TOP 10 บทความยอดนิยม

ดูทั้งหมด
ระบบเทรดสั้น

3 กลยุทธ์การซื้อขาย Exponential Moving Average(EMA)

กรกฎาคม 11, 2022

ทำความเข้าใจ EMA ในการซื้อขาย: Exponential Moving Average เครื่องมือสำคัญสำหรับเทรดเดอร์

ในโลกของการซื้อขายที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเทรดเดอร์ในการทำความเข้าใจพฤติกรรมของตลาดและตัดสินใจอย่างชาญฉลาด หนึ่งในเครื่องมือที่ได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพมากที่สุดคือ Exponential Moving Average (EMA) หรือ ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โพเนนเชียล ซึ่งเป็นอินดิเคเตอร์ที่ล้าหลัง แต่ให้สัญญาณที่ตอบสนองต่อราคาได้ดีกว่าเมื่อเทียบกับ ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ประเภทอื่น ๆ บทความนี้จะเจาะลึกถึงความหมาย การทำงาน กลยุทธ์การใช้งาน รวมถึงข้อดีและข้อควรระวังของ EMA เพื่อให้คุณสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

EMA คืออะไร และมีความแตกต่างจาก Moving Average ประเภทอื่นอย่างไร?

ตามคำนิยามทางสถิติของ Wikipedia, “ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average) คือการคำนวณเพื่อวิเคราะห์จุดข้อมูลโดยการสร้างชุดค่าเฉลี่ยของชุดย่อยต่างๆ ของชุดข้อมูลทั้งหมด” ในบริบทของการซื้อขาย EMA เป็นหนึ่งในรูปแบบของค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่ใช้ในการทำให้ข้อมูลราคามีความราบรื่นขึ้น เพื่อช่วยให้เทรดเดอร์มองเห็นแนวโน้มของราคาได้ชัดเจนขึ้น

ความแตกต่างระหว่าง EMA และ SMA

ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่ใช้บ่อยที่สุดในตลาดมีอยู่สองประเภทหลัก ได้แก่:

  • Simple Moving Average (SMA): ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างง่าย
  • Exponential Moving Average (EMA): ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โพเนนเชียล

SMA คำนวณโดยการนำราคาปิดในช่วงเวลาที่กำหนดมารวมกันแล้วหารด้วยจำนวนช่วงเวลานั้น ซึ่งจะให้ ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่เท่ากันสำหรับทุกราคาในช่วงเวลาที่คำนวณ ตัวอย่างเช่น SMA 10 วัน จะคำนวณจากราคาปิดของ 10 วันย้อนหลัง โดยให้ความสำคัญกับทุกวันเท่ากัน

ในทางตรงกันข้าม EMA ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อปรับปรุงปัญหาเรื่อง “ความล้าหลัง” ที่พบใน SMA โดย EMA จะให้น้ำหนักกับการเคลื่อนไหวของราคาล่าสุดมากกว่าราคาในอดีต (หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความล้าหลังของอินดิเคเตอร์ โปรดศึกษาเพิ่มเติม) แนวคิดเบื้องหลังคือ การเคลื่อนไหวของราคาที่เกิดขึ้นใหม่มีนัยสำคัญต่อทิศทางของตลาดในอนาคตมากกว่าการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นนานแล้ว ด้วยเหตุนี้ EMA จึงเป็น “เวอร์ชันที่ตอบสนองต่อราคาได้เร็วกว่า” ของ SMA

ตัวอย่างแผนภูมิ EMA

แผนภูมิแสดงตัวอย่างเส้น EMA

ลองดูภาพเปรียบเทียบในแผนภูมิหุ้นด้านล่าง เพื่อทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่าง SMA และ EMA ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

ความแตกต่างระหว่าง SMA และ EMA

การเปรียบเทียบ SMA และ EMA บนแผนภูมิหุ้น

วิธีการคำนวณ EMA

เทรดเดอร์หลายคนอาจสงสัยว่า Exponential Moving Average (EMA) คำนวณอย่างไร แม้ว่าแพลตฟอร์มการซื้อขายส่วนใหญ่จะคำนวณ EMA ให้อัตโนมัติ แต่การเข้าใจหลักการคำนวณจะช่วยให้คุณใช้งาน EMA ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

