TOP 10 บทความยอดนิยม

ดูทั้งหมด
จิตวิทยา การบริหารเงิน

Overtrade คือ อะไร ?

พฤษภาคม 26, 2022

Overtrade ในตลาด Forex: สาเหตุ, สัญญาณเตือน, และกลยุทธ์กอบกู้พอร์ตการลงทุนอย่างยั่งยืน

ปัญหาการ ขาดทุนในการเทรด Forex เป็นสิ่งที่เทรดเดอร์จำนวนมากต้องเผชิญ แม้จะศึกษามาเป็นอย่างดี ปฏิบัติตามระบบการเทรดที่วางไว้ หรือแม้แต่เรียนรู้จากกูรูหลายท่าน แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับไม่เป็นไปตามคาด นำมาซึ่งความเครียด ความผิดหวัง และความรู้สึกผิดต่อเงินทุนที่สูญเสียไป บ่อยครั้งที่อารมณ์เหล่านี้ทวีความรุนแรงขึ้นจนเกิดความรู้สึกต้องการ “เอาคืน” และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่อันตรายซึ่งนำไปสู่พฤติกรรมการ Overtrade ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้เทรดเดอร์จำนวนมากต้องประสบภาวะล้มเหลวในตลาดอัตราแลกเปลี่ยน

บทความนี้จะเจาะลึกถึงแก่นของ Overtrade อธิบายว่ามันคืออะไร เกิดขึ้นได้อย่างไร สัญญาณเตือนที่ควรรู้ และที่สำคัญที่สุดคือแนวทางปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมเพื่อแก้ไขและป้องกันพฤติกรรมนี้ เพื่อให้คุณสามารถกลับมาเทรดได้อย่างมีวินัยและยั่งยืนในระยะยาว

Overtrade คืออะไร: ขยายความและผลกระทบ

การ Overtrade หมายถึง การที่เทรดเดอร์ทำการเปิดออเดอร์ด้วย ขนาด Lot ที่ใหญ่เกินกว่าระดับเงินทุนที่เหมาะสม หรือเกินกว่าแผนการบริหารความเสี่ยงที่กำหนดไว้ ซึ่งมักเกิดจากแรงขับเคลื่อนทางอารมณ์ เช่น ความโลภที่ต้องการผลกำไรจำนวนมากในเวลาอันสั้น หรือความโกรธและความต้องการที่จะ “เอาคืน” จากการขาดทุนครั้งก่อนหน้า พฤติกรรมนี้เป็นเหมือนการเดิมพันที่สูงขึ้นเรื่อยๆ โดยปราศจากหลักการและเหตุผลที่เหมาะสม ส่งผลให้พอร์ตการลงทุนตกอยู่ในความเสี่ยงสูงสุด

Overtrade คือ อะไร

ทำไม Overtrade จึงเป็นอันตราย?

การ Overtrade ไม่เพียงแต่เป็นอันตรายต่อเงินทุนของคุณเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อสภาพจิตใจและวินัยการเทรดในระยะยาวด้วย

  • การสูญเสียเงินทุนอย่างรวดเร็ว: เมื่อคุณใช้ Lot Size ที่ใหญ่เกินไป แม้การเคลื่อนไหวของราคาเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำให้เกิดการขาดทุนจำนวนมากได้ ตัวอย่างเช่น หากคุณมีเงินทุน 1,000 USD และเปิด Lot 0.50 (ซึ่งถือว่าสูงมากสำหรับทุนเท่านี้) การเคลื่อนไหวของราคาเพียง 20 Pips ในทิศทางตรงกันข้าม ก็อาจทำให้คุณสูญเสียเงินถึง 100 USD หรือ 10% ของเงินทุนทั้งหมดทันที ในขณะที่การเปิด Lot 0.01 ด้วยทุนเดียวกัน การเคลื่อนไหว 20 Pips จะทำให้ขาดทุนเพียง 2 USD ซึ่งยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้
  • ภาวะ Margin Call และ Stop Out: การ Overtrade ทำให้ Margin ของคุณลดลงอย่างรวดเร็ว หากตลาดเคลื่อนไหวสวนทางกับตำแหน่งที่คุณเปิดอยู่เพียงเล็กน้อย คุณอาจเผชิญกับ Margin Call หรือเลวร้ายที่สุดคือ Stop Out ที่โบรกเกอร์จะปิดสถานะการเทรดทั้งหมดของคุณโดยอัตโนมัติ เพื่อป้องกันการติดลบเกินกว่าเงินทุนที่มีอยู่
  • การทำลายวินัยการเทรด: เมื่ออารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง แผนการเทรดที่วางไว้อย่างรอบคอบจะถูกละเลย เทรดเดอร์จะเริ่มมองข้ามสัญญาณที่ชัดเจน ขาดความอดทน และทำการตัดสินใจที่ผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งเป็นวงจรที่ยากจะหลุดพ้น

