TOP 10 บทความยอดนิยม

ดูทั้งหมด
ระบบเทรดสั้น

เทคนิคการเทรด forex ด้วย รูปแบบแท่งเทียน Three Inside Down

มิถุนายน 24, 2022

เปิดเผยกลยุทธ์การซื้อขาย: รูปแบบแท่งเทียน Three Inside Down สัญญาณการกลับตัวของตลาดหมีที่คุณต้องรู้!

ในโลกของการซื้อขายฟอเร็กซ์ (Forex) ที่เต็มไปด้วยความผันผวนและความไม่แน่นอน การทำความเข้าใจสัญญาณราคาที่เชื่อถือได้เป็นสิ่งสำคัญยิ่งสำหรับนักเทรดทุกระดับ รูปแบบแท่งเทียนเป็นหนึ่งในเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ทรงพลังที่สุด ซึ่งสามารถบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ตลาดและทิศทางราคาในอนาคตได้อย่างมีนัยสำคัญ บทความนี้จะเจาะลึกถึง รูปแบบแท่งเทียน Three Inside Down ซึ่งเป็นสัญญาณการกลับตัวจากภาวะกระทิงเป็นภาวะหมีที่ได้รับการยอมรับและใช้งานอย่างแพร่หลาย ด้วยโครงสร้างที่เฉพาะเจาะจงและหลักการทางจิตวิทยาที่รองรับ รูปแบบนี้สามารถเป็นกุญแจสำคัญในการระบุโอกาสการทำกำไรจากการเปิดคำสั่งขายได้อย่างแม่นยำ ณ จุดสูงสุดของแนวโน้ม

รูปแบบแท่งเทียน Three Inside Down คืออะไร?

รูปแบบแท่งเทียน Three Inside Down คือสัญญาณการกลับตัวของแนวโน้มขาขึ้นเป็นขาลง (Bearish Reversal Pattern) ที่ประกอบด้วยแท่งเทียนสามแท่ง ซึ่งมักปรากฏขึ้นที่จุดสูงสุดของราคาหรือใกล้กับบริเวณแนวต้านสำคัญในตลาด Forex การทำความเข้าใจรูปแบบนี้เป็นสิ่งจำเป็นเพราะมันทำหน้าที่เป็น “สัญญาณเตือนล่วงหน้า” ถึงการอ่อนแรงของแรงซื้อ และการเริ่มเข้ามามีอิทธิพลของแรงขาย ซึ่งบ่งชี้ถึงศักยภาพที่ราคาจะลดลงในอนาคตอันใกล้ หากนักเทรดสามารถตีความสัญญาณนี้ได้อย่างถูกต้อง จะทำให้พวกเขาสามารถวางคำสั่งขาย (Sell Order) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ณ จุดที่ได้เปรียบสูงสุดของตลาด

ทำไมรูปแบบนี้จึงสำคัญ? รูปแบบ Three Inside Down แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงทางจิตวิทยาของตลาดอย่างชัดเจน ในช่วงแรก ตลาดมีแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง แต่เมื่อรูปแบบนี้ปรากฏขึ้น มันบ่งบอกว่าแรงซื้อเริ่มหมดกำลังลง และแรงขายเริ่มเข้าควบคุมตลาดมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่อาจนำไปสู่การกลับตัวของแนวโน้ม

รูปแบบแท่งเทียน Three Inside Down

โครงสร้างของรูปแบบแท่งเทียน Three Inside Down ที่สมบูรณ์แบบ

เพื่อให้การวิเคราะห์รูปแบบ Three Inside Down มีความแม่นยำสูงสุด การทำความเข้าใจโครงสร้างของแท่งเทียนแต่ละแท่งและการเรียงตัวกันเป็นสิ่งสำคัญ รูปแบบมาตรฐานนี้ประกอบด้วยแท่งเทียน 3 แท่งที่บ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ตลาดอย่างเป็นลำดับ:

  1. แท่งเทียนที่ 1: แท่งเทียนขาขึ้น (Bullish Candlestick) ที่แข็งแกร่ง
    • โดยปกติจะเป็นแท่งเทียนสีเขียวหรือสีขาวที่มีลำตัวยาวและมีแรงซื้อที่โดดเด่น ซึ่งบ่งบอกถึงอิทธิพลของตลาดกระทิงที่ยังคงแข็งแกร่งและต่อเนื่องจากแนวโน้มขาขึ้นเดิม
    • ความยาวของลำตัวแท่งเทียนนี้มีความสำคัญ เพราะยิ่งยาวเท่าไหร่ ก็ยิ่งแสดงถึงความแข็งแกร่งของแรงซื้อก่อนหน้านี้ และทำให้การกลับตัวที่ตามมามีความน่าเชื่อถือมากขึ้น (อาจเชื่อมโยงกับ รูปแบบแท่งเทียน Marubozu หากมีลำตัวที่ยาวมาก)
    • เป็นตัวแทนของจุดสูงสุดที่กำลังจะถูกท้าทาย
  2. แท่งเทียนที่ 2: แท่งเทียนขาลง (Bearish Candlestick) ที่อยู่ภายใน
    • เป็นแท่งเทียนสีแดงหรือสีดำที่มีลำตัวสั้นกว่าแท่งแรก และที่สำคัญคือ ราคาสูงสุดและราคาต่ำสุดของแท่งเทียนที่ 2 จะต้องอยู่ภายในช่วงราคาของแท่งเทียนที่ 1 ทั้งหมด (เป็นรูปแบบที่เรียกว่า “Inside Bar”)
    • ลำตัวของแท่งเทียนที่ 2 ควรมีความยาวอย่างน้อยครึ่งหนึ่งของลำตัวแท่งเทียนที่ 1 เพื่อแสดงให้เห็นว่าแรงขายเริ่มเข้ามามีบทบาทอย่างชัดเจนและมีนัยสำคัญ
    • แท่งเทียนนี้บ่งชี้ถึงความไม่แน่ใจในตลาดและการชะลอตัวของแรงซื้อ การที่ราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิดของแท่งเทียนที่ 2 แสดงถึงแรงขายที่เริ่มเข้ามาแย่งชิงอำนาจ
  3. แท่งเทียนที่ 3: แท่งเทียนขาลง (Bearish Candlestick) ที่ยืนยันการกลับตัว
    • เป็นแท่งเทียนสีแดงหรือสีดำที่มีลำตัวยาวและที่สำคัญคือ ราคาปิดของแท่งเทียนที่ 3 จะต้องต่ำกว่าราคาเปิดของแท่งเทียนที่ 1 อย่างชัดเจน
    • แท่งเทียนนี้ทำหน้าที่เป็นตัวยืนยัน (Confirmation) การกลับตัวจากขาขึ้นเป็นขาลงอย่างสมบูรณ์แบบ แสดงให้เห็นว่าแรงขายได้เข้าครอบงำตลาดอย่างเบ็ดเสร็จ
    • การที่ราคาปิดต่ำกว่าจุดเริ่มต้นของแรงซื้อที่แข็งแกร่งในแท่งแรก เป็นสัญญาณที่ทรงพลังว่าแนวโน้มกำลังจะเปลี่ยนทิศทาง

รูปแบบแท่งเทียน Three Inside Down ที่หลากหลาย (Variant Candlestick Patterns)

นอกเหนือจากโครงสร้างมาตรฐานแล้ว นักเทรดยังควรพิจารณารูปแบบ Three Inside Down ในรูปแบบที่หลากหลาย ซึ่งยังคงให้สัญญาณการกลับตัวขาลงที่น่าเชื่อถือ โดยความแตกต่างหลักจะอยู่ที่ลักษณะของแท่งเทียนที่สองในรูปแบบ ดังนี้:

  • (A) รูปแบบที่แท่งเทียน 2 แท่งแรกสร้างรูปแบบ Bearish Harami:
    • ในกรณีนี้ แท่งเทียนที่ 1 เป็นแท่งขาขึ้นขนาดใหญ่ และแท่งเทียนที่ 2 เป็นแท่งขาลงขนาดเล็กที่อยู่ภายในแท่งแรกทั้งหมด ซึ่งเป็นรูปแบบ Bearish Harami
    • เมื่อตามด้วยแท่งเทียนที่ 3 ที่เป็นขาลงและปิดต่ำกว่าแท่งแรก ก็ยิ่งเป็นการยืนยันสัญญาณ Bearish Harami และเสริมความแข็งแกร่งของ Three Inside Down
    • รูปแบบนี้บ่งชี้ถึงการกลืนกินแรงซื้อโดยแรงขายที่เริ่มเข้ามาอย่างรวดเร็ว
  • (B) รูปแบบที่แท่งเทียนอันที่สองคือแท่งเทียน Pin Bar (Bearish Pin Bar):
    • ในรูปแบบนี้ แท่งเทียนที่ 2 อาจเป็น Pin Bar ชนิด Bearish (หรือที่เรียกว่า Shooting Star) ซึ่งมีไส้เทียนด้านบนยาวและลำตัวสั้น
    • การปรากฏของ Pin Bar ในตำแหน่งที่สองของรูปแบบ Three Inside Down ยิ่งเป็นการเน้นย้ำถึงการปฏิเสธราคาในระดับสูง และการที่แรงซื้อไม่สามารถผลักดันราคาขึ้นไปได้อีก
    • เมื่อตามด้วยแท่งเทียนที่ 3 ที่เป็นขาลงและปิดต่ำกว่าแท่งแรก ก็ยิ่งเสริมความน่าเชื่อถือของสัญญาณการกลับตัว
  • (C) รูปแบบที่แท่งเทียน 2 อันแรกสร้างรูปแบบ Dark Cloud Cover:
    • ในบางกรณี แท่งเทียนที่ 1 เป็นแท่งขาขึ้น และแท่งเทียนที่ 2 เป็นแท่งขาลงที่เปิดสูงกว่าราคาปิดของแท่งแรก แต่ปิดลงมาลึกกว่ากึ่งกลางของแท่งแรก ซึ่งคือรูปแบบ Dark Cloud Cover
    • แม้ว่า Dark Cloud Cover จะเป็นรูปแบบกลับตัว 2 แท่งที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว การมีแท่งเทียนที่ 3 ที่เป็นขาลงและปิดต่ำกว่าแท่งแรก ยิ่งเป็นการตอกย้ำถึงความแข็งแกร่งของแรงขายที่เข้ามาอย่างรุนแรง
    • รูปแบบนี้แสดงถึงการที่แรงซื้อถูกบดบังด้วยแรงขายอย่างรวดเร็ว

การเข้าใจถึงความแตกต่างของรูปแบบเหล่านี้ช่วยให้นักเทรดสามารถปรับกลยุทธ์และระบุสัญญาณการกลับตัวได้ในสถานการณ์ที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น

รูปแบบแท่งเทียน Three Inside Down ที่หลากหลาย

ความหมายและนัยยะทางจิตวิทยาของรูปแบบแท่งเทียน Three Inside Down

รูปแบบ Three Inside Down ไม่ได้เป็นเพียงการรวมตัวของแท่งเทียนสามแท่ง แต่เป็นการบอกเล่าเรื่องราวการเปลี่ยนแปลงของอำนาจในตลาดอย่างลึกซึ้ง หากเราลองรวมแท่งเทียนทั้งสามของรูปแบบ Three Inside Down เข้าด้วยกัน เราจะพบว่ามันสามารถตีความได้คล้ายกับ รูปแบบแท่งเทียน Bearish Pin (หรือ Shooting Star) ซึ่งเป็นสัญญาณขาลงที่ทรงพลังมากในตลาด Forex

นี่คือความหมายและนัยยะทางจิตวิทยาที่อยู่เบื้องหลัง:

  1. แรงซื้อเริ่มอ่อนแรง: แท่งเทียนที่ 1 แสดงถึงช่วงที่แรงซื้อยังคงแข็งแกร่งและผลักดันราคาขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม การปรากฏของแท่งเทียนที่ 2 ซึ่งเป็นแท่งขาลงขนาดเล็กที่อยู่ภายในแท่งแรก บ่งชี้ว่าโมเมนตัมของแรงซื้อเริ่มลดลง ผู้ซื้อไม่สามารถผลักดันราคาให้สูงขึ้นไปกว่าเดิมได้อย่างมีนัยสำคัญ และผู้ขายเริ่มเข้ามาทดสอบตลาด
  2. ความลังเลและความไม่แน่ใจ: แท่งเทียนที่ 2 สะท้อนถึงภาวะที่ตลาดเกิดความลังเลใจ (Indecision) หลังจากที่ราคาขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง แรงซื้อเริ่มไม่มั่นใจ ในขณะที่แรงขายก็ยังไม่สามารถเข้าควบคุมตลาดได้อย่างสมบูรณ์
  3. การยืนยันการครอบงำของแรงขาย: แท่งเทียนที่ 3 เป็นส่วนที่สำคัญที่สุด เพราะเป็นแท่งขาลงที่แข็งแกร่งและปิดต่ำกว่าราคาเปิดของแท่งเทียนที่ 1 อย่างชัดเจน การเคลื่อนไหวนี้เป็นการยืนยันอย่างชัดเจนว่าแรงขายได้เข้าครอบงำตลาดอย่างสมบูรณ์แล้ว ผู้ซื้อที่เคยมีอำนาจกลับถูกแรงขายบีบให้ราคาตกลงมาต่ำกว่าจุดเริ่มต้นของพวกเขา

ผลลัพธ์คืออะไร? รูปแบบ Three Inside Down เป็นการเตือนล่วงหน้าถึงการกลับตัวของราคาจากตลาดกระทิงเป็นตลาดหมี ซึ่งหมายความว่าราคาที่เคยมีแนวโน้มขาขึ้นกำลังจะเปลี่ยนทิศทางเป็นขาลง มันมักจะปรากฏขึ้นที่จุดสิ้นสุดของแนวโน้มขาขึ้นหรือบริเวณแนวต้านสำคัญ ซึ่งเป็นจุดที่แรงซื้อมีโอกาสหมดแรงและแรงขายพร้อมที่จะเข้ามาแทนที่สูงสุด

ความหมายของ Three Inside Down

Three Inside Down สัญญาณขาลง

วิธีเทรด Forex อย่างมีประสิทธิภาพด้วยรูปแบบแท่งเทียน Three Inside Down

การใช้รูปแบบ Three Inside Down ในการซื้อขาย Forex ต้องอาศัยความเข้าใจในบริบทของตลาดและกลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม สิ่งสำคัญที่ควรจำคือ Three Inside Down เป็น รูปแบบการกลับตัวขาลงเท่านั้น ดังนั้น คุณจะใช้มันเพื่อเปิดคำสั่ง “ขาย” (Sell Order) เพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพื่อทำกำไรจากการที่ราคาจะลดลง นี่คือกฎและเคล็ดลับในการวางคำสั่งซื้อขายอย่างมีประสิทธิภาพ:

เคล็ดลับและกฎการเทรด

  1. ยืนยันแนวโน้มก่อนหน้า: รูปแบบนี้จะมีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อปรากฏขึ้นหลังจากการเคลื่อนไหวของราคาที่เป็นแนวโน้มขาขึ้นที่ชัดเจนและยาวนาน หากปรากฏในตลาดที่ไม่มีเทรนด์ หรือเป็นแนวโน้มขาลงอยู่แล้ว ความน่าเชื่อถือจะลดลงอย่างมาก
  2. พิจารณาบริเวณแนวต้าน: สัญญาณจะแข็งแกร่งยิ่งขึ้นหากรูปแบบ Three Inside Down ปรากฏขึ้นที่บริเวณแนวต้านสำคัญ (Resistance Level) ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ขายมีโอกาสเข้ามามาก (ดูแนวทางในการหาแนวรับแนวต้าน)
  3. ใช้ตัวบ่งชี้อื่น ๆ เพื่อยืนยัน: เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ ควรใช้ตัวบ่งชี้ทางเทคนิคอื่น ๆ (เช่น Moving Average, RSI, MACD หรือ Volume) เพื่อยืนยันสัญญาณ เช่น RSI ที่เข้าสู่ภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือ Volume ที่ลดลงในแท่งเทียนที่ 2 และเพิ่มขึ้นในแท่งที่ 3

ขั้นตอนการวางคำสั่งขาย

เมื่อคุณระบุรูปแบบ Three Inside Down ที่สมบูรณ์และได้รับการยืนยันจากปัจจัยอื่น ๆ แล้ว คุณสามารถดำเนินการวางคำสั่งขายได้ดังนี้:

  • + จุดเริ่มต้น (Entry Point): คุณควรเปิดคำสั่งขายทันทีหลังจากที่ แท่งเทียนที่ 3 ปิดสมบูรณ์ ซึ่งเป็นการยืนยันการกลับตัวอย่างเป็นทางการ การรีบร้อนเข้าก่อนที่แท่งที่ 3 จะปิดอาจทำให้เกิดสัญญาณหลอกได้
  • + Stop-Loss (จุดตัดขาดทุน): กำหนดจุด Stop-Loss ของคุณไว้ที่ ระดับราคาสูงสุดของรูปแบบ Three Inside Down (โดยปกติคือราคาสูงสุดของแท่งเทียนที่ 1) หรือสูงกว่าจุดสูงสุดนั้นเล็กน้อย
    • ทำไมต้องวาง Stop-Loss ตรงนั้น? การวาง Stop-Loss เหนือจุดสูงสุดของรูปแบบจะช่วยปกป้องเงินทุนของคุณ หากราคากลับตัวขึ้นไปสูงกว่าจุดนั้น นั่นหมายความว่ารูปแบบ Three Inside Down ที่คุณวิเคราะห์นั้นผิดพลาด และแนวโน้มขาลงไม่ได้เกิดขึ้นอย่างที่คาดไว้ การตัดขาดทุนแต่เนิ่นๆ จะช่วยจำกัดความเสียหาย
    • ถ้าไม่วาง Stop-Loss จะเกิดอะไรขึ้น? หากไม่วาง Stop-Loss และราคากลับตัวขึ้นไปอย่างรุนแรง คุณอาจประสบกับการขาดทุนจำนวนมากจนเกินกว่าที่พอร์ตการลงทุนจะรับไหว ซึ่งเป็นสิ่งที่นักเทรดควรหลีกเลี่ยงอย่างยิ่งตามหลักการ การบริหารเงินทุน (Money Management)
  • + Take-Profit (จุดทำกำไร): คุณสามารถกำหนดจุด Take-Profit ได้หลายวิธี:
    • ระดับแนวรับเก่า: มองหาบริเวณแนวรับสำคัญที่เคยเกิดขึ้นในอดีต (Previous Support Level) ซึ่งเป็นจุดที่ราคาเคยหยุดลงหรือมีการกลับตัวขึ้นมา (แนวรับแนวต้าน)
    • อัตราส่วน Risk-Reward: กำหนดเป้าหมายกำไรโดยใช้อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่เหมาะสม เช่น 1:2 หรือ 1:3 (กำไร 2 หรือ 3 เท่าของความเสี่ยง)
    • ใช้เครื่องมือ Fibonacci: ใช้ ระดับ Fibonacci Retracement หรือ Extension เพื่อหาเป้าหมายราคาที่เป็นไปได้

วิธีเทรด Three Inside Down

ตารางสรุปโครงสร้างรูปแบบ Three Inside Down

แท่งเทียนที่ ลักษณะ ความหมายทางจิตวิทยา
1 (Bullish) แท่งเทียนขาขึ้นลำตัวยาว (สีเขียว/ขาว) แรงซื้อยังคงแข็งแกร่ง, แนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่อง
2 (Bearish Inside Bar) แท่งเทียนขาลงลำตัวสั้น (สีแดง/ดำ) ราคาสูงสุดและต่ำสุดอยู่ในแท่งที่ 1 แรงซื้อเริ่มอ่อนแรง, ผู้ขายเริ่มเข้ามาทดสอบ, ตลาดเริ่มลังเล
3 (Bearish Confirmation) แท่งเทียนขาลงลำตัวยาว (สีแดง/ดำ) ราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิดของแท่งที่ 1 แรงขายเข้าครอบงำตลาดอย่างสมบูรณ์, ยืนยันการกลับตัวเป็นขาลง

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับรูปแบบ Three Inside Down

Q1: รูปแบบ Three Inside Down มีความน่าเชื่อถือมากน้อยเพียงใด?
A1: รูปแบบ Three Inside Down ถือเป็นหนึ่งในรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวขาลงที่มีความน่าเชื่อถือสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อปรากฏขึ้นที่บริเวณจุดสูงสุดของแนวโน้มขาขึ้นหรือใกล้กับแนวต้านสำคัญ อย่างไรก็ตาม ไม่มีรูปแบบใดที่แม่นยำ 100% การใช้ร่วมกับตัวบ่งชี้อื่น ๆ หรือการวิเคราะห์ Price Action เพิ่มเติมจะช่วยเพิ่มความแม่นยำได้มากยิ่งขึ้น เช่น การดูสัญญาณ Overbought จาก RSI หรือ MACD ที่เริ่มตัดลง (เรียนรู้การใช้งานอินดิเคเตอร์)
Q2: สามารถใช้รูปแบบ Three Inside Down ในทุก Timeframe ได้หรือไม่?
A2: โดยทั่วไปแล้ว สามารถใช้รูปแบบ Three Inside Down ได้ในทุก Timeframe แต่ความน่าเชื่อถือมักจะเพิ่มขึ้นใน Timeframe ที่สูงขึ้น เช่น H4, Daily หรือ Weekly เนื่องจากสัญญาณใน Timeframe ที่สูงกว่ามักจะมีความผันผวนน้อยกว่าและสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ตลาดในวงกว้างมากกว่า ใน Timeframe ที่ต่ำกว่า (เช่น M15, M30) อาจเกิดสัญญาณหลอกได้ง่ายกว่า จึงควรใช้ด้วยความระมัดระวังและยืนยันด้วยปัจจัยอื่น ๆ เสมอ
Q3: Three Inside Down แตกต่างจาก Three Outside Down อย่างไร?
A3: รูปแบบ Three Inside Down บ่งบอกถึงการกลืนกินราคาภายใน (Inside Bar) ในแท่งที่สอง และตามด้วยแท่งที่สามที่ยืนยันการลง ในขณะที่ Three Outside Down (ซึ่งเป็นรูปแบบคล้าย Bearish Engulfing Pattern) แท่งเทียนที่สองจะ “กลืนกิน” แท่งเทียนแรกทั้งหมด คือมีราคาสูงสุดสูงกว่าและราคาต่ำสุดต่ำกว่าแท่งแรกอย่างชัดเจน ก่อนที่จะมีแท่งเทียนที่สามมายืนยันการลง ซึ่งทั้งสองรูปแบบเป็นสัญญาณกลับตัวขาลงที่แข็งแกร่ง แต่มีโครงสร้างที่แตกต่างกัน
Q4: ถ้า Three Inside Down ปรากฏขึ้นในแนวโน้มขาลง ควรทำอย่างไร?
A4: หากรูปแบบ Three Inside Down ปรากฏขึ้นในขณะที่ตลาดยังคงเป็นแนวโน้มขาลงอยู่ อาจถือเป็นสัญญาณที่อ่อนแอลง หรือเป็นเพียงการพักตัวระยะสั้น (Retracement) ก่อนที่แนวโน้มขาลงจะดำเนินต่อไป ไม่ควรใช้เพื่อเปิดคำสั่งขายเพิ่มเติม เนื่องจากความเสี่ยงสูงขึ้นและผลตอบแทนที่คาดหวังอาจไม่คุ้มค่า การรอดูสัญญาณการกลับตัวขาขึ้นที่ชัดเจนกว่า หรือรอให้ราคาฟื้นตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านก่อนจึงจะพิจารณาเปิดคำสั่งขายอีกครั้ง จะเป็นกลยุทธ์ที่ปลอดภัยกว่า
Q5: มีรูปแบบตรงข้ามกับ Three Inside Down หรือไม่?
A5: มีครับ รูปแบบตรงข้ามคือ Three Inside Up ซึ่งเป็นสัญญาณการกลับตัวจากขาลงเป็นขาขึ้น (Bullish Reversal Pattern) โดยมีโครงสร้างคล้ายกัน แต่กลับด้านกันทั้งหมด คือเริ่มต้นด้วยแท่งเทียนขาลงที่แข็งแกร่ง ตามด้วยแท่งเทียนขาขึ้นที่อยู่ภายใน และปิดท้ายด้วยแท่งเทียนขาขึ้นที่ปิดสูงกว่าราคาเปิดของแท่งแรก

สรุป: ทำกำไรกับการกลับตัวด้วย Three Inside Down

รูปแบบแท่งเทียน Three Inside Down เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ทรงพลังและได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถบ่งบอกถึงการกลับตัวของแนวโน้มขาขึ้นเป็นขาลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยความเข้าใจในโครงสร้างที่ประกอบด้วยแท่งเทียนขาขึ้นที่แข็งแกร่ง แท่งเทียนขาลงที่อยู่ภายใน และแท่งเทียนขาลงที่ยืนยันการกลับตัว นักเทรดสามารถใช้รูปแบบนี้เพื่อระบุจังหวะเข้าทำกำไรจากการเปิดคำสั่งขายที่แม่นยำ ณ จุดสูงสุดของตลาด

อย่างไรก็ตาม การซื้อขายด้วยรูปแบบนี้ให้ประสบความสำเร็จต้องอาศัยมากกว่าแค่การจดจำโครงสร้าง แต่รวมถึงการวิเคราะห์บริบทของตลาด การยืนยันด้วยตัวบ่งชี้อื่น ๆ และที่สำคัญที่สุดคือการบริหารความเสี่ยง (กฎการบริหารความเสี่ยง) อย่างเคร่งครัด การฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอในบัญชีทดลอง (Demo Account) จะช่วยให้คุณเกิดความชำนาญและมั่นใจในการใช้งานรูปแบบ Three Inside Down เพื่อยกระดับความสามารถในการเทรดของคุณให้ดียิ่งขึ้น

…………………………………………………………………………………………………………

แจกฟรีระบบเทรดและสิทธิพิเศษสำหรับนักเทรด!

สำหรับเพื่อนๆ ที่ต้องการยกระดับการเทรดด้วย EA (Expert Advisor) และ Indicator คุณภาพสูง รวมถึงเข้าถึงกลุ่ม Line VIP เพื่อรับข้อมูลเชิงลึกและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ เรามีข้อเสนอสุดพิเศษให้คุณ:

เพียงสมัครเปิดพอร์ตกับโบรกเกอร์ชั้นนำที่เราแนะนำตามลิงก์ด้านล่าง คุณก็สามารถรับ EA ฟรีทุกตัว และ EA ตัวใหม่ๆ อื่นๆ ได้อีกในอนาคต:

  • XM – โบรกเกอร์คุณภาพอันดับหนึ่งตลอดสิบปีในไทย https://bit.ly/XmFree30USD
  • Mtrading – สเปรดเริ่มต้นที่ 0 pip ค่าคอมต่ำ https://bit.ly/MTRatsamee
  • Exness – โบรกเกอร์ที่ฝากและถอนเร็วที่สุด https://bit.ly/ExnessCom

**เมื่อสมัครเสร็จสิ้น กรุณาส่งเลข MT4/MT5 ไปที่ Line Id: @ft.th เพื่อขอรับ EA ฟรี และเข้าร่วมกลุ่ม VIP ได้ทันที!**

ช่องทางการติดต่อและพูดคุยเพิ่มเติม:

*การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจเงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

You Might Also Like

Contact Us on Line