TOP 10 บทความยอดนิยม

ดูทั้งหมด
แท่งเทียน

แท่งเทียน Engulfing: รูปแบบกลับตัวยอดนิยม | บทวิเคราะห์

ธันวาคม 11, 2025

แท่งเทียน Engulfing: รูปแบบกลับตัวทรงพลังที่นักเทรดมืออาชีพใช้ทำกำไร

ในโลกของการเทรดสินทรัพย์ทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็น Forex, หุ้น, คริปโตเคอร์เรนซี หรือทองคำ การทำความเข้าใจพฤติกรรมราคาผ่าน รูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns) ถือเป็นหัวใจสำคัญของการวิเคราะห์ทางเทคนิค หนึ่งในรูปแบบแท่งเทียนที่ได้รับความนิยมและมีความแม่นยำสูงในการส่งสัญญาณการกลับตัวของราคา คือ “แท่งเทียน Engulfing” หรือที่นักเทรดไทยคุ้นเคยในชื่อ “เขียวกินแดง” หรือ “แดงกินเขียว” บทความนี้จะเจาะลึกถึงหลักการ ทำไมรูปแบบนี้ถึงทรงพลัง วิธีการระบุอย่างละเอียด กลยุทธ์การเทรด และข้อควรระวัง เพื่อให้คุณสามารถนำไปประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำกำไรได้อย่างมืออาชีพ

แท่งเทียน Engulfing คืออะไร?

แท่งเทียน Engulfing เป็น รูปแบบแท่งเทียนกลับตัว (Reversal Candlestick Pattern) ที่ประกอบด้วยแท่งเทียนสองแท่ง โดยแท่งเทียนที่สองจะมีขนาดลำตัว (body) ที่ใหญ่กว่าและกลืนกิน (engulf) ลำตัวของแท่งเทียนแรกได้อย่างสมบูรณ์ โดยมีสีตรงข้ามกัน รูปแบบนี้บ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญของแรงซื้อและแรงขายในตลาด แสดงให้เห็นว่าทิศทางของราคาที่ดำเนินมาก่อนหน้านี้กำลังจะสิ้นสุดลง และมีโอกาสสูงที่จะเกิดการกลับตัวไปในทิศทางตรงกันข้าม

โดยพื้นฐานแล้ว แท่งเทียน Engulfing แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ Bullish Engulfing (สัญญาณกลับตัวเป็นขาขึ้น) และ Bearish Engulfing (สัญญาณกลับตัวเป็นขาลง)

Bullish Engulfing: สัญญาณกลับตัวขาขึ้น

รูปแบบ Bullish Engulfing เกิดขึ้นเมื่อตลาดอยู่ในช่วงขาลง (Downtrend) โดยมีลักษณะสำคัญดังนี้:

  1. **แท่งเทียนแรกเป็นแท่งเทียนขาลง (Bearish Candlestick)**: มักจะเป็นแท่งสีแดงที่มีลำตัวเล็กหรือปานกลาง แสดงถึงแรงขายที่ยังคงมีอยู่แต่เริ่มอ่อนกำลังลง
  2. **แท่งเทียนที่สองเป็นแท่งเทียนขาขึ้น (Bullish Candlestick)**: เป็นแท่งสีเขียวขนาดใหญ่ที่เปิดต่ำกว่าราคาปิดของแท่งแรก และปิดสูงกว่าราคาเปิดของแท่งแรกอย่างชัดเจน ทำให้ลำตัวของแท่งที่สอง “กลืนกิน” ลำตัวของแท่งแรกได้ทั้งหมด

การตีความ: การปรากฏของ Bullish Engulfing ในช่วงขาลงบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงของโมเมนตัมอย่างรุนแรง ในช่วงเช้าของวันที่สอง (สำหรับกราฟรายวัน) ผู้ขายยังคงควบคุมตลาดโดยเปิดราคาต่ำกว่าวันก่อนหน้า แต่ในช่วงเวลาต่อมา แรงซื้อกลับเข้ามาอย่างมหาศาล ดันราคาขึ้นไปปิดสูงกว่าราคาเปิดของวันแรกและเหนือกว่าราคาปิดของวันแรก บ่งชี้ว่าผู้ซื้อได้เข้าควบคุมตลาดอย่างสมบูรณ์ และมีแนวโน้มสูงที่ราคาจะกลับตัวเป็นขาขึ้น (Bullish Reversal) ตัวอย่างเช่น หากราคาหุ้น A ตกลงมาหลายวัน และวันนี้เกิดแท่งเทียน Bullish Engulfing ขึ้น แรงซื้อที่แข็งแกร่งนี้อาจเป็นสัญญาณว่าหุ้น A ได้ทำจุดต่ำสุดแล้วและกำลังจะฟื้นตัว