ผลกระทบของการ Overtrade ต่อพอร์ตการลงทุนและจิตวิทยา

ผลกระทบจากการ Overtrade ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ตัวเลขในบัญชี แต่ยังลามไปถึงสภาวะทางจิตใจของเทรดเดอร์อีกด้วย

  • ด้านพอร์ตการลงทุน:
    • ความเสี่ยงที่สูงเกินจริง: ทุกการเทรดกลายเป็นเกมที่เดิมพันสูงลิบลิ่ว พอร์ตของคุณจะมีความผันผวนรุนแรง และอาจถึงขั้นล้างพอร์ตได้ในพริบตา
    • การพลาดโอกาสที่ดี: เมื่อพอร์ตเสียหายหนักจาก Overtrade คุณอาจไม่มีเงินทุนเหลือพอที่จะเข้าเทรดในจังหวะตลาดที่ดีจริงๆ ซึ่งเท่ากับเป็นการปิดโอกาสในการทำกำไรของตัวเอง
  • ด้านจิตวิทยา:
    • ความเครียดและวิตกกังวล: การเฝ้าดูออเดอร์ที่เปิดด้วย Lot ใหญ่เกินตัวทำให้เกิดความเครียดและความวิตกกังวลสูงมาก ส่งผลต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิต
    • ความโกรธและความรู้สึกผิด: เมื่อขาดทุนหนักจาก Overtrade เทรดเดอร์มักจะโกรธตัวเองและรู้สึกผิดกับเงินที่เสียไป ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงชั้นดีที่ผลักดันให้เกิดการ Overtrade ซ้ำเพื่อหวังเอาคืน
    • สูญเสียความมั่นใจ: การขาดทุนต่อเนื่องจากการ Overtrade จะบั่นทอนความมั่นใจในการเทรด ทำให้คุณลังเล ไม่กล้าตัดสินใจ หรืออาจถึงขั้นถอดใจจากการเทรดไปเลย

สัญญาณเตือน: การเทรดแบบใดที่เข้าข่าย Overtrade

การรู้จักสัญญาณเตือนเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้คุณสามารถหยุดและปรับพฤติกรรมได้ทันท่วงที หากคุณพบว่าตัวเองมีพฤติกรรมดังต่อไปนี้ คุณกำลังเสี่ยงอย่างยิ่งต่อการ Overtrade

1. การใช้ขนาด Lot ที่สูงเกินกว่าทุน

นี่คือสัญญาณที่ชัดเจนที่สุด การเปิดออเดอร์ด้วย Lot Size ที่ไม่สอดคล้องกับขนาดของเงินทุนและระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ คือหัวใจของการ Overtrade

  • กฎง่ายๆ ของการบริหารความเสี่ยง: ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าไม่ควรเสี่ยงเกิน 1-2% ของเงินทุนทั้งหมดต่อการเทรดหนึ่งครั้ง หากคุณมีเงินทุน 1,000 USD การเสี่ยง 1% คือ 10 USD หากคุณตั้ง Stop Loss ไว้ที่ 50 Pips คุณควรเปิด Lot Size เพียง 0.02 Lot เท่านั้น (โดยประมาณ ขึ้นอยู่กับคู่เงิน) การเปิด Lot ที่ 0.10 หรือสูงกว่านั้นสำหรับทุน 1,000 USD ถือเป็นการ Overtrade ทันที เพราะคุณกำลังเสี่ยง 50 USD หรือ 5% ของเงินทุน ซึ่งสูงเกินไปอย่างมาก
  • การคำนวณที่เหมาะสม: การคำนวณ Lot Size ให้เหมาะสมกับเงินทุนและความเสี่ยงที่ยอมรับได้เป็นสิ่งจำเป็น หากละเลยจุดนี้ คุณกำลังเดินอยู่บนเส้นทางที่อันตราย

2. อารมณ์เข้าครอบงำการตัดสินใจ

ตลาด Forex เป็นสนามทดสอบจิตวิทยาชั้นดี สองอารมณ์หลักที่ผลักดันให้เกิด Overtrade คือ:

  • ความโลภ (Greed): เมื่อเห็นตลาดทำกำไรได้ดี หรือเห็นคนอื่นทำกำไรได้มาก เทรดเดอร์อาจรู้สึก “FOMO” (Fear Of Missing Out) และต้องการที่จะได้กำไรอย่างรวดเร็ว จึงเปิด Lot ใหญ่ขึ้น หรือเปิดออเดอร์โดยไม่วิเคราะห์ให้ดีพอ
  • ความโกรธ (Anger) และความต้องการเอาคืน (Revenge Trading): หลังจากขาดทุนติดกันหลายครั้ง ความโกรธและความหงุดหงิดจะเข้าครอบงำ ทำให้เกิดความคิดที่จะ “เอาคืน” เงินที่เสียไปโดยเร็วที่สุด จึงเปิดออเดอร์ด้วย Lot ที่ใหญ่ขึ้นเพื่อหวังพลิกสถานการณ์ ซึ่งส่วนใหญ่มักจบลงด้วยการขาดทุนที่หนักกว่าเดิม
  • การละเลยระบบการเทรด: เมื่ออารมณ์เข้ามา ระบบการเทรดที่เคยมีวินัยจะถูกทอดทิ้ง เทรดเดอร์จะเริ่มทำการเทรดตามสัญชาตญาณหรือความรู้สึกล้วนๆ ซึ่งมักนำไปสู่ความผิดพลาดครั้งใหญ่

3. การเทรดถี่ผิดปกติ

นอกจากการใช้ Lot ใหญ่แล้ว การ Overtrade ยังรวมถึงการเปิดออเดอร์จำนวนมากอย่างรวดเร็วและถี่เกินไปในระยะเวลาอันสั้น ไม่ว่า Lot Size จะเล็กแค่ไหนก็ตาม

  • สาเหตุ: พฤติกรรมนี้มักเกิดจากความใจร้อน ความต้องการที่จะเห็นผลลัพธ์ในทันที หรือการพยายามชดเชยการขาดทุนก่อนหน้าด้วยจำนวนครั้งที่มากขึ้น
  • ผลลัพธ์: การเทรดถี่ๆ โดยไม่มีสัญญาณที่ชัดเจน หรือไม่สอดคล้องกับแผนการเทรด จะทำให้ค่าธรรมเนียมและค่า Spread สะสมสูงขึ้น นอกจากนี้ยังเพิ่มโอกาสในการเกิดข้อผิดพลาดจากการวิเคราะห์ที่ไม่รอบคอบ และทำให้คุณเหนื่อยล้าทางจิตใจอย่างรวดเร็ว ซึ่งแตกต่างจากการเทรดแบบ Scalping ที่แม้จะเปิดออเดอร์บ่อย แต่จะอยู่ภายใต้ระบบและวินัยที่เข้มงวด

กลยุทธ์แก้ไขปัญหาเมื่อคุณเผชิญภาวะ Overtrade

หากคุณรู้ตัวว่ากำลัง Overtrade หรือเพิ่งขาดทุนจากการ Overtrade ไม่ต้องสิ้นหวัง ยังมีทางแก้ไขที่คุณสามารถทำได้ทันที เพื่อกอบกู้พอร์ตและสร้างวินัยในการเทรดขึ้นมาใหม่

1. หยุดพักการเทรดอย่างเด็ดขาด!

นี่คือขั้นตอนที่สำคัญที่สุด คุณต้องหยุดการเทรดบนบัญชีจริงทันที เพื่อให้จิตใจได้พักและหลุดพ้นจากวงจรอารมณ์ที่กำลังครอบงำ

  • ระยะเวลาที่เหมาะสม: แนะนำให้หยุดพักอย่างน้อย 3-7 วัน หรือนานกว่านั้นหากรู้สึกว่าอารมณ์ยังไม่มั่นคงพอ
  • สิ่งที่ควรทำระหว่างพัก:
    • ทบทวนการเทรดที่ผ่านมา: วิเคราะห์ว่าเกิดอะไรขึ้น ผิดพลาดตรงไหน ทำไมถึง Overtrade
    • ศึกษาเพิ่มเติม: ใช้เวลาศึกษา กลยุทธ์การเทรด Forex การบริหารความเสี่ยง หรือ จิตวิทยาการเทรด เพิ่มเติม เพื่อเสริมสร้างความรู้และมุมมองใหม่ๆ
    • ทำกิจกรรมอื่น: ห่างจากหน้าจอกราฟ ไปพักผ่อน ออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมที่ชอบ เพื่อผ่อนคลายความเครียดและฟื้นฟูจิตใจ

