














สุดยอดเว็บแจกโปรแกรมช่วยเทรดอันดับหนึ่งของประเทศ
#ระบบเทรด #ระบบเทรดฟรี #แจกฟรีระบบเทรด #ระบบเทรดฟรี #ระบบเทรดทอง #เทรดทอง #EAเทรดทอง #ฟรี!ระบบเทรด #ฟรีระบบเทรด #ระบบเทรดสั้น #เทรดมือ #มือใหม่ ระบบเทรดอัตโนมัติ FTT AI-IIN
XM มีโบนัส $30 สำหรับลูกค้าใหม่
มีโบนัส 100% สูงสุด $500
https://bit.ly/XMFreebonus30USD
CXM ฝากถอนเร็ว ฟรี Free Swap ทุกบัญชี
https://bit.ly/CXMFTT
Exness สมัครง่ายฝากถอนเร็ว
https://bit.ly/ExnessCom
รหัสพาสเนอร์เลข 11000789
XM มีโบนัสสำหรับลูกค้าที่สมัครใหม่ $30 และมีโบนัสเงินฝาก
Exness สมัครง่ายฝากถอนเร็ว
https://bit.ly/ExnessCom
รหัสพาสเนอร์เลข 11000789
GMI เทรดดีไม่มีสะดุด
ฟรี Free Swap ทุกบัญชี
https://bit.ly/GMI-TH
รหัส IB GMP28407
______________
หากคุณต้องการลงทุนในระบบเทรดทองคำ Forex หรือสร้างระบบเทรดทองคำเอง ควรพิจารณาและศึกษาเกี่ยวกับตลาดเทรดทองคำ และวิธีการเทรดทองคำอย่างละเอียด นอกจากนี้คุณควรหาข้อมูลและศึกษาแนวโน้มของราคาทองคำ และตลาดทองคำโลกเพื่อทำการวิเคราะห์และตัดสินใจในการลงทุน
การลงทุนในระบบเทรดทองคำ Forex เป็นการซื้อขายทองคำในรูปแบบของสัญญาซื้อขายซึ่งมีการเลือกซื้อหรือขายในช่วงเวลาที่กำหนด ระบบเทรดทองคำ Forex มักใช้กราฟแท่งเทียน (candlestick chart) ในการวิเคราะห์และตัดสินใจเพื่อทำกำไรจากการเทรดทองคำ
อย่างไรก็ตาม การลงทุนในระบบเทรดทองคำ Forex เป็นกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนและความเสี่ยง คุณควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับความเสี่ยงในการลงทุนในระบบเทรดทองคำ Forex ก่อนที่คุณจะเริ่มลงทุน อาจมีความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของราคาทองคำ การผลิตทองคำ นโยบายเศรษฐกิจ และปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจมีผลต่อราคาทองคำ เช่น การเจริญเติบโตของเศรษฐกิจทั่วโลก การเปลี่ยนแปลงในสภาวะการเงิน และเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่ไม่คาดคิด เช่น วิกฤตการเงิน ข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับทองคำ หรือความไม่แน่นอนในการเมือง
นอกจากนี้ การเทรด Forex อาจมีความซับซ้อนในด้านการวิเคราะห์และการตัดสินใจ ตลาดเทรดทองคำ Forex เป็นตลาดที่ทำงานตลอด 24 ชั่วโมงต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์ และมีความเร็วในการเปลี่ยนแปลงราคาทองคำได้รวดเร็ว การศึกษาและการเรียนรู้เกี่ยวกับการวิเคราะห์กราฟ และตัวชี้วัดทางเทคนิคเพื่อประเมินโอกาสของการสัมพันธ์ราคาทองคำอาจเป็นประโยชน์มากในการตัดสินใจการซื้อขาย
เพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุนในระบบเทรดทองคำ Forex คุณควรทำการวางแผนการลงทุนที่รอบคอบและมีความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์การลงทุนของคุณ ควรกำหนดเป้าหมายทางการลงทุน และวางแผนการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม เช่น:
ตลาดเทรดทองคำ Forex เป็นการลงทุนที่ต้องใช้ความอดทนและเรียนรู้จากประสบการณ์ เมื่อคุณลงทุนในระบบเทรดทองคำ Forex คุณควรจดบันทึกและวิเคราะห์ผลการเทรดของคุณเพื่อเรียนรู้และปรับปรุงวิธีการเทรดอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ควรใช้เครื่องมือที่มีอยู่ในตลาดเทรดทองคำ Forex เพื่อช่วยในการวิเคราะห์และการตัดสินใจ เช่น กราฟแท่งเทียน ตัวชี้วัดทางเทคนิค เครื่องมืออื่น ๆ ที่สามารถช่วยในการระบุโอกาสซื้อขายที่เหมาะสม
สุดท้าย ควรจำไว้ว่าการลงทุนในระบบเทรดทองคำ Forex เป็นกิจกรรมที่เสี่ยง อาจมีการสูญเสียทรัพย์สินได้ คุณควรจัดการความเสี่ยงอย่างรอบคอบและให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการเงินให้ถูกต้องและมีความรอบคอบ อย่าลงทุนเงินที่คุณไม่สามารถเสียได้และควรมีแผนการจัดการเงินที่มั่นคงเพื่อรองรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ในการลงทุนในระบบเทรดทองคำ Forex
_______________________________________________________________________________________________________________
XM มีโบนัสสำหรับลูกค้าที่สมัครใหม่ $30 และมีโบนัสเงินฝาก
Exness สมัครง่ายฝากถอนเร็ว
https://bit.ly/ExnessCom
รหัสพาสเนอร์เลข 11000789
GMI เทรดดีไม่มีสะดุด
ฟรี Free Swap ทุกบัญชี
https://bit.ly/GMI-TH
รหัส IB GMP28407
_______________________________________________________________________________________________________________
สมัครยืนยันตัวตนรับ EA ได้ฟรีตลอดชีพ
XM มีโบนัสสำหรับลูกค้าที่สมัครใหม่ $30 และมีโบนัสเงินฝาก
Exness สมัครง่ายฝากถอนเร็ว
https://bit.ly/ExnessCom
รหัสพาสเนอร์เลข 11000789
GMI เทรดดีไม่มีสะดุด
ฟรี Free Swap ทุกบัญชี
https://bit.ly/GMI-TH
รหัส IB GMP28407
______________
สมัครยืนยันตัวตนรับ EA ได้ฟรีตลอดชีพ
XM มีโบนัสสำหรับลูกค้าที่สมัครใหม่ $30 และมีโบนัสเงินฝาก
Exness สมัครง่ายฝากถอนเร็ว
https://bit.ly/ExnessCom
รหัสพาสเนอร์เลข 11000789
GMI เทรดดีไม่มีสะดุด
ฟรี Free Swap ทุกบัญชี
https://bit.ly/GMI-TH
รหัส IB GMP28407
______________
XM มีโบนัสสำหรับลูกค้าที่สมัครใหม่ $30 และมีโบนัสเงินฝาก
Exness สมัครง่ายฝากถอนเร็ว
https://bit.ly/ExnessCom
รหัสพาสเนอร์เลข 11000789
GMI เทรดดีไม่มีสะดุด
ฟรี Free Swap ทุกบัญชี
https://bit.ly/GMI-TH
รหัส IB GMP28407
______________
สมัครยืนยันตัวตนรับ EA ได้ฟรีตลอดชีพ
XM มีโบนัสสำหรับลูกค้าที่สมัครใหม่ $30 และมีโบนัสเงินฝาก