Bearish Engulfing: สัญญาณกลับตัวขาลง

รูปแบบ Bearish Engulfing เกิดขึ้นเมื่อตลาดอยู่ในช่วงขาขึ้น (Uptrend) โดยมีลักษณะสำคัญดังนี้:

  1. **แท่งเทียนแรกเป็นแท่งเทียนขาขึ้น (Bullish Candlestick)**: มักจะเป็นแท่งสีเขียวที่มีลำตัวเล็กหรือปานกลาง แสดงถึงแรงซื้อที่ยังคงมีอยู่แต่เริ่มอ่อนกำลังลง
  2. **แท่งเทียนที่สองเป็นแท่งเทียนขาลง (Bearish Candlestick)**: เป็นแท่งสีแดงขนาดใหญ่ที่เปิดสูงกว่าราคาปิดของแท่งแรก และปิดต่ำกว่าราคาเปิดของแท่งแรกอย่างชัดเจน ทำให้ลำตัวของแท่งที่สอง “กลืนกิน” ลำตัวของแท่งแรกได้ทั้งหมด

การตีความ: การปรากฏของ Bearish Engulfing ในช่วงขาขึ้นบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงของโมเมนตัมจากแรงซื้อเป็นแรงขายอย่างรุนแรง ในช่วงเช้าของวันที่สอง ผู้ซื้อยังคงมีกำลังโดยเปิดราคาขึ้นไปสูงกว่าราคาปิดของวันก่อนหน้า แต่หลังจากนั้นไม่นาน แรงขายกลับเข้ามาอย่างหนักหน่วง กดราคาลงมาปิดต่ำกว่าราคาเปิดของวันแรกและต่ำกว่าราคาปิดของวันแรก บ่งชี้ว่าผู้ขายได้เข้าควบคุมตลาดอย่างเบ็ดเสร็จ และมีแนวโน้มสูงที่ราคาจะกลับตัวเป็นขาลง ตัวอย่างเช่น หากราคาทองคำพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเกิดแท่งเทียน Bearish Engulfing นักเทรดอาจพิจารณาว่าราคาทองคำกำลังจะปรับฐานหรือเริ่มเข้าสู่ช่วงขาลง

หลักเกณฑ์สำคัญในการระบุแท่งเทียน Engulfing ที่ถูกต้อง

เพื่อให้การวิเคราะห์แท่งเทียน Engulfing มีความน่าเชื่อถือสูงสุด ควรพิจารณาหลักเกณฑ์เหล่านี้:

  • แนวโน้มราคาก่อนหน้า (Prior Trend): รูปแบบ Engulfing จะมีนัยสำคัญก็ต่อเมื่อเกิดขึ้นหลังจากมีแนวโน้มที่ชัดเจนมาก่อนหน้า

    • Bullish Engulfing ต้องเกิดขึ้นหลังแนวโน้มขาลง
    • Bearish Engulfing ต้องเกิดขึ้นหลังแนวโน้มขาขึ้น

    หากรูปแบบนี้ปรากฏในตลาดที่ไม่มีแนวโน้มชัดเจน (Sideway) สัญญาณจะมีความน่าเชื่อถือน้อยลงมาก

  • ขนาดของแท่งเทียนที่สอง: แท่งเทียนที่สองควรมีขนาดลำตัวที่ใหญ่กว่าและกลืนกินลำตัวของแท่งแรกได้ทั้งหมด (ไม่จำเป็นต้องกลืนกินไส้เทียน) ยิ่งแท่งที่สองใหญ่มากเท่าไร สัญญาณการกลับตัวก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น
  • สีของแท่งเทียนที่แตกต่างกัน: แท่งเทียนแรกและแท่งเทียนที่สองจะต้องมีสีตรงกันข้ามกันเสมอ หากเป็น Bullish Engulfing แท่งแรกต้องแดง แท่งสองต้องเขียว ถ้าเป็น Bearish Engulfing แท่งแรกต้องเขียว แท่งสองต้องแดง
  • ปริมาณการซื้อขาย (Volume): ควรยืนยันด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในแท่งเทียนที่สอง หากปริมาณการซื้อขายสูงขึ้นพร้อมกับการเกิดรูปแบบ Engulfing บ่งบอกว่ามีแรงซื้อหรือแรงขายจำนวนมากเข้ามาในตลาดจริง ๆ ทำให้สัญญาณมีความน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น (การวิเคราะห์ Volume Spread ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยยืนยันได้)
  • ตำแหน่งที่เกิดขึ้น: รูปแบบ Engulfing ที่เกิดขึ้นใกล้กับ แนวรับหรือแนวต้าน ที่สำคัญ (การวางแผนระดับราคาแนวรับและแนวต้าน) หรือบริเวณ ระดับ Fibonacci Retracement ที่สำคัญ จะให้สัญญาณกลับตัวที่มีความแม่นยำสูงกว่า

Bullish Engulfing Pattern

ภาพ: ตัวอย่างรูปแบบ Bullish Engulfing

Bearish Engulfing Pattern
ภาพ: ตัวอย่างรูปแบบ Bearish Engulfing

ทำไมแท่งเทียน Engulfing ถึงทรงพลัง? (จิตวิทยาตลาด)

ความทรงพลังของแท่งเทียน Engulfing มาจากจิตวิทยาที่ฝังอยู่ในรูปแบบของมัน:

  • **การพลิกกลับของอารมณ์ตลาด (Market Sentiment Reversal):**

    • **สำหรับ Bullish Engulfing:** หลังจากที่ผู้ขายครอบงำตลาดมาระยะหนึ่ง ราคายังคงเปิดตัวต่ำลงในแท่งที่สอง แต่แล้วแรงซื้อที่แข็งแกร่งอย่างไม่คาดคิดก็เข้ามา “กลืนกิน” แรงขายทั้งหมดและผลักดันราคาให้สูงขึ้นจนปิดเหนือราคาเปิดของแท่งก่อนหน้าอย่างชัดเจน การเคลื่อนไหวนี้บ่งบอกถึงความสิ้นหวังของผู้ขายที่ถูกครอบงำด้วยความกลัว (Fear) และการกลับมาของความเชื่อมั่นของผู้ซื้อ (Greed) ซึ่งมักนำไปสู่การกลับตัวของราคาที่แข็งแกร่ง
    • **สำหรับ Bearish Engulfing:** ในช่วงที่ผู้ซื้อมีอำนาจ ราคาเปิดตัวสูงขึ้นในแท่งที่สอง แต่จากนั้นแรงขายที่รุนแรงก็เข้ามา “กลืนกิน” แรงซื้อทั้งหมดและกดราคาให้ต่ำลงจนปิดต่ำกว่าราคาเปิดของแท่งก่อนหน้าอย่างเด็ดขาด นี่คือสัญญาณของความโลภ (Greed) ของผู้ซื้อที่กำลังเผชิญกับการตระหนักถึงความเสี่ยง (Fear) และการเทขายอย่างหนัก ซึ่งบ่งชี้ถึงจุดสูงสุดที่อาจเกิดขึ้นและแนวโน้มขาลงที่กำลังจะมาถึง
  • **การยืนยันด้วยราคาปิด (Closing Price Confirmation):** ราคาปิดของแท่งเทียนที่สองที่เหนือกว่า (Bullish) หรือต่ำกว่า (Bearish) แท่งแรกอย่างชัดเจน เป็นการยืนยันว่าทิศทางใหม่ได้เข้ามาครอบงำอย่างสมบูรณ์แล้ว
  • **ความชัดเจนของสัญญาณ:** รูปแบบ Engulfing มักจะโดดเด่นบนกราฟราคา ทำให้ง่ายต่อการสังเกตและตีความ ซึ่งช่วยลดความไม่แน่นอนในการตัดสินใจของนักเทรด

กลยุทธ์การเทรดด้วยแท่งเทียน Engulfing

การใช้แท่งเทียน Engulfing ในการเทรดนั้นไม่ใช่แค่การเห็นรูปแบบแล้วเข้าออเดอร์ทันที แต่ต้องอาศัยการยืนยันและแผนการจัดการความเสี่ยงที่รอบคอบ

จุดเข้า (Entry Points)

  • **เข้าทันทีหลังแท่งเทียนปิด:** เป็นวิธีที่เสี่ยงที่สุดและอาจทำให้ได้ราคาเข้าที่ไม่ดีนัก แต่ก็ช่วยให้ไม่พลาดโอกาสหากราคาเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว
  • **รอการยืนยัน:** รอให้แท่งเทียนถัดไปหลัง Engulfing ปิดในทิศทางเดียวกันก่อนที่จะเข้าออเดอร์ หรือรอให้ราคาย่อตัวกลับมาทดสอบระดับครึ่งหนึ่งของแท่ง Engulfing ที่สอง (50% Retracement) แล้วค่อยเข้า เพื่อให้ได้ราคาที่ดีขึ้นและลดความเสี่ยง
  • **ใช้คำสั่ง Buy Stop/Sell Stop:**

    • **สำหรับ Bullish Engulfing:** วางคำสั่ง Buy Stop เหนือราคาสูงสุดของแท่ง Engulfing ที่สองเล็กน้อย (เช่น 2-5 pips) หากราคายังคงขึ้นต่อ ก็จะเข้าซื้อโดยอัตโนมัติ
    • **สำหรับ Bearish Engulfing:** วางคำสั่ง Sell Stop ต่ำกว่าราคาต่ำสุดของแท่ง Engulfing ที่สองเล็กน้อย (เช่น 2-5 pips) หากราคายังคงลงต่อ ก็จะเข้าขายโดยอัตโนมัติ

    การใช้คำสั่งประเภทนี้ช่วยยืนยันการเคลื่อนไหวของราคาและลดความเสี่ยงจากการกลับตัวที่ผิดพลาดได้ (Buy Stop, Sell Stop คืออะไร)

การวางจุดตัดขาดทุน (Stop-Loss Placement)

การบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด Stop-loss (SL) คืออะไร

  • **สำหรับ Bullish Engulfing:** วาง Stop-Loss ต่ำกว่าราคาต่ำสุดของแท่ง Engulfing ที่สอง (หรือต่ำกว่าแท่งแรกเล็กน้อย) หากราคาตกลงต่ำกว่าระดับนี้ แสดงว่าสัญญาณกลับตัวล้มเหลว
  • **สำหรับ Bearish Engulfing:** วาง Stop-Loss สูงกว่าราคาสูงสุดของแท่ง Engulfing ที่สอง (หรือสูงกว่าแท่งแรกเล็กน้อย) หากราคาพุ่งขึ้นสูงกว่าระดับนี้ แสดงว่าสัญญาณกลับตัวล้มเหลว

การวาง Stop Loss ควรใช้หลักการ ตั้ง SL/TP ใน ระบบเทรดสั้น ตาม ATR เพื่อให้เหมาะสมกับความผันผวนของสินทรัพย์

การกำหนดจุดทำกำไร (Take-Profit Levels)

  • **ใช้แนวรับ/แนวต้านถัดไป:** กำหนดจุดทำกำไรที่แนวรับถัดไปสำหรับ Short Position หรือแนวต้านถัดไปสำหรับ Long Position
  • **ใช้ Fibonacci Extension:** หลังจากราคาเคลื่อนที่ตามสัญญาณ Engulfing แล้ว สามารถใช้เครื่องมือ Fibonacci Extension เพื่อหาเป้าหมายทำกำไรที่มีศักยภาพ
  • **อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน (Risk-Reward Ratio):** ควรกำหนดจุดทำกำไรให้มีอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่คุ้มค่า เช่น อย่างน้อย 1:2 หรือ 1:3

การผสมผสานกับอินดิเคเตอร์อื่น ๆ

แท่งเทียน Engulfing มีความน่าเชื่อถือสูงขึ้นเมื่อใช้ร่วมกับเครื่องมือและอินดิเคเตอร์อื่น ๆ:

  • แนวรับและแนวต้าน (Support & Resistance): รูปแบบ Engulfing ที่เกิดขึ้นที่บริเวณแนวรับ (สำหรับ Bullish) หรือแนวต้าน (สำหรับ Bearish) จะมีนัยสำคัญและแม่นยำมากยิ่งขึ้น (วิธีดูแนวรับแนวต้านในกราฟ Forex ฉบับมือใหม่)
  • Moving Averages (MA): หาก Bullish Engulfing เกิดขึ้นใกล้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่ทำหน้าที่เป็นแนวรับ (เช่น EMA 50, EMA 200) หรือ Bearish Engulfing เกิดขึ้นใกล้ MA ที่ทำหน้าที่เป็นแนวต้าน สัญญาณจะแข็งแกร่งขึ้น (วิธีการใช้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่)
  • Relative Strength Index (RSI):

    • **สำหรับ Bullish Engulfing:** หาก RSI อยู่ในโซน Oversold (ต่ำกว่า 30) และมีสัญญาณ Engulfing เกิดขึ้นพร้อมกับ RSI ที่เริ่มกลับตัวขึ้น บ่งชี้ถึงการกลับตัวที่แข็งแกร่งขึ้น
    • **สำหรับ Bearish Engulfing:** หาก RSI อยู่ในโซน Overbought (สูงกว่า 70) และมีสัญญาณ Engulfing เกิดขึ้นพร้อมกับ RSI ที่เริ่มกลับตัวลง บ่งชี้ถึงการกลับตัวที่แข็งแกร่งขึ้น

    การใช้ RSI ร่วมกับ Engulfing สามารถช่วยยืนยันสัญญาณได้ดี (เทคนิคเทรดด้วย Indicator RSI)

  • MACD (Moving Average Convergence Divergence): การเกิด Engulfing พร้อมกับสัญญาณ Cross-over ของ MACD หรือ Divergence (Divergence ในการเทรด Forex) ระหว่างราคากับ MACD สามารถเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับสัญญาณได้อีก

เคล็ดลับและข้อควรระวังในการใช้แท่งเทียน Engulfing

  • **ความสำคัญของ Timeframe:** รูปแบบ Engulfing มีความน่าเชื่อถือสูงขึ้นใน Timeframe ที่ใหญ่ขึ้น (เช่น H4, Daily, Weekly) ในขณะที่ Timeframe ที่เล็กกว่า (เช่น M5, M15) อาจให้สัญญาณหลอก (Fake Signals) ได้บ่อยกว่า
  • **อย่าเทรดสวนเทรนด์หลัก:** แม้ว่า Engulfing จะเป็นรูปแบบกลับตัว แต่การเทรดในทิศทางเดียวกับเทรนด์หลักมักจะมีความสำเร็จสูงกว่า หากเทรดสวนเทรนด์หลัก ควรใช้ความระมัดระวังและขนาดการลงทุนที่น้อยลง
  • หลีกเลี่ยงข่าวสำคัญ: ช่วงที่มีข่าวเศรษฐกิจสำคัญ (ข่าวที่มีผลกระทบต่อตลาด Forex) หรือเหตุการณ์ที่มีผลกระทบสูงต่อตลาด ราคาอาจมีการเคลื่อนไหวผิดปกติและทำให้รูปแบบ Engulfing ไม่ได้ผลตามที่คาดหวัง ควรหลีกเลี่ยงการเทรดในช่วงเวลานี้
  • **การฝึกฝนด้วยบัญชีทดลอง (Demo Account):** ก่อนที่จะนำกลยุทธ์นี้ไปใช้กับบัญชีจริง ควรฝึกฝนและทดสอบใน บัญชีทดลอง เพื่อทำความคุ้นเคยและปรับปรุงกลยุทธ์ให้เข้ากับสไตล์การเทรดของคุณ
  • **การบริหารความเสี่ยง (Money Management):** กำหนดขนาดการลงทุนที่เหมาะสมกับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และใช้ Stop-Loss เสมอเพื่อจำกัดการขาดทุน
  • **ใช้ร่วมกับ Price Action อื่นๆ:** นอกจาก Engulfing แล้ว การสังเกตรูปแบบ Pin Bar, Morning Star, Evening Star หรือ Doji ร่วมด้วยจะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการวิเคราะห์

ตัวอย่างการใช้งานจริง

สมมติว่าคุณกำลังเทรดคู่เงิน EUR/USD ใน Timeframe Daily และสังเกตเห็นสถานการณ์ต่อไปนี้:

สถานการณ์ Bullish Engulfing:

  1. ราคา EUR/USD ลดลงอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายวัน สร้างแนวโน้มขาลงที่ชัดเจน
  2. วันที่หนึ่ง: เกิดแท่งเทียนสีแดงขนาดเล็ก แสดงถึงแรงขายที่เริ่มอ่อนกำลัง
  3. วันที่สอง: ราคาเปิดต่ำกว่าราคาปิดของวันแรก แต่กลับมีแรงซื้อเข้ามาอย่างรุนแรง ผลักดันราคาขึ้นไปปิดสูงกว่าราคาเปิดของวันแรกอย่างมาก และสูงกว่าราคาเปิดของวันแรกด้วย ทำให้แท่งเทียนสีเขียวขนาดใหญ่ “กลืนกิน” แท่งเทียนสีแดงของวันแรกอย่างสมบูรณ์
  4. ปริมาณการซื้อขายในวันที่สองสูงกว่าค่าเฉลี่ยอย่างชัดเจน
  5. แท่งเทียน Bullish Engulfing นี้เกิดขึ้นที่บริเวณแนวรับสำคัญในอดีต (เช่น 1.0800) และ RSI ก็อยู่ในโซน Oversold

การดำเนินการ: นักเทรดอาจตัดสินใจเข้าซื้อ (Buy) EUR/USD ทันทีที่แท่งเทียน Bullish Engulfing ปิด หรือรอให้แท่งเทียนถัดไปเป็นสีเขียวเพื่อยืนยันอีกครั้ง วาง Stop-Loss ไว้ต่ำกว่าราคาต่ำสุดของแท่ง Engulfing ที่สองเล็กน้อย และกำหนดจุดทำกำไรที่แนวต้านถัดไป (เช่น 1.0950 หรือ 1.1000) การเข้าเทรดครั้งนี้มีปัจจัยสนับสนุนหลายอย่าง ทั้งแนวโน้มที่กำลังจะเปลี่ยน, สัญญาณ Engulfing ที่ชัดเจน, Volume ยืนยัน, และการเกิดที่แนวรับสำคัญ

สถานการณ์ Bearish Engulfing:

  1. ราคาหุ้นของบริษัท X พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งมาหลายสัปดาห์ สร้างแนวโน้มขาขึ้นที่ชัดเจน
  2. วันที่หนึ่ง: เกิดแท่งเทียนสีเขียวขนาดเล็ก แสดงถึงแรงซื้อที่เริ่มชะลอตัว
  3. วันที่สอง: ราคาเปิดสูงกว่าราคาปิดของวันแรก แต่กลับมีแรงขายเข้ามาอย่างหนักหน่วง กดดันราคาลงมาปิดต่ำกว่าราคาเปิดของวันแรกอย่างมาก และต่ำกว่าราคาเปิดของวันแรกด้วย ทำให้แท่งเทียนสีแดงขนาดใหญ่ “กลืนกิน” แท่งเทียนสีเขียวของวันแรกอย่างสมบูรณ์
  4. ปริมาณการซื้อขายในวันที่สองสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
  5. แท่งเทียน Bearish Engulfing นี้เกิดขึ้นที่บริเวณแนวต้านสำคัญ (เช่น ราคา $150) และ RSI ก็อยู่ในโซน Overbought

การดำเนินการ: นักเทรดอาจพิจารณาเปิดสถานะ Short (ขาย) หุ้น X ทันทีที่แท่งเทียน Bearish Engulfing ปิด หรือรอการยืนยันจากแท่งถัดไป วาง Stop-Loss ไว้เหนือราคาสูงสุดของแท่ง Engulfing ที่สองเล็กน้อย และกำหนดจุดทำกำไรที่แนวรับถัดไป (เช่น $140 หรือ $135) นี่เป็นการเทรดที่อาศัยสัญญาณกลับตัวที่แข็งแกร่งจากรูปแบบ Engulfing พร้อมการยืนยันจากปัจจัยทางเทคนิคอื่นๆ

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

Q1: แท่งเทียน Engulfing แตกต่างจากแท่งเทียน Doji อย่างไร?

A1: แท่งเทียน Engulfing บ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงของโมเมนตัมที่ชัดเจน โดยแท่งที่สองกลืนกินแท่งแรกอย่างสมบูรณ์ ในขณะที่ แท่งเทียน Doji (Doji: สัญญาณกลับตัว หรือ เดินหน้าต่อ) แสดงถึงความไม่แน่นอนหรือความลังเลของตลาด โดยมีราคาเปิดและปิดใกล้เคียงกัน Doji มักจะเป็นสัญญาณเตือนถึงการกลับตัว แต่ Engulfing มักจะเป็นสัญญาณกลับตัวที่ได้รับการยืนยันแล้ว

Q2: จำเป็นต้องมีไส้เทียน (Wicks) ที่กลืนกินด้วยหรือไม่?

A2: ไม่จำเป็น หลักการสำคัญของ Engulfing คือการที่ลำตัว (Body) ของแท่งเทียนที่สองกลืนกินลำตัวของแท่งเทียนแรกได้อย่างสมบูรณ์ การกลืนกินไส้เทียนด้วยก็สามารถเกิดขึ้นได้ แต่ไม่ใช่ข้อบังคับ

Q3: รูปแบบ Engulfing มีความน่าเชื่อถือแค่ไหน?

A3: รูปแบบ Engulfing ถือเป็นหนึ่งในรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวที่มีความน่าเชื่อถือสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกิดขึ้นใน Timeframe ที่ใหญ่, มีปริมาณการซื้อขายที่สูงขึ้น, และเกิดขึ้นที่บริเวณแนวรับ/แนวต้านที่สำคัญ หรือร่วมกับการยืนยันจากอินดิเคเตอร์อื่นๆ อย่างไรก็ตาม ไม่มีรูปแบบใดที่แม่นยำ 100% จึงควรใช้ร่วมกับการบริหารความเสี่ยงเสมอ

Q4: สามารถใช้แท่งเทียน Engulfing ในตลาด Sideway ได้หรือไม่?

A4: ไม่แนะนำให้ใช้ รูปแบบ Engulfing มีนัยสำคัญสูงสุดเมื่อเกิดขึ้นหลังจากมีแนวโน้มที่ชัดเจนมาก่อนหน้า (ขาขึ้นหรือขาลง) หากเกิดขึ้นในตลาด Sideway สัญญาณจะมีความน่าเชื่อถือน้อยมากและมีโอกาสเกิดสัญญาณหลอกสูง

Q5: ควรใช้แท่งเทียน Engulfing ใน Timeframe ใดดีที่สุด?

A5: โดยทั่วไปแล้ว Timeframe ที่ใหญ่ขึ้น (เช่น H4, Daily, Weekly) จะให้สัญญาณ Engulfing ที่มีความน่าเชื่อถือมากกว่า Timeframe ที่เล็กกว่า (เช่น M5, M15) เนื่องจากสัญญาณใน Timeframe ใหญ่จะสะท้อนถึงพฤติกรรมของนักลงทุนรายใหญ่และมี “สัญญาณรบกวน” (Noise) น้อยกว่า

สรุปและข้อคิด

แท่งเทียน Engulfing เป็นเครื่องมืออันทรงคุณค่าในคลังแสงของนักวิเคราะห์ทางเทคนิค ด้วยความสามารถในการบ่งชี้ถึงการกลับตัวของราคาที่ชัดเจนและมีนัยสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น Bullish Engulfing ที่ส่งสัญญาณการกลับตัวเป็นขาขึ้น หรือ Bearish Engulfing ที่เตือนถึงการกลับตัวเป็นขาลง การทำความเข้าใจหลักเกณฑ์ในการระบุที่ถูกต้อง การพิจารณาปริมาณการซื้อขาย และการผสานรวมกับการวิเคราะห์แนวรับแนวต้านและอินดิเคเตอร์อื่นๆ จะช่วยเพิ่มความแม่นยำของสัญญาณได้อย่างมหาศาล

สิ่งสำคัญที่สุดคือการใช้รูปแบบ Engulfing เป็นส่วนหนึ่งของ ระบบเทรด ที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งรวมถึงการ บริหารความเสี่ยง และ จิตวิทยาการเทรด การฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอในบัญชีทดลอง และการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้คุณสามารถใช้แท่งเทียน Engulfing เพื่อการตัดสินใจเทรดที่มีประสิทธิภาพและทำกำไรได้อย่างยั่งยืน

หากคุณสนใจศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับรูปแบบแท่งเทียนอื่นๆ และกลยุทธ์การเทรด โปรดติดตามบทความเชิงลึกจาก FTTInvesting ที่จะช่วยให้คุณพัฒนาทักษะการเทรดให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น!

You Might Also Like