่ยงสูง (Aggressive Entry): ทันทีที่แท่งเทียน Shooting Star ปิดตัวลง ยืนยันว่าสมบูรณ์แบบ คุณสามารถเปิดคำสั่งขาย (Sell Order) ได้ทันทีในแท่งเทียนถัดไป
    • การเข้าแบบอนุรักษ์นิยม (Conservative Entry): รอให้ราคาของแท่งเทียนถัดไปลดลงต่ำกว่าราคาปิดของ Shooting Star ก่อนที่จะเข้าคำสั่งขาย เพื่อยืนยันว่าแรงขายยังคงมีอยู่จริง นี่เป็นวิธีที่ปลอดภัยกว่าแต่ก็อาจทำให้พลาดโอกาสได้เล็กน้อย
  2. การกำหนดจุดหยุดขาดทุน (Stop Loss):
    • สำหรับนักเทรดที่มีความเสี่ยงสูง: วางจุดหยุดขาดทุนไว้เหนือจุดสูงสุด (High) ของแท่งเทียน Shooting Star เพียงเล็กน้อย เพื่อจำกัดการขาดทุนหากราคายังคงเคลื่อนที่ขึ้นต่อไป
    • สำหรับนักเทรดแบบอนุรักษ์นิยม: วางจุดหยุดขาดทุนไว้เหนือระดับแนวต้านที่ Shooting Star เกิดขึ้น หรือเหนือจุดสูงสุดก่อนหน้าในแนวโน้มขาขึ้น สิ่งนี้ให้พื้นที่หายใจแก่ราคามากขึ้น แต่ก็หมายถึงการรับความเสี่ยงที่สูงขึ้นเล็กน้อยเช่นกัน
  3. การกำหนดจุดทำกำไร (Take Profit):
    • อย่างที่กล่าวไปข้างต้น Shooting Star ไม่ได้บอกระดับ Take Profit ที่ชัดเจน คุณควรใช้เครื่องมืออื่น ๆ เช่น ระดับแนวรับถัดไป, Fibonacci retracement, หรือเป้าหมายจาก รูปแบบกราฟอื่นๆ เพื่อกำหนดจุดทำกำไรที่มีเหตุผล
    • ตัวอย่าง: หาก Shooting Star เกิดขึ้นที่แนวต้านสำคัญ คุณอาจตั้งเป้าทำกำไรที่แนวรับถัดไป หรือที่จุดต่ำสุดก่อนหน้าที่สำคัญ

กลยุทธ์เทรด Shooting Star

การเพิ่มความแม่นยำด้วยการบรรจบของเครื่องมือทางเทคนิคอื่นๆ

เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือของสัญญาณ Shooting Star คุณควรพิจารณาปัจจัยเหล่านี้ร่วมด้วย:

  • ปริมาณการซื้อขาย (Volume): หาก Shooting Star เกิดขึ้นพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่สูงอย่างมีนัยสำคัญ จะเพิ่มความแข็งแกร่งของสัญญาณการกลับตัว เพราะแสดงว่ามีการต่อสู้ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายที่รุนแรงและมีแรงขายเข้ามากดดันอย่างแท้จริง
  • อินดิเคเตอร์ (Indicators): ใช้ อินดิเคเตอร์ เช่น RSI (Relative Strength Index) หรือ Stochastic Oscillator เพื่อยืนยันภาวะ Overbought หาก Shooting Star เกิดขึ้นในขณะที่ RSI หรือ Stochastic แสดงสัญญาณ Overbought (เช่น RSI สูงกว่า 70) จะยิ่งเพิ่มความน่าเชื่อถือของการกลับตัว
  • โครงสร้างตลาด (Market Structure): พิจารณา Shooting Star ในบริบทของโครงสร้างตลาดโดยรวม หากมันสอดคล้องกับจุดสูงสุดของวงจรสวิง (Swing High) หรือใกล้เส้นแนวโน้มขาขึ้นที่กำลังจะสิ้นสุด ก็จะให้สัญญาณที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
  • กรอบเวลา (Timeframe): Shooting Star ที่เกิดขึ้นในกรอบเวลาที่ใหญ่ขึ้น (เช่น H4, Daily, Weekly) มักจะให้สัญญาณที่มีความน่าเชื่อถือมากกว่าในกรอบเวลาที่เล็กกว่า (เช่น M5, M15) เนื่องจากสะท้อนการตัดสินใจของผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดมากกว่า

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับรูปแบบแท่งเทียน Shooting Star

เปอร์เซ็นต์ที่ชนะของแท่งเทียน Shooting Star คืออะไร?