Exness สมัครง่ายฝากถอนเร็ว
https://bit.ly/ExnessCom
รหัสพาสเนอร์เลข 11000789
GMI เทรดดีไม่มีสะดุด
ฟรี Free Swap ทุกบัญชี
https://bit.ly/GMI-TH
รหัส IB GMP28407
______________
ระบบที่กองทุนระดับโลกใช้ ไม่สนใจทิศทาง
ระบบ Hedged Grid System จะทำงานโดยการเปิดออเดอร์ซื้อและขายพร้อมกันในระยะเวลาเดียวกัน โดยใช้เส้นกริด (grid) เพื่อจัดการความเสี่ยงในการซื้อขาย และมักนิยมใช้กับคู่เงินที่มีการเคลื่อนไหวเป็นช่วง ๆ
สามารถเทรดได้โดยไม่ต้องเดา อนาคต ไม่ต้องเดาแนวโน้ม กริดเน้นการซื้่อขายทำกำไรก้อนเล็ก(ตามการออกแบบโครงสร้างของกริด) เน้นกระแสเงินสด(Cash Flow)ที่ออกมา มากกว่ากำไรคำโตๆ กริดเองทำงานได้ดี ในทุกช่วงราคา
ระบบ Hedged Grid จะเป็นการเปิดออเดอร์สวนเทรนซึ่งจะใช้ดีเพื่อตลาดมี Volatility สูง หรือมีการแกว่งที่เป็นกรอบ โดยเน้นการ Buy และ Sell เราจะสามารถเก็บ CashFlow ได้เมื่อตลาดวิ่งอยู่ที่เดิมไปมา ซึ่งควรใช้ให้สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของค่าเงินในช่วงเวลานั้นๆ
Hedged Grid เองก็สามารถทำได้มากมายหลายวิธี ขึ้นกับข้อแตกต่างระหว่างบุคคลที่ใช้งานเช่น ระยะเวลา ขนาดของเงินทุน ส่วนมากนิยมออกแบบขนาดของ Grid ตามระดับราคาต่างๆที่เห็นได้ชัด และเหมาะสมกับการเคลื่อนไหวของราคา
ขั้นตอนการทำงานของระบบ Hedged Grid System มีดังนี้
ข้อดีของระบบ Grid System คือ การซื้อขายด้วย Grid แทบจะไม่สนใจทิศทางของราคา ไม่สนใจแนวโนม เน้นไปที่การซื้อขายตามระบบที่ได้วางไว้ตั่งแต่แรก Grid จึงเป็นระบบที่สามารถสร้างกำไรได้เรื่อยๆ ทุกสถาณะการณ์ทุกภาวะตลาด
กริดเน้นการซื้อขายทำกำไรก้อนเล็ก(ตามการออกแบบโครงสร้างของกริด) เน้นกระแสเงินสด(Cash Flow)ที่ออกมา มากกว่ากำไรคไโตๆ กริดเองทำงานได้ดี ในช่วง sideway
ลิงค์เปิดบัญชีเทรดเพื่อใช้บอทเทรดฟรีตัวตัวใหม่ๆในอนาคตตลอดชีพ
XM มีโบนัสฟรี สำหรับลูกค้าใหม่
https://bit.ly/XMFreebonus30USD
.
Exness สมัครง่ายฝากถอนเร็ว
เลขพาร์ทเนอร์ 11000789
.
GMI เทรดดีไม่มีสะดุด Free Swap ทุกบัญชี
เลข IB GMP28407
รูปแบบกราฟ Double & Triple Top-Bottom คืออะไร
Double & Triple Top-Bottom หมายถึง แนวรับ-แนวต้าน หรือ จุดกลับตัว ของราคาที่ใช้หลักการทางจิตวิทยาขั้นพื้นฐาน ซึ่งเกิดจาก จุดสูงสุด (Highest) หรือ จุดต่ำสุด (Lowest) ของช่วงที่ผ่านมาไม่นาน โดยที่ราคาจะต้องมีการชะลอตัวอย่างมีนัยสำคัญเมื่อราคาวิ่งเข้าใกล้ จุดสูงสุด หรือ จุดต่ำสุด ดังกล่าว หากราคาชะลอตัวในครั้งที่ 2 จะเรียกว่า Double และหากราคาชะลอตัวในครั้งที่ 3 จะเรียกว่าแบบ Triple ซึ่งแบบ Triple จะมีความเป็นไปได้ในการทะลุระดับราคากล่าวไปน้อยกว่าแบบ Double
…………………………………………………………………………………………………………….