สูตรการคำนวณ EMA มีความซับซ้อนกว่า SMA เล็กน้อยเนื่องจากมีการถ่วงน้ำหนักราคา โดยมีขั้นตอนดังนี้:

  1. คำนวณ SMA เริ่มต้น: สำหรับ EMA ช่วงเวลา N คุณจะต้องคำนวณ SMA N วันแรกก่อน
    สูตร: SMA = ผลรวมราคาปิด N งวด / N
    ตัวอย่าง: หากใช้ EMA 3 ช่วงเวลา, SMA เริ่มต้น = (ราคาปิดงวด 1 + ราคาปิดงวด 2 + ราคาปิดงวด 3) / 3
  2. คำนวณตัวคูณ (Multiplier): ตัวคูณนี้จะกำหนดระดับการให้น้ำหนักกับราคาล่าสุด
    สูตร: ตัวคูณ = (2 / (ช่วงเวลา + 1))
    ตัวอย่าง: หากใช้ EMA 3 ช่วงเวลา, ตัวคูณ = (2 / (3 + 1)) = (2 / 4) = 0.5
  3. คำนวณ EMA ปัจจุบัน: ใช้ EMA ของวันก่อนหน้าเพื่อคำนวณ EMA ของวันปัจจุบัน
    สูตร: EMA ปัจจุบัน = {ราคาปิดปัจจุบัน - EMA (วันก่อนหน้า)} x ตัวคูณ + EMA (วันก่อนหน้า)

การใช้สูตรนี้ช่วยให้ EMA สามารถสะท้อนการเปลี่ยนแปลงของราคาได้อย่างรวดเร็วและให้มุมมองเฉพาะของตลาดที่ตอบสนองต่อสถานการณ์ปัจจุบันได้ดีกว่า SMA

EMA ทำงานอย่างไรในตลาด?

การใช้ EMA ในการซื้อขายสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวโน้มของตลาดได้ หัวใจหลักของ EMA คือการทำให้ข้อมูลราคามีความราบรื่น เพื่อให้เทรดเดอร์สามารถมองเห็นภาพรวมที่ชัดเจนว่าราคาของสินทรัพย์กำลังเคลื่อนไหวไปในทิศทางใดในช่วงเวลาที่กำหนด

กล่าวอีกนัยหนึ่ง ระบบการซื้อขาย EMA สามารถใช้เพื่อระบุว่าตลาดกำลัง:

  • เคลื่อนที่สูงขึ้น (Uptrend): เมื่อ EMA มีทิศทางชี้ขึ้น แสดงว่าราคามีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
  • เคลื่อนตัวต่ำลง (Downtrend): เมื่อ EMA มีทิศทางชี้ลง แสดงว่าราคามีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง
  • เคลื่อนที่ไปด้านข้าง (Sideways): เมื่อ EMA เคลื่อนที่เป็นเส้นราบ แสดงว่าตลาดอยู่ในช่วงไม่มีทิศทางที่ชัดเจน

นอกจากนี้ การสังเกตการเปลี่ยนแปลงของ EMA เมื่อเวลาผ่านไป ยังสามารถใช้เพื่อ ระบุระดับแนวรับและแนวต้าน แบบไดนามิกได้อีกด้วย ซึ่งหมายความว่าเส้น EMA สามารถทำหน้าที่เป็นเส้นที่ราคาอาจกลับตัวหรือพักตัวได้ตามสถานการณ์ของตลาด (ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลยุทธ์แนวรับและแนวต้าน)

มาดูกันว่าเครื่องมือการซื้อขายหุ้น EMA สามารถนำมาใช้ในทางปฏิบัติได้อย่างไรในกลยุทธ์การซื้อขายต่างๆ