2. กลับไปเริ่มต้นด้วยบัญชีทดลอง (Demo Account)

หลังจากพักผ่อนและทบทวนตัวเองแล้ว การเริ่มต้นใหม่บน บัญชี Demo เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง

  • เป้าหมายของการใช้ Demo:
    • ฟื้นฟูความมั่นใจ: การเทรดบนบัญชี Demo โดยไม่มีความเสี่ยงทางการเงิน จะช่วยให้คุณกลับมาตัดสินใจได้อย่างเป็นกลางและฟื้นฟูความมั่นใจที่สูญเสียไป
    • ทดสอบระบบใหม่: ใช้โอกาสนี้ในการทดสอบระบบเทรด หรือปรับปรุงกลยุทธ์การเทรดของคุณให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
    • ฝึกฝนวินัย: ปฏิบัติเหมือนกำลังเทรดบัญชีจริง ฝึกฝนการบริหารความเสี่ยง การตั้ง Stop Loss และ Take Profit อย่างเคร่งครัด จนกว่าคุณจะมั่นใจในวินัยของตัวเองอีกครั้ง

3. สร้างวินัยและจัดการความเสี่ยงอย่างเคร่งครัด

นี่คือกุญแจสู่ความสำเร็จในระยะยาวในตลาด Forex

  • มีแผนการเทรดที่ชัดเจน: กำหนดกลยุทธ์การเข้า-ออก อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน และ Lot Size ที่เหมาะสมสำหรับแต่ละการเทรดอย่างละเอียด และยึดมั่นกับแผนนั้นอย่างเคร่งครัด
  • จำกัดความเสี่ยงต่อการเทรด: ไม่ควรเสี่ยงเกิน 1-2% ของเงินทุนทั้งหมดต่อการเทรดหนึ่งครั้งเด็ดขาด นี่คือกฎทองที่จะช่วยปกป้องพอร์ตของคุณ
  • ใช้ Stop Loss เสมอ: ทุกครั้งที่เปิดออเดอร์ ต้องมีการตั้ง Stop Loss เพื่อจำกัดความเสียหายสูงสุดที่อาจเกิดขึ้น
  • บันทึกการเทรด (Trading Journal): จดบันทึกทุกการเทรด รวมถึงเหตุผลในการเข้า-ออก Lot Size ผลลัพธ์ และอารมณ์ในขณะนั้น เพื่อใช้ในการเรียนรู้และปรับปรุงตัวเอง
  • ความสม่ำเสมอคือกำไร: เป้าหมายไม่ใช่การรวยเร็ว แต่คือการทำกำไรอย่างสม่ำเสมอและยั่งยืน ด้วยวินัยและการบริหารความเสี่ยงที่ดี

ลักษณะทางจิตวิทยาของผู้ที่ Overtrade

การทำความเข้าใจถึงสภาพจิตใจของผู้ที่ Overtrade จะช่วยให้เราสามารถป้องกันและแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างตรงจุด ผู้ที่ Overtrade มักมีอาการทางจิตวิทยาที่สังเกตได้ง่ายดังนี้

1. การเฝ้าหน้าจออย่างหมกมุ่น

ผู้ที่ Overtrade มักจะใช้เวลาส่วนใหญ่มองดูกราฟ Forex บ่อยครั้งอย่างผิดปกติ

  • ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น:
    • การค้นหาโอกาสที่ไม่มีอยู่จริง: พวกเขาเชื่อว่ายิ่งเฝ้าหน้าจอมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเจอ “โอกาส” ในการทำกำไรได้มากขึ้นเท่านั้น แม้ตลาดจะไม่มีสัญญาณที่ชัดเจนก็ตาม
    • ความกระหายในกำไร: มีความต้องการที่จะทำกำไรอย่างรวดเร็วและไม่อยากปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์
    • ความต้องการเอาคืน: หากเพิ่งขาดทุนมา พวกเขาจะเฝ้าหน้าจอเพื่อหาจังหวะ “แก้แค้น” ตลาด ซึ่งนำไปสู่การเทรดโดยใช้อารมณ์เป็นหลัก
  • ผลกระทบ: การเฝ้าหน้าจอมากเกินไปนำไปสู่ความเหนื่อยล้าทางจิตใจ การตัดสินใจที่หุนหันพลันแล่น และการมองข้ามสัญญาณที่สำคัญ