เทคนิค การเทรด Forex ให้ยั่งยืน เทคนิคการเทรด Forex ให้ยั่งยืนเป็นสิ่งที่ทุกคนจะต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรก มากกว่าความอยากที่จะรวยข้ามคืน เพราะสิ่งนี้จะทำให้เทรดเดอร์เกิดความโลภและขาดทุน แต่ถ้าเป้าหมายของคุณคือความยั่งยืนในตลาดแห่งนี้ในระยะยาวนั้นคือสิ่งที่ถูกต้อง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะเรียนรู้เทคนิคต่างๆ
แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเทรดเดอร์ไม่ที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เพียงแค่ทำตามแผนที่วางเอาไว้, เริ่มจากเป้าหมายที่ถูกต้อง, มีวินัยที่เข้มข้น และ ลงมือปฏิบัติให้ได้ตามแผน เพียงเท่านี้ความสำเร็จก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน
วางแผน MM ( Money Management ) กฏข้อแรกของการลงทุนนั่นก็คือการมี MM ที่ดี เพราะจะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถรักษาเงินทุนและป้องกันความเสี่ยงที่มากเกินไป เช่น เพื่อป้องกันอารมณ์หรือความโลภเข้าบังตา, ช่วยรักษาเงินทุนไว้ไม่เสียหายมากแม้เกิดความผิดพลาด และ เพื่อให้อยู่ในจุดที่พึงพอใจและสามารถรับการกดดันจากตลาดแห่งนี้ได้
ว่างก็จงหาเทคนิคใหม่ๆอยู่เสมอ เพราะว่าเทคนิคที่เคยใช้ในวันนี้อาจจะไม่ได้ผลอีกต่อไปในวันหน้า เนื่องจากไม่มีอะไรแน่นอนในตลอดแห่งนี้ กราฟราคาอาจจะขึ้นหรือลงตามสถานการณ์หรือข่าวต่างๆ แน่นอนว่าถ้าคุณไม่ขยันเรียนรู้ฝึกฝนหรือค้นหาเทคนิคใหม่ๆ อาจจะไม่ประสบความสำเร็จ อย่างยั่งยืนก็เป็นได้
มีเหตุผลในการเข้าออกออเดอร์ ทุกครั้งที่เทรดต้องมีเหตุและผลที่มากพอ ห้ามเทรดโดยใช้อารมณ์โดยเด็ดขาด, เสียต้องยอมเสียตามระบบ, ได้ก็ต้องได้ตามระบบ และ ห้ามเปิดปิดออเดอร์โดยที่ไม่มีแผน เมื่อจะเข้าออเดอร์แต่ละครั้งคุณจะต้องทบทวนเหตุผลในการเข้าให้ดี ต้องมีเหตุผลสนับสนุนมากกว่า 2 เหตุผลขึ้นไป แต่ถ้ายังมีเหตุผลไม่ครบห้ามเข้าเด็ดขาด เพราะนั่นคืออารมณ์ซึ่งจะทำให้พลาดโอกาสในการทำกำไร
ไม่เทรดด้วยอารมณ์ ถ้าเทรดเดอร์ทำตามแผนทุกอย่าง 100% ในทุกๆครั้งที่เข้าเทรดจะทำให้คุณมีเปอร์เซ็นต์ที่จะประสบความสำเร็จมากขึ้น
เข้าใจเกี่ยวกับการเทรดอย่างลึกซึ้ง ซึ่งการที่จะเข้าใจการเทรดให้ได้นั้นไม่ได้เกิดจากการที่เริ่มเรียนรู้จากคนเก่งๆ หรือเรียนรู้จากตำรา แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นได้คือการเรียนรู้จากสนามจริงและนำความรู้จากตำรามาทดลองใช้แล้วเรียนรู้จากสถานการณ์จริงอีกครั้ง ซึ่งสิ่งนี้จะเป็นประสบการณ์และโอกาสให้คุณประสบความสำเร็จ
เทคนิคการเทรด Forex ให้ยั่งยืนไม่ใช่เรื่องยากที่จะเข้าใจ โดยตามที่เรากล่าวไปข้างต้นเรื่องการฝึกฝนเทคนิค, ระบบเทรด และ ปัจจัยอื่นๆที่ส่งผลให้เทรดเดอร์ได้เปรียบในตลาด และแน่นอนว่าการฝึกฝนสิ่งเหล่านี้จะทำให้เกิดเป็นทักษะที่สามารถนำไปประกอบเป็นอาชีพได้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
Margin ในทางตลาด Forex นั้น หมายถึงเงินทุน ที่อยู่ในบัญชีของเรา ที่สามารถใช้ซื้อ-ขายหุ้นได้ และมีสิทธิพิเศษมากกว่า การใช้เงินสดในการลงทุน สำหรับบทนี้ เราขอแนะนำข้อมูลเกี่ยวกับ Margin อีก1บท ที่จะทำให้คุณเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนในตลาด Forex มากขึ้น เราจะพานักอ่านทุกท่านไปรู้จักกับ Margin call ที่มีบทบาทสำคัญในตลาดการลงทุน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่คุณต้องทำความเข้าใจ ก่อนที่จะเริ่มทำการลงทุน
Margin Call คือ สถานการณ์ทางบัญชีเทรดของคุณ ที่มีมูลค่ารวมต่ำกว่าที่ระดับ Forex โบรกเกอร์ กำหนด และต้องการเตือนให้ฝากเงินเพิ่มหรือปิดทุกออเดอร์ให้หมด หากนักเทรด Forex ยังนิ่งเฉย ทางโบรกเกอร์ก็จะทำการปิดทุกออร์เดอร์หรือ Position ที่ถืออยู่ทั้งหