TOP 10 บทความยอดนิยม

ดูทั้งหมด
แจก EA & อินดิเคเตอร์

Triple Divergence คืออะไร?

ตุลาคม 7, 2022

Triple Divergence คืออะไร? คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับเทรดเดอร์

Triple Divergence คืออะไร

บทนำ: ทำความเข้าใจ Divergence ในการเทรด

ในโลกของการเทรด Divergence คือสัญญาณสำคัญที่ช่วยให้เทรดเดอร์คาดการณ์การกลับตัวของแนวโน้มราคาได้อย่างมีนัยสำคัญ หลักการพื้นฐานของ Divergence คือการที่ราคาของสินทรัพย์เคลื่อนที่ไปในทิศทางตรงกันข้ามกับ Oscillator หรืออินดิเคเตอร์โมเมนตัม ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวัดความเร็วและความแข็งแกร่งของการเปลี่ยนแปลงราคา

ผู้ค้าส่วนใหญ่พึ่งพาอินดิเคเตอร์เพื่อค้นหาและยืนยันสัญญาณ Divergence เนื่องจากมันสามารถบอกข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแนวโน้มที่เป็นไปได้ ความแข็งแกร่งของแนวโน้ม และโอกาสในการกลับตัวของราคา อินดิเคเตอร์ยอดนิยมที่ใช้ในการระบุ Divergence มักจะพิจารณาจากจุดสูงสุด (Peaks) และจุดต่ำสุด (Troughs) ที่เกิดขึ้นบนกราฟราคา ควบคู่ไปกับการเปรียบเทียบกับจุดสูงสุดและต่ำสุดที่คล้ายกันบนอินดิเคเตอร์

เมื่อไหร่จึงเกิด Divergence? คุณสามารถคาดการณ์การกลับตัวของราคาได้เมื่ออินดิเคเตอร์ไม่สามารถสร้างรูปแบบการเคลื่อนที่ที่สอดคล้องกับกราฟราคาได้ ซึ่งบ่งชี้ว่าแนวโน้มปัจจุบันอาจกำลังอ่อนแอลง

  • Divergence ขาลง (Bearish Divergence): หากราคาของสินทรัพย์อยู่ในแนวโน้มขาขึ้นและสร้างจุดสูงสุดใหม่ที่สูงขึ้น แต่อินดิเคเตอร์กลับไม่สามารถสร้างจุดสูงสุดใหม่ที่สูงขึ้นตามได้ นี่คือสัญญาณของ Divergence ขาลง ซึ่งบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ที่ราคาจะกลับตัวลงในไม่ช้า
  • Divergence ขาขึ้น (Bullish Divergence): ในทางกลับกัน หากราคาอยู่ในแนวโน้มขาลงและสร้างจุดต่ำสุดใหม่ที่ต่ำลง แต่อินดิเคเตอร์กลับไม่สามารถสร้างจุดต่ำสุดใหม่ที่ต่ำลงตามได้ นี่คือสัญญาณของ Divergence ขาขึ้น ซึ่งบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ที่ราคาจะกลับตัวขึ้น

นอกจาก Divergence แบบ Bullish และ Bearish แล้ว ยังมีอีกรูปแบบหนึ่งที่มีความซับซ้อนและสำคัญไม่แพ้กัน นั่นคือ Triple Divergence ซึ่งเป็นประเด็นหลักที่เราจะเจาะลึกในบทความนี้

Triple Divergence คืออะไร?

Triple Divergence เป็นสัญญาณ Divergence ที่มีความสำคัญและซับซ้อนยิ่งขึ้น โดยเป็นการบ่งชี้ถึงความพยายามในการกลับตัวของราคาที่เกิดขึ้นซ้ำๆ แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จในทันที ทำให้เกิด “สัญญาณหลอก” ในช่วงแรก ก่อนที่จะเกิดการกลับตัวจริงในที่สุด

Triple Divergence เกิดขึ้นเมื่อราคาของสินทรัพย์มีการสร้างจุดสูงสุดใหม่ที่สูงขึ้นต่อเนื่องกัน (ในแนวโน้มขาขึ้น) หรือจุดต่ำสุดใหม่ที่ต่ำลงต่อเนื่องกัน (ในแนวโน้มขาลง) ถึงสามครั้ง แต่ทิศทางของอินดิเคเตอร์โมเมนตัมกลับไม่สอดคล้องกัน และยังคงไม่เกิดการกลับตัวของแนวโน้มหลังจากความพยายามถึง 3 ครั้ง

กล่าวคือ ในช่วงขาขึ้น หากราคาสร้าง Higher High (HH) สองครั้งติดกัน แต่อินดิเคเตอร์สร้าง Lower High (LH) สองครั้งติดกัน นี่คือ Regular Bearish Divergence แต่ถ้าหลังจากนั้น ราคายังคงพยายามสร้าง Higher High อีกครั้ง (ครั้งที่สาม) แต่อินดิเคเตอร์ยังคงไม่สามารถสร้าง Higher High ตามได้ และอาจจะสร้าง Lower High ซ้ำ หรือเคลื่อนที่แบบ Flat นี่คือสัญญาณของ Triple Bearish Divergence ที่บ่งบอกถึงความอ่อนแอของแนวโน้มขาขึ้นอย่างรุนแรง และโอกาสในการกลับตัวลงที่ใกล้จะเกิดขึ้นจริง

ในทำนองเดียวกัน ในช่วงขาลง หากราคาสร้าง Lower Low (LL) สองครั้งติดกัน แต่อินดิเคเตอร์สร้าง Higher Low (HL) สองครั้งติดกัน นี่คือ Regular Bullish Divergence แต่ถ้าหลังจากนั้น ราคายังคงพยายามสร้าง Lower Low อีกครั้ง (ครั้งที่สาม) แต่อินดิเคเตอร์ยังคงไม่สามารถสร้าง Lower Low ตามได้ และอาจจะสร้าง Higher Low ซ้ำ หรือเคลื่อนที่แบบ Flat นี่คือสัญญาณของ Triple Bullish Divergence ที่บ่งบอกถึงความอ่อนแอของแนวโน้มขาลงอย่างรุนแรง และโอกาสในการกลับตัวขึ้นที่ใกล้จะเกิดขึ้นจริง

Triple divergence หยาบคาย

ตัวอย่าง: การกลับตัวของตลาดหมีแบบ Triple Divergence

สมมติว่าคุณกำลังวิเคราะห์กราฟราคาของคู่สกุลเงิน EUR/USD และใช้ Stochastic Oscillator เป็นอินดิเคเตอร์เสริม

  1. ครั้งที่ 1: ราคา EUR/USD สร้างจุดสูงสุดใหม่ที่สูงขึ้น (Higher High) แต่อินดิเคเตอร์ Stochastic สร้างจุดสูงสุดที่ต่ำลง (Lower High) นี่คือสัญญาณ Bearish Divergence ครั้งแรก
  2. ครั้งที่ 2: ราคา EUR/USD ยังคงสร้างจุดสูงสุดใหม่ที่สูงขึ้นไปอีกครั้ง แต่อินดิเคเตอร์ Stochastic ก็ยังคงสร้างจุดสูงสุดที่ต่ำลงอย่างต่อเนื่อง นี่คือสัญญาณ Bearish Divergence ครั้งที่สอง
  3. ครั้งที่ 3: ราคา EUR/USD พยายามดันขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดใหม่เป็นครั้งที่สาม แต่อินดิเคเตอร์ Stochastic กลับไม่สามารถสร้างจุดสูงสุดที่สูงขึ้นตามได้เลย และอาจจะแสดงสัญญาณว่าโมเมนตัมกำลังอ่อนแรงลงอย่างชัดเจน นี่คือสัญญาณ Triple Bearish Divergence ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนที่รุนแรงว่าแนวโน้มขาขึ้นกำลังจะสิ้นสุดลง และมีโอกาสสูงที่ราคาจะกลับตัวเป็นขาลงอย่างรวดเร็ว

ทำไม Triple Divergence จึงสำคัญ?

Triple Divergence ถือเป็นสัญญาณที่มีความน่าเชื่อถือสูงกว่า Regular Divergence เนื่องจากเป็นการยืนยันถึงความอ่อนแอของแนวโน้มถึงสามครั้ง ทำให้เทรดเดอร์มีโอกาสที่ดีกว่าในการเตรียมตัวสำหรับการกลับตัวของราคา เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์มักจะให้ความสำคัญกับสัญญาณนี้เป็นพิเศษ เพราะมันบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงโมเมนตัมที่ชัดเจนและยืนยันซ้ำๆ

กฎและเคล็ดลับในการใช้ Triple Divergence

การใช้ Triple Divergence ในการเทรดนั้นต้องอาศัยความเข้าใจและประสบการณ์ เพื่อหลีกเลี่ยงสัญญาณหลอก (False Signals) และเพิ่มโอกาสในการทำกำไรสูงสุด มีกฎและเคล็ดลับที่สำคัญดังนี้:

1. เลือกอินดิเคเตอร์ที่เหมาะสม

อินดิเคเตอร์ประเภท Oscillator ที่นิยมใช้ในการระบุ Divergence ได้แก่:

แต่ละอินดิเคเตอร์มีลักษณะเฉพาะตัว การทำความเข้าใจการทำงานของแต่ละอินดิเคเตอร์จะช่วยให้คุณตีความสัญญาณ Divergence ได้แม่นยำยิ่งขึ้น

2. ยืนยันสัญญาณด้วย Timeframe ที่ใหญ่ขึ้น

แม้ว่า Triple Divergence จะมีความน่าเชื่อถือสูง แต่การยืนยันสัญญาณด้วยการวิเคราะห์ใน Timeframe ที่ใหญ่ขึ้น (เช่น จาก H1 เป็น H4 หรือ Daily) จะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการตัดสินใจเทรดได้อย่างมาก การวิเคราะห์แบบ Multi-timeframe ช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของแนวโน้มที่ชัดเจนขึ้น และลดความเสี่ยงจากสัญญาณหลอกใน Timeframe ที่เล็ก

3. พิจารณาสภาวะตลาดโดยรวม

Triple Divergence ไม่ควรถูกนำมาใช้เพียงลำพัง ควรพิจารณาร่วมกับปัจจัยอื่นๆ เช่น:

  • แนวรับและแนวต้าน (Support and Resistance): หาก Triple Divergence เกิดขึ้นใกล้กับระดับแนวรับหรือแนวต้านที่แข็งแกร่ง สัญญาณจะมีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น การหาแนวรับแนวต้านที่สำคัญ จะช่วยให้คุณกำหนดจุดเข้าและออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • รูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns): การเกิด รูปแบบแท่งเทียนกลับตัว (Reversal Candlestick Patterns) เช่น Doji, Hammer, Shooting Star ร่วมกับ Triple Divergence จะช่วยยืนยันการกลับตัวของแนวโน้มได้ดียิ่งขึ้น
  • ข่าวสารและปัจจัยพื้นฐาน: การติดตามข่าวสารเศรษฐกิจและปัจจัยพื้นฐานที่ส่งผลต่อตลาดจะช่วยให้คุณเข้าใจบริบทของการเกิด Triple Divergence และตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น

4. การจัดการความเสี่ยง (Risk Management)

ไม่ว่าสัญญาณการเทรดจะน่าเชื่อถือเพียงใด การจัดการความเสี่ยง เป็นสิ่งสำคัญที่สุด กำหนด Stop Loss และ Take Profit ที่เหมาะสมในทุกการเทรด และไม่ควรกระจุกความเสี่ยงไว้ในออร์เดอร์เดียวมากเกินไป

ข้อควรระวัง: เมื่อ Triple Divergence ไม่ควรถูกนำมาพิจารณา

Triple Divergence แม้จะเป็นสัญญาณที่ทรงพลัง แต่ก็มีสถานการณ์ที่ควรหลีกเลี่ยงการนำมาใช้ หรือต้องใช้ด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ:

  • เมื่อแนวโน้มเปราะบาง (Fragile Trend): หากแนวโน้มของราคาไม่มีความแข็งแกร่งและมีการเคลื่อนไหวที่ผันผวนมาก (Sideways หรือ Chop Market) สัญญาณ Divergence อาจจะให้ผลลัพธ์ที่ไม่แม่นยำ
  • เมื่อราคาและอินดิเคเตอร์ให้สัญญาณที่เท่ากัน:
    • เมื่อราคาและอินดิเคเตอร์สร้างจุดสูงสุดที่เท่ากันและจุดต่ำสุดที่ต่ำลงเท่ากัน (Higher Equal และ Lower Equal)
    • เมื่อราคาและอินดิเคเตอร์สร้างจุดต่ำสุดที่เท่ากันและจุดสูงสุดที่สูงขึ้นเท่ากัน (Lower Equal และ Higher Equal)
    • เมื่อทั้งราคาและอินดิเคเตอร์สร้างจุดสูงสุดที่เท่ากันทั้งหมด (Equal Highs)
    • เมื่อทั้งราคาและอินดิเคเตอร์สร้างจุดต่ำสุดที่เท่ากันทั้งหมด (Equal Lows)

    ในสถานการณ์เหล่านี้ การตีความว่าเป็น Divergence อาจทำให้เกิดความผิดพลาดได้ เนื่องจากไม่มีความขัดแย้งที่ชัดเจนระหว่างการเคลื่อนที่ของราคากับโมเมนตัม

  • เมื่อความแตกต่างของยอดเขาและรางน้ำไม่มีนัยสำคัญ: หากความแตกต่างระหว่างจุดสูงสุดและต่ำสุดของราคากับอินดิเคเตอร์มีขนาดเล็กมากจนแทบไม่มีความแตกต่าง สัญญาณนั้นอาจไม่มีนัยสำคัญพอที่จะพิจารณาว่าเป็นการเกิด Divergence ที่แท้จริง การมองเห็นความแตกต่างที่ชัดเจนและมีนัยสำคัญเป็นสิ่งสำคัญในการยืนยันสัญญาณ

สรุปและ Call to Action

Triple Divergence เป็นหนึ่งในสัญญาณการเทรดที่ทรงพลังที่สุดในการระบุการกลับตัวของแนวโน้ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ร่วมกับอินดิเคเตอร์และเครื่องมือวิเคราะห์อื่นๆ การทำความเข้าใจว่า Triple Divergence คืออะไร, เกิดขึ้นได้อย่างไร, และมีกฎการใช้งานอย่างไร จะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถพัฒนา กลยุทธ์การซื้อขาย ที่มีประสิทธิภาพและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้

สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้คือ ไม่มีสัญญาณการเทรดใดที่สมบูรณ์แบบ 100% การใช้อินดิเคเตอร์เพียงตัวเดียวอาจนำไปสู่ข้อผิดพลาดได้ง่าย ดังนั้น การผสมผสานอินดิเคเตอร์และเทคนิคการวิเคราะห์ต่างๆ เข้าด้วยกันอย่างน้อยสามตัวจะช่วยเพิ่มความแม่นยำและความน่าเชื่อถือของสัญญาณการเทรดได้อย่างมาก

เพื่อเพิ่มพูนความรู้และทักษะในการเทรดของคุณอย่างต่อเนื่อง เราขอแนะนำให้คุณศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ:

หากคุณมีความสนใจในการนำกลยุทธ์การเทรดอัตโนมัติมาใช้ หรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมในการพัฒนาแผนการเทรดของคุณ อย่าลังเลที่จะติดต่อทีมงานผู้เชี่ยวชาญของเราได้ทาง:

เราพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการเดินทางสู่ความสำเร็จในการเทรดของคุณ! อย่าลืมติดตามช่องทางอื่นๆ ของเราเพื่อรับข้อมูลและบทความที่เป็นประโยชน์:

เปิดบัญชีเทรดกับโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือ:

  • XM: โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $30 และโบนัสเงินฝาก https://goo.gl/xM7QkN
  • Exness: สมัครง่าย ฝากถอนเร็ว https://bit.ly/ExnessCom
  • GMI: เทรดดีไม่มีสะดุด ฟรี Free Swap ทุกบัญชี https://bit.ly/GMI-TH

You Might Also Like

Contact Us on Line