เปอร์เซ็นต์การชนะของรูปแบบแท่งเทียน Shooting Star ไม่ได้คงที่ แต่ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ได้แก่ กรอบเวลาที่ใช้, สินทรัพย์ทางการเงินที่เทรด, และการบริหารความเสี่ยงที่นักเทรดนำมาใช้ อย่างไรก็ตาม หากคุณใช้การตั้งค่าอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่ 1:1 และมีการยืนยันสัญญาณด้วยการบรรจบของระดับแนวต้านที่แข็งแกร่งและภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) อัตราส่วนการชนะสามารถเพิ่มขึ้นได้มากกว่า 60% เสมอ การรวมสัญญาณเข้าด้วยกันจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและเปอร์เซ็นต์การชนะได้อย่างมีนัยสำคัญ

จะเกิดอะไรขึ้นหากแท่งเทียน Shooting Star เกิดขึ้นหลังจากแนวโน้มขาลง?

หากแท่งเทียนที่มีลักษณะเหมือน Shooting Star เกิดขึ้นหลังจากแนวโน้มขาลง มันจะไม่เรียกว่า Shooting Star แต่จะถูกเรียกว่า Inverted Hammer (ค้อนกลับหัว) ซึ่งเป็นรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวขาขึ้น (Bullish Reversal Pattern) แทน แท่งเทียน Inverted Hammer จะบ่งบอกถึงการปฏิเสธราคาจากจุดต่ำสุด และศักยภาพในการกลับตัวเป็นขาขึ้น การทำความเข้าใจจิตวิทยาและตำแหน่งที่แท้จริงของรูปแบบแท่งเทียนจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะความหมายของรูปแบบสามารถเปลี่ยนแปลงไปได้เพียงแค่เปลี่ยนตำแหน่งที่ปรากฏบนแผนภูมิราคา

สีของ Shooting Star คือสีแดงหรือสีเขียว?

สำหรับรูปแบบแท่งเทียน Shooting Star นั้น สีของตัวแท่งเทียนจริง (Real Body) ไม่ได้มีความสำคัญเท่ากับโครงสร้างและตำแหน่งของมัน ไม่ว่าตัวแท่งเทียนจะเป็นสีแดง (ราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด) หรือสีเขียว (ราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด) ก็ยังคงเป็น Shooting Star ที่บ่งชี้ถึงการกลับตัวเป็นแนวโน้มขาลงได้ อย่างไรก็ตาม หากตัวแท่งเทียนเป็นสีแดง (Bearish) จะถือว่าเป็นสัญญาณการกลับตัวที่แข็งแกร่งกว่าเล็กน้อย เนื่องจากเป็นการยืนยันว่าแรงขายสามารถกดดันราคาให้ปิดต่ำกว่าราคาเปิดได้ สิ่งสำคัญที่สุดคือโครงสร้างของแท่งเทียน (เงาบนยาว, ตัวแท่งเล็ก, เงามล่างสั้น) และการเกิดขึ้นในแนวโน้มขาขึ้นที่ระดับแนวต้าน

สรุป

รูปแบบแท่งเทียน Shooting Star เป็นเครื่องมือที่มีคุณค่าในการวิเคราะห์ทางเทคนิค ซึ่งสามารถให้นัยยะสำคัญเกี่ยวกับการกลับตัวของแนวโน้มขาลงได้อย่างแม่นยำ อย่างไรก็ตาม การใช้งานที่มีประสิทธิภาพต้องอาศัยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในโครงสร้าง จิตวิทยา และการนำไปประยุกต์ใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ

คำแนะนำสำคัญ:

  • ทำความเข้าใจโครงสร้าง: จดจำลักษณะเด่นของ Shooting Star ทั้งเงาบนยาว ตัวแท่งเล็ก และเงาล่างสั้น
  • เรียนรู้จิตวิทยา: เข้าใจว่าการก่อตัวของ Shooting Star สะท้อนถึงการต่อสู้และการเข้าครอบงำของแรงขายในตลาดอย่างไร
  • ใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่น: อย่าเทรดด้วย Shooting Star เพียงลำพัง ควรใช้ร่วมกับแนวรับแนวต้าน, อินดิเคเตอร์, และรูปแบบกราฟอื่นๆ เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ
  • ฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ: การฝึกฝนการระบุและการเทรดด้วย Shooting Star บนบัญชี Demo Account เป็นสิ่งสำคัญก่อนที่จะนำไปใช้กับเงินจริง

การเรียนรู้และฝึกฝนรูปแบบแท่งเทียนที่สำคัญเพียงไม่กี่รูปแบบอย่างเชี่ยวชาญ จะเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งในการพัฒนาทักษะการเทรดของคุณให้ประสบความสำเร็จในระยะยาว

You Might Also Like

Contact Us on Line