3 กลยุทธ์การซื้อขาย EMA ที่มีประสิทธิภาพ

แตกต่างจาก SMA ที่มักใช้ยืนยันแนวโน้มในระยะยาว EMA มีประสิทธิภาพโดดเด่นสำหรับการระบุ การกลับตัวของแนวโน้ม เนื่องจาก EMA ให้น้ำหนักกับราคาล่าสุดมากกว่า เมื่อความชันของเส้น EMA เริ่มเปลี่ยนทิศทางจากล่างขึ้นบน อาจส่งสัญญาณถึงแนวโน้มขาขึ้น ในทางกลับกัน เมื่อความชัน EMA เริ่มเปลี่ยนทิศทางจากบนลงล่าง อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงแนวโน้มขาลง (เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับรูปแบบแท่งเทียนกลับตัว) ด้วยความไวต่อการเปลี่ยนแปลงราคาที่มากกว่า ทำให้ EMA เป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมในการจับการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มได้รวดเร็วขึ้น

ด้านล่างนี้ เราจะอธิบายสามวิธีง่ายๆ ในการใช้ Exponential Moving Average ในการซื้อขายหุ้น รวมถึงการเทรดแบบ Day Trading ด้วย EMA

1. การใช้ Exponential Moving Averages (EMA) เพื่อเทรด Pullbacks (การย่อตัว)

การเทรดโดยใช้ EMA สามารถสร้างผลกำไรได้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ EMA ในระยะยาว โดย EMA 200 วัน ถือเป็นหนึ่งในเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่ทรงพลังที่สุดที่เทรดเดอร์สามารถนำมาใช้ได้

สำหรับการตั้งค่าการเทรด Pullback ที่ถูกต้องตามหลัก EMA เราจำเป็นต้องสังเกตการณ์สองสิ่งต่อไปนี้:

  1. การแบ่งตัวของ EMA: ราคาต้องมีการทะลุผ่านหรือเคลื่อนห่างออกจากเส้น EMA อย่างชัดเจน แสดงถึงโมเมนตัมที่แข็งแกร่งในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง
  2. การสร้างพื้นที่ว่าง: ราคามีการเคลื่อนตัวออกห่างจากเส้น EMA มากขึ้น ซึ่งสร้าง “พื้นที่ว่าง” ที่บ่งบอกถึงโอกาสที่ราคาจะย่อตัวกลับมาทดสอบเส้น EMA อีกครั้ง

เมื่อทั้งสองปัจจัยนี้สอดคล้องกัน เราก็จะได้การตั้งค่าการซื้อขาย EMA ที่มีประสิทธิภาพสำหรับการเทรด Pullbacks.

กลยุทธ์ EMA เพื่อเทรด Pullbacks

แผนภูมิหุ้นที่แสดงกลยุทธ์การเทรด Pullbacks ด้วย EMA

2. การใช้ Exponential Moving Averages (EMA) เพื่อติดตาม Stop Loss

เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โพเนนเชียลเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมในการระบุ แนวรับและแนวต้าน แบบไดนามิก ซึ่งมีความยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนไปตามการเคลื่อนไหวของราคา ข้อมูลนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการวางคำสั่ง Stop Loss (SL)

แทนที่จะใช้ระดับราคาคงที่สำหรับ Stop Loss คุณสามารถใช้เส้น EMA เพื่อติดตาม SL ของคุณให้อยู่เหนือหรือใต้เส้น EMA ที่เกี่ยวข้องได้ (ขึ้นอยู่กับว่าเป็นแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลง) แนวคิดคือ เมื่อแนวโน้มยังคงดำเนินต่อไป เส้น EMA จะเคลื่อนที่ไปพร้อมกับราคา ทำให้คุณสามารถปรับ Stop Loss เพื่อล็อคกำไรหรือลดความเสี่ยงได้

นอกจากนี้ ควรใช้ “บัฟเฟอร์” สำหรับ Stop Loss ของคุณด้วย เพื่อป้องกันการถูกกระชากออกจากตลาดจาก การฝ่าวงล้อมที่ผิดพลาด (False Breakouts) ที่อาจเกิดขึ้นได้ การเพิ่มบัฟเฟอร์เล็กน้อยเหนือหรือใต้ EMA จะช่วยให้คุณมีระยะห่างสำหรับการเคลื่อนไหวของราคาที่ไม่คาดคิด

