ไขความลับ Leverage และ Margin: เครื่องมือสำคัญในการเทรด Forex ที่นักลงทุนต้องรู้

ตลาด Forex หรือตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เป็นหนึ่งในตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดและมีสภาพคล่องสูงที่สุดในโลก ด้วยปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันที่สูงกว่า 5 ล้านล้านปอนด์ ทำให้ดึงดูดนักลงทุนและเทรดเดอร์จากทั่วทุกมุมโลกเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งอย่างต่อเนื่อง หลายคนอาจเคยได้ยินเรื่องราวความสำเร็จอันน่าทึ่งจากการซื้อขาย Forex และใฝ่ฝันที่จะก้าวเข้าสู่เส้นทางนี้ อย่างไรก็ตาม การเริ่มต้นในตลาด Forex นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายดายและตรงไปตรงมาเสมอไป ผู้ที่สนใจจะต้องศึกษาเรียนรู้คำศัพท์และกลยุทธ์ที่ซับซ้อนหลากหลาย เพื่อที่จะสามารถทำกำไรได้อย่างยั่งยืน และเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทาย รวมถึงช่วงเวลาที่อาจประสบกับการขาดทุนอย่างหนัก
ยิ่งคุณมีความรู้ความเข้าใจในพื้นฐานและเครื่องมือสำคัญตั้งแต่เริ่มต้นมากเท่าไหร่ การเดินทางในตลาด Forex ของคุณก็จะยิ่งราบรื่นและมีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้นเท่านั้น ในบรรดาคำศัพท์สำคัญที่คุณจะต้องพบเจอและทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ คือ เลเวอเรจ (Leverage) และ มาร์จิ้น (Margin) ซึ่งทั้งสองสิ่งนี้เป็นปัจจัยหลักที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อผลการซื้อขายในตลาด Forex และเป็นหัวใจสำคัญที่เทรดเดอร์ทุกคนไม่ควรมองข้าม
ทำความเข้าใจ: เลเวอเรจ (Leverage) และมาร์จิ้น (Margin) คืออะไร?

ในโลกของการเทรด Forex นั้น การเคลื่อนไหวของราคาคู่สกุลเงินมักจะมีความผันผวนเพียงเล็กน้อยในแต่ละวัน การซื้อขายด้วยเงินทุนจำนวนน้อยอาจทำให้ได้รับผลตอบแทนที่ไม่มากนัก แม้ว่าราคาจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่คาดการณ์ไว้ก็ตาม นี่คือจุดที่แนวคิดของ เลเวอเรจ (Leverage) และ มาร์จิ้น (Margin) เข้ามามีบทบาทสำคัญ
เลเวอเรจ (Leverage) คืออะไร?
เลเวอเรจ คือเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถควบคุมตำแหน่งการซื้อขายที่มีมูลค่าสูงกว่าจำนวนเงินทุนจริงที่มีอยู่ในบัญชี โดยโบรกเกอร์จะให้ “เงินกู้” แก่เทรดเดอร์เพื่อเพิ่มอำนาจการซื้อขาย กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ เลเวอเรจทำให้คุณสามารถเปิดการซื้อขายขนาดใหญ่ได้ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นที่น้อยกว่ามาก ตัวอย่างเช่น หากคุณมีเลเวอเรจ 1:100 หมายความว่าทุกๆ 1 ปอนด์ที่คุณมี โบรกเกอร์จะให้คุณซื้อขายได้สูงสุดถึง 100 ปอนด์ ดังนั้น หากคุณฝากเงิน 1,000 ปอนด์ คุณจะสามารถควบคุมการซื้อขายที่มีมูลค่าสูงถึง 100,000 ปอนด์ได้ ซึ่งจะส่งผลให้กำไรหรือขาดทุนที่เกิดขึ้นมีขนาดใหญ่ขึ้นตามสัดส่วนของมูลค่าการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง
- ทำไมต้องมีเลเวอเรจ?: เนื่องจากตลาด Forex มีการเคลื่อนไหวของราคาที่ค่อนข้างน้อยในแต่ละจุด (pip) หากไม่มีเลเวอเรจ การทำกำไรจำนวนมากจากบัญชีขนาดเล็กจะทำได้ยาก เลเวอเรจจึงเป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มศักยภาพในการทำกำไรให้แก่เทรดเดอร์รายย่อย
- อย่างไรถึงจะเรียกว่าเลเวอเรจสูงหรือต่ำ?: อัตราส่วนเลเวอเรจจะแตกต่างกันไปในแต่ละโบรกเกอร์ โดยทั่วไปแล้ว เลเวอเรจ 1:100, 1:200, 1:400 หรือสูงกว่านั้น ถือเป็นเลเวอเรจที่สูง ยิ่งอัตราส่วนสูงเท่าไหร่ โอกาสในการทำกำไรก็จะสูงขึ้น แต่ความเสี่ยงในการขาดทุนก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย
- เลเวอเรจแบบไหนดี?: สำหรับมือใหม่ ควรเริ่มต้นด้วยเลเวอเรจที่ไม่สูงมากนัก เช่น 1:50 หรือ 1:100 เพื่อทำความเข้าใจกลไกและบริหารความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสม เมื่อมีประสบการณ์มากขึ้นแล้วจึงค่อยพิจารณาเพิ่มเลเวอเรจ
มาร์จิ้น (Margin) คืออะไร?
มาร์จิ้น คือเงินทุนส่วนหนึ่งที่คุณต้องวางไว้เป็นหลักประกันในการเปิดและรักษาสถานะการซื้อขายที่ใช้เลเวอเรจ พูดง่ายๆ คือเป็นจำนวนเงินที่คุณ “กันไว้” ในบัญชีเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเปิดสถานะการซื้อขายที่มีขนาดใหญ่กว่าเงินทุนจริงของคุณ มาร์จิ้นไม่ใช่ค่าใช้จ่ายหรือค่าธรรมเนียม แต่เป็นเงินฝากที่ถูกล็อกไว้ชั่วคราวโดยโบรกเกอร์เพื่อคุ้มครองความเสี่ยงในกรณีที่ตลาดเคลื่อนไหวสวนทางกับตำแหน่งของคุณ
- ความสัมพันธ์ระหว่างเลเวอเรจและมาร์จิ้น: เลเวอเรจและมาร์จิ้นมีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด ยิ่งคุณใช้เลเวอเรจสูงเท่าไหร่ จำนวนมาร์จิ้นที่ต้องการเพื่อเปิดการซื้อขายในขนาดที่เท่ากันก็จะยิ่งน้อยลงเท่านั้น ในทางกลับกัน หากคุณใช้เลเวอเรจต่ำ คุณจะต้องใช้มาร์จิ้นที่สูงขึ้นเพื่อเปิดการซื้อขายในขนาดเดียวกัน
- Margin Call คืออะไร?: หากการซื้อขายของคุณเริ่มขาดทุนและมูลค่าในบัญชีลดลงจนถึงระดับที่ต่ำกว่ามาร์จิ้นที่จำเป็นสำหรับการรักษาสถานะ โบรกเกอร์จะออก “Margin Call” ซึ่งเป็นการแจ้งเตือนให้คุณเติมเงินเข้าบัญชีเพื่อเพิ่มมาร์จิ้น หากคุณไม่ดำเนินการ สถานะการซื้อขายของคุณอาจถูกปิดโดยอัตโนมัติเพื่อจำกัดการขาดทุน
- Free Margin คืออะไร?: Free Margin คือส่วนของเงินทุนในบัญชีของคุณที่ยังไม่ได้ถูกใช้เป็นหลักประกันในการเปิดสถานะ และสามารถนำไปใช้เปิดการซื้อขายใหม่ได้ [เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Free Margin]