2. มีพฤติกรรมคล้ายการพนัน

พฤติกรรมการ Overtrade มีความคล้ายคลึงอย่างมากกับการติดการพนัน ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อทั้งการเงินและชีวิตส่วนตัว

  • ลักษณะที่คล้ายคลึงกัน:
    • การลุ่มหลงในความตื่นเต้น: รู้สึกตื่นเต้นและลุ่มหลงเมื่อได้เปิดออเดอร์ โดยไม่คำนึงถึงความเสี่ยงที่แท้จริง
    • การไล่ตามความสูญเสีย: เมื่อขาดทุน ก็จะพยายามทุ่มเงินมากขึ้นเพื่อหวังว่าจะได้เงินที่เสียไปกลับคืนมา หรือมากกว่าเดิม
    • การเชื่อใน “ทริค” หรือ “เคล็ดลับ” พิเศษ: มักจะหมกมุ่นกับการค้นหาเทคนิคหรือกลยุทธ์ลับที่เชื่อว่าจะทำให้รวยเร็ว แทนที่จะมุ่งเน้นที่การเรียนรู้พื้นฐานและวินัย
  • ความแตกต่างจากนักเทรดมืออาชีพ: นักเทรดมืออาชีพจะมอง Forex เป็นธุรกิจที่ต้องมีการวางแผน บริหารความเสี่ยง และดำเนินการด้วยเหตุผล ไม่ใช่อารมณ์หรือความหวังแบบนักพนัน

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับการ Overtrade

เพื่อให้เกิดความเข้าใจอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับการ Overtrade นี่คือคำถามที่พบบ่อยพร้อมคำตอบ:

  • Overtrade แตกต่างจากการเทรดปกติอย่างไร?

    คำตอบ: การเทรดปกติเป็นการเปิดสถานะตามแผนการเทรดที่ได้วิเคราะห์มาอย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึง การบริหารความเสี่ยง ขนาด Lot Size ที่เหมาะสมกับเงินทุน และมี Stop Loss ที่ชัดเจน ในทางตรงกันข้าม การ Overtrade คือการเปิดสถานะด้วย Lot Size ที่ใหญ่เกินตัว หรือเปิดสถานะถี่เกินไป โดยมีอารมณ์ความโลภหรือความโกรธเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก มักขาดการวางแผนและไร้วินัย ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงในการขาดทุนอย่างรุนแรง

  • ทำอย่างไรถึงจะรู้ว่าเรากำลัง Overtrade?

    คำตอบ: สัญญาณสำคัญคือการที่คุณรู้สึกไม่สบายใจหรือวิตกกังวลอย่างมากเมื่อเปิดออเดอร์, ใช้ Lot Size ที่ใหญ่จนเงินทุนของคุณเสี่ยงเกินไป (เช่น เสี่ยงเกิน 2-3% ต่อการเทรดหนึ่งครั้ง), เปิดออเดอร์บ่อยครั้งโดยไม่มีสัญญาณที่ชัดเจน หรือมีความรู้สึกอยาก “เอาคืน” เมื่อขาดทุน นอกจากนี้ การเฝ้าหน้าจออย่างหมกมุ่นและมีการตัดสินใจที่เปลี่ยนแปลงบ่อยครั้งก็เป็นสัญญาณเตือนเช่นกัน

  • ควรหยุดเทรดนานแค่ไหนหลัง Overtrade?

    คำตอบ: ระยะเวลาในการหยุดพักไม่มีกำหนดตายตัว แต่โดยทั่วไปแล้ว ควรหยุดพักอย่างน้อย 3-7 วัน เพื่อให้จิตใจได้สงบและหลุดพ้นจากอิทธิพลของอารมณ์ ในช่วงเวลานี้ ควรใช้เวลาทบทวนการเทรดที่ผ่านมา ศึกษาเพิ่มเติม และผ่อนคลายความเครียด เพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจให้พร้อมกลับมาเทรดด้วยสติและวินัยอีกครั้ง หากอารมณ์ยังไม่มั่นคง ควรหยุดพักให้นานขึ้น

  • มีเครื่องมือช่วยป้องกัน Overtrade ได้หรือไม่?

    คำตอบ: เครื่องมือที่สำคัญที่สุดคือ “วินัย” และ “แผนการเทรด” ของคุณเอง อย่างไรก็ตาม การใช้ การบริหารความเสี่ยง ที่เข้มงวด การกำหนด Stop Loss และ Take Profit ล่วงหน้า การใช้โปรแกรมช่วยคำนวณ Lot Size ให้เหมาะสมกับความเสี่ยง และการใช้ EA (Expert Advisor) หรือระบบเทรดอัตโนมัติที่ได้รับการทดสอบมาอย่างดี ก็สามารถช่วยลดการตัดสินใจที่ใช้อารมณ์ได้ แต่สุดท้ายแล้ว การควบคุมตัวเองยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด

  • การ Overtrade มีผลต่อ Margin Call และ Stop Out อย่างไร?

    คำตอบ: การ Overtrade ทำให้บัญชีของคุณมีความเสี่ยงสูงต่อ Margin Call และ Stop Out อย่างมาก เมื่อคุณเปิด Lot Size ที่ใหญ่เกินไป เงินทุนที่ใช้เป็น Margin สำหรับแต่ละออเดอร์ก็จะสูงขึ้น ทำให้ Free Margin เหลืออยู่น้อย หากตลาดเคลื่อนไหวสวนทางกับออเดอร์ของคุณเพียงเล็กน้อย Free Margin จะลดลงอย่างรวดเร็วจนถึงระดับที่โบรกเกอร์ส่ง Margin Call เพื่อเตือนให้เติมเงิน และหากราคายังคงเคลื่อนไหวสวนทางต่อไป บัญชีก็จะถูก Stop Out โดยที่โบรกเกอร์จะปิดสถานะที่ขาดทุนมากที่สุดโดยอัตโนมัติ เพื่อป้องกันไม่ให้บัญชีติดลบเกินกว่าเงินทุนที่คุณมี

สรุป

การ Overtrade เป็นกับดักที่อันตรายซึ่งเทรดเดอร์จำนวนมากต้องเผชิญในตลาด Forex โดยมีต้นตอมาจากอารมณ์ความโลภและความโกรธเป็นหลัก การทำความเข้าใจว่า Overtrade คืออะไร สัญญาณเตือนของมัน และที่สำคัญที่สุดคือการมีกลยุทธ์ในการแก้ไขปัญหาและการป้องกัน จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จในระยะยาว

สิ่งที่คุณต้องจดจำคือ การเทรด Forex ไม่ใช่การพนัน แต่เป็นการลงทุนที่ต้องอาศัยความรู้ ความเข้าใจใน การบริหารความเสี่ยง และ วินัย ที่เคร่งครัด หากคุณสามารถควบคุมอารมณ์และปฏิบัติตามแผนที่วางไว้อย่างสม่ำเสมอ คุณก็จะสามารถหลีกเลี่ยงพิษภัยของ Overtrade และสร้างผลกำไรได้อย่างยั่งยืนในตลาดนี้

ฟรี!ระบบเทรด
▪️▪️▪️▪️▪️▪️▪️▪️▪️▪️▪️▪️▪️▪️▪️▪️▪️▪️▪️▪️▪️▪️▪️▪️
สำหรับเพื่อนๆที่ต้องการใช้ EA indicator และเข้ากลุ่ม Line VIP ฟรี
มีเงื่อนไขเพียงเล็กน้อย
.
เพียงสมัครเปิดพอร์ตกับโบรกเกอร์ตามลิงค์ด้านล่าง ก็สามารถรับ EA ได้ฟรีทุกตัว และ EA ตัวใหม่ๆอื่นๆได้อีกในอนาคต
XM – คุณภาพอันดับหนึ่งตลอดสิบปีในไทย
.
Mtrading – สเปรดเริ่มต้นที่ 0 pip ค่าคอมต่ำ
.
exness – โบรคเกอร์ที่ฝากและถอนเร็วที่สุด
.
**”เมื่อสมัครเสร็จ ส่งเลข MT4 ไปที่ Line Id- @ft.th เพื่อ
.
ขอรับ EA ได้ฟรี!”**
.
ช่องทางการพูดคุย
.
Line Id :: @ft.th
.
.
กลุ่มพูดคุย :: เทรดฟอเร็กซ์ให้ได้กําไรอย่างยั่งยืน
.
*การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจ
เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

You Might Also Like

Contact Us on Line