EMA เพื่อติดตาม Stop Loss

ตัวอย่างการใช้ EMA ในการติดตาม Stop Loss

3. การใช้ Exponential Moving Averages (EMA) เพื่อป้องกันการซื้อขายที่ไม่ดี

ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โพเนนเชียลเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมในการกำหนดแนวโน้มที่มั่นคง และยังช่วยป้องกันคุณจากการเข้าสู่การเทรดที่ไม่ดีอีกด้วย

แล้วสิ่งนี้เกี่ยวข้องกับการอยู่ห่างจากการซื้อขายที่ไม่ดีอย่างไร?

เป็นที่ทราบกันดีว่า เทรดเดอร์ รายย่อยส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะเทรดสวนแนวโน้ม (Counter-Trend Trading) ซึ่งมักนำไปสู่การขาดทุน (วินัยในการเทรดคือสิ่งสำคัญ)

เทคนิค EMA ง่ายๆ หนึ่งอย่างที่เราสามารถใช้ได้คือการดู “ความชันของ EMA” หาก EMA มีมุมชันมาก ไม่ว่าจะเป็นขาขึ้นหรือขาลง การพยายามเทรดสวนสัญญาณนั้นอาจไม่ใช่ความคิดที่ดี (หลีกเลี่ยงการ “ขายหมู” หรือ “ติดดอย” จากการสวนเทรนด์) ยิ่งมุมของ EMA ชันมากเท่าใด แนวโน้มก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากเท่านั้น และการเทรดสวนทางก็ยิ่งมีความเสี่ยงสูง

EMA ป้องกันการซื้อขายที่ไม่ดี

แผนภูมิแสดงความชันของ EMA เพื่อหลีกเลี่ยงการเทรดสวนแนวโน้ม

ประการที่สอง ยิ่งราคามีการเคลื่อนตัวออกห่างจาก EMA มากเท่าใด แนวโน้มก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น นี่คือเทคนิค EMA อีกวิธีหนึ่งที่คุณสามารถใช้เพื่อป้องกันคุณจากการเทรดที่ไม่ดี

EMA เพื่อป้องกันการซื้อขายที่ไม่ดี

แผนภูมิ EMA แสดงการเคลื่อนไหวของราคาที่ห่างจาก EMA

กลยุทธ์การซื้อขาย EMA 3 บาร์ (3-Bar EMA Trading Strategy)

กลยุทธ์การซื้อขายหุ้น EMA สามารถช่วยให้เราติดตามความแข็งแกร่งของราคาด้วยการปรับแต่งง่ายๆ เพียงเล็กน้อย การปรับแต่งนี้คือการใช้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โพเนนเชียลสองเส้นที่มีช่วงเวลาเดียวกัน แต่คำนวณโดยใช้ข้อมูลราคาที่แตกต่างกันสองชุด ได้แก่:

  • ระดับต่ำสุดของแท่งเทียน (Low of the Bar)
  • ระดับสูงสุดของแท่งเทียน (High of the Bar)

กลยุทธ์ EMA 3 บาร์

ตัวอย่างการใช้ EMA สองเส้นที่คำนวณจาก High และ Low

หมายเหตุ: อินพุตสำหรับ EMA ทั้งสองคือ 3 ช่วงเวลา ดังนั้น เราจะใช้ EMA 3 ช่วงเวลาหนึ่งรายการกับระดับต่ำสุด และ EMA 3 ช่วงเวลาที่สองกับระดับสูงสุด

ตัวบ่งชี้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โพเนนเชียล

ตัวบ่งชี้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โพเนนเชียล (EMA) บนแผนภูมิ

เราสามารถใช้ EMA สองเส้นที่มี 3 ช่วงเวลานี้เพื่อค้นหาโซนบนแผนภูมิที่มีศักยภาพในการส่งสัญญาณการกลับตัวของแนวโน้มในระยะสั้น การรวม EMA สองเส้นที่มีช่วงเวลาเดียวกันจะช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในการเทรด

ทำไมเราถึงใช้ EMA 2 เส้นที่มีช่วงเวลาเดียวกัน?

สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โปเนนเชียลไม่ใช่เครื่องมือวิเศษ แต่ด้วยการใช้ EMA 2 เส้นที่มีช่วงเวลาเดียวกัน เราได้ทำสองสิ่งให้สำเร็จ:

  • การจำกัดราคาระหว่างสองแบนด์: EMA สองเส้นจะสร้าง “ช่อง” หรือ “แบนด์” ที่ราคาเคลื่อนที่อยู่ภายใน ซึ่งช่วยให้เรามองเห็นการเคลื่อนไหวของราคาได้ชัดเจนขึ้นและกรองสัญญาณรบกวนออกไป
  • การสร้างพื้นฐานของกลยุทธ์การซื้อขาย EMA ที่ใช้งานได้: การสร้างแบนด์นี้เป็นรากฐานสำหรับกลยุทธ์การเทรดที่สามารถใช้ระบุจุดเข้าและออกที่เหมาะสม

การซื้อขาย EMA สามารถนำไปใช้ในกลยุทธ์ต่างๆ ได้นับไม่ถ้วน แต่ไม่ใช่ทุกกลยุทธ์ที่จะให้ผลลัพธ์เหมือนกัน นี่คือวิธีการใช้กลยุทธ์การซื้อขาย EMA ที่ดีที่สุด

การระบุสัญญาณซื้อและขายด้วยกลยุทธ์ 3-Bar EMA

สำหรับ สัญญาณซื้อ (Buy Signal) เราจะรอให้ความชันของ EMA ทั้งสองเส้นพลิกขึ้นด้านบน และเส้น EMA แสดงความชันที่แหลมขึ้น ซึ่งบ่งบอกถึงโมเมนตัมขาขึ้นที่แข็งแกร่ง ไม่มีวิธีใดที่จะอธิบายได้ดีไปกว่าการแสดงบนกราฟราคาโดยตรง

สัญญาณซื้อ EMA บนกราฟหุ้น

แผนภูมิหุ้นแสดงสัญญาณซื้อด้วย 3-Bar EMA

หมายเหตุ: จะมีบางกรณีที่มีเพียงหนึ่งในสอง EMA เท่านั้นที่จะแสดงความลาดชันที่แหลมขึ้น อย่างไรก็ตาม การตั้งค่า EMA ที่ดีที่สุดคือเมื่อทั้งสองเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โปเนนเชียลแสดงสิ่งเดียวกัน ซึ่งเป็นการยืนยันสัญญาณที่แข็งแกร่งกว่า

กลยุทธ์นี้มีความเรียบง่ายในการใช้งาน สำหรับ การปิดการซื้อขาย (Exit Trade) เราจะปิดสถานะเมื่อราคาทะลุต่ำกว่า EMA 3 ช่วงเวลาซึ่งอิงจากราคาที่ต่ำ

ตัวอย่างการปิดการซื้อขายด้วย EMA 3 บาร์

ตัวอย่างการปิดการซื้อขายเมื่อราคาทะลุ EMA ล่าง

หากคุณสังเกตให้ดี คุณจะเห็นว่า EMA 3 ช่วงเวลาทั้งสองทำงานได้ดีในการกำจัดสัญญาณรบกวน (Noise) และเปิดเผยทิศทางของแนวโน้มอย่างชัดเจน ในช่วง แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) ราคามีแนวโน้มที่จะเคลื่อนที่อยู่เหนือหรือใกล้กับ EMA 3 ช่วงที่อิงจากจุดสูงสุด ในทางกลับกัน ในช่วง แนวโน้มขาลง (Downtrend) ราคามีแนวโน้มที่จะเคลื่อนที่อยู่ใต้หรือใกล้กับ EMA 3 ช่วงที่อิงจากระดับต่ำสุด

EMA 3 บาร์และพฤติกรรมราคา

แผนภูมิแสดงพฤติกรรมราคาที่สัมพันธ์กับ EMA 3 บาร์

ต่อไปนี้เป็นเทคนิค EMA ที่คุณสามารถใช้เพื่อใช้ประโยชน์จากพฤติกรรมราคานี้ได้อย่างเต็มที่:

  • สำหรับ สัญญาณขาย (Sell Signal) EMA ให้รอจนกว่าคุณจะเห็น แท่งเทียน สามแท่งติดต่อกันที่มีราคาเปิดและปิดใกล้กับ EMA แบบ 3 ช่วงที่อิงจากราคาที่ต่ำ การที่แท่งเทียนเกาะติดอยู่กับเส้น EMA ล่างเป็นสัญญาณของแรงกดดันในการขายที่เพิ่มขึ้น
  • ในทางกลับกัน สำหรับ สัญญาณซื้อ (Buy Signal) EMA ให้รอจนกว่าคุณจะเห็นแท่งเทียนสามแท่งที่ต่อเนื่องกันซึ่งมีราคาเปิดและปิดใกล้กับ EMA 3 ช่วงที่อิงจากราคาสูง ซึ่งบ่งบอกถึงแรงซื้อที่แข็งแกร่งและแนวโน้มขาขึ้นที่ต่อเนื่อง

สัญญาณซื้อและขายด้วย EMA

แผนภูมิแสดงสัญญาณซื้อและขายจาก EMA 3 บาร์

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับ EMA ในการซื้อขาย

คำถาม คำตอบ
EMA มีประโยชน์อย่างไรเมื่อเทียบกับ SMA? EMA มีประโยชน์มากกว่า SMA ในแง่ของการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงราคาที่เร็วกว่า เนื่องจาก EMA ให้น้ำหนักกับราคาล่าสุดมากกว่า ทำให้สามารถระบุการกลับตัวของแนวโน้มหรือการเปลี่ยนแปลงโมเมนตัมได้รวดเร็วกว่า SMA ซึ่งเหมาะสำหรับการเทรดระยะสั้นถึงปานกลาง
EMA ที่เหมาะสมที่สุดคือช่วงเวลาเท่าไร? ไม่มี EMA ช่วงเวลาใดที่ “ดีที่สุด” เพียงค่าเดียว เพราะขึ้นอยู่กับสไตล์การเทรดและกรอบเวลาที่ใช้ เทรดเดอร์ระยะสั้นอาจใช้ EMA ที่มีช่วงเวลาสั้นๆ เช่น 10, 20 หรือ 50 วัน ส่วนเทรดเดอร์ระยะยาวมักใช้ EMA 100 หรือ 200 วัน สิ่งสำคัญคือการทดลองและค้นหาช่วงเวลาที่เหมาะกับกลยุทธ์ของคุณ
สามารถใช้ EMA เพียงตัวเดียวในการตัดสินใจซื้อขายได้หรือไม่? ไม่ควร การใช้ EMA เพียงตัวเดียวในการตัดสินใจซื้อขายนั้นมีความเสี่ยงสูง แม้ EMA จะเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ แต่ควรใช้ร่วมกับอินดิเคเตอร์อื่นๆ เช่น RSI, MACD, หรือ Price Action เพื่อยืนยันสัญญาณและเพิ่มความน่าเชื่อถือในการตัดสินใจ (ศึกษาการใช้อินดิเคเตอร์ร่วมกัน)
EMA สามารถใช้ได้กับตลาดใดบ้าง? EMA เป็นอินดิเคเตอร์ที่อเนกประสงค์ สามารถนำไปใช้ได้กับตลาดการเงินทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้น, Forex, สินค้าโภคภัณฑ์ (เช่น ทองคำ), หรือแม้แต่ คริปโตเคอร์เรนซี เนื่องจากหลักการทำงานของ EMA ขึ้นอยู่กับข้อมูลราคา ซึ่งมีอยู่ในตลาดทุกประเภท
ข้อจำกัดของ EMA คืออะไร? แม้ว่า EMA จะตอบสนองต่อราคาได้ดีกว่า SMA แต่ก็ยังคงเป็นอินดิเคเตอร์ที่ล้าหลังอยู่ดี ซึ่งหมายความว่ามันจะให้สัญญาณหลังจากที่ราคาได้เคลื่อนไหวไปแล้วระดับหนึ่ง นอกจากนี้ ในตลาดที่เคลื่อนไหวไร้ทิศทาง (Sideways Market) EMA อาจให้สัญญาณหลอก (False Signals) ได้บ่อยครั้ง เนื่องจากไม่มีแนวโน้มที่ชัดเจนให้ติดตาม

สรุป – การซื้อขาย EMA

โดยสรุป การซื้อขาย Exponential Moving Average (EMA) มอบความยืดหยุ่นในการซื้อขายในสภาวะตลาดที่แตกต่างกัน และมีชุดกฎการซื้อขายที่สมบูรณ์ กลยุทธ์ การซื้อขายหุ้น EMA ที่ได้นำเสนอไปนี้ เช่น การใช้ EMA สองเส้นที่มีช่วงเวลาเดียวกันแต่คำนวณจาก High และ Low ของแท่งเทียน จะช่วยให้คุณสามารถค้นพบโอกาสในการซื้อขายที่ไม่เหมือนใครซึ่งอาจไม่มีใครสังเกตเห็น และเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดสินใจของคุณ

นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุดที่คุณต้องจำไว้เกี่ยวกับ EMA:

  • ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โพเนนเชียลมีความอ่อนไหวต่อราคาล่าสุดมากกว่า ทำให้ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้รวดเร็ว
  • EMA สามารถส่งสัญญาณการซื้อขายที่ดี แต่ก็สามารถป้องกันคุณจากการซื้อขายที่ไม่ดีได้เช่นกัน หากคุณเข้าใจวิธีการอ่านความชันและการเคลื่อนไหวของราคาเทียบกับ EMA
  • EMA เสนอแนวรับและแนวต้านแบบไดนามิก ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการวางและปรับ Stop Loss (SL) เพื่อบริหารความเสี่ยง
  • รูปร่างและความชันของ EMA มีความลับซ่อนอยู่มากมาย การสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิดสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความแข็งแกร่งและทิศทางของแนวโน้มได้

การเข้าใจและประยุกต์ใช้ EMA อย่างถูกต้องจะช่วยให้คุณมีเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ตลาดและเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในการเทรด อย่างไรก็ตาม ควรฝึกฝนและทดลองใช้ใน บัญชีทดลอง (Demo Account) ก่อนนำไปใช้ในการซื้อขายจริงเสมอ


สำหรับพี่ๆที่สนใจเข้ากลุ่มผู้ใช้ EA เปิดบัญชีคลิกที่ลิงค์ https://bit.ly/MTORNAPA ส่งเลข MT4 รับลิงค์ได้เลย

✅สำหรับใครที่สนใจรับระบบเทรดอัตโนมัติฟรี ติดต่อรับทาง inbox ได้เลย

________________________

✅👍สมัครยืนยันตัวตนรับ EA ได้ฟรีตลอดชีพ

XM มีโบนัสสำหรับลูกค้าที่สมัครใหม่ $30 และมีโบนัสเงินฝาก (วิธีเปิดบัญชี XM)

Exness สมัครง่ายฝากถอนเร็ว https://bit.ly/ExnessCom (วิธีเปิดบัญชี Exness)

MTrading เทรดดีไม่มีสะดุด XAUUSD ไม่มีค่า Swap บนบัญชี M.Pro! https://bit.ly/MTRatsamee

________________________

✅♥️ สอบถามเพิ่มเติมที่ ?https://bit.ly/MTRatsamee

Line id : @ft.th https://lin.ee/u0dwlLM

——–

ติดตามเราได้ที่

?LINE: @ft.th ( https://lin.ee/u0dwlLM )

?Youtube: FTT – investing (https://shorturl.asia/7wqIe )

?Tiktok: https://vt.tiktok.com/ZSdVyv7Ny/

_____________________________________________

You Might Also Like

Contact Us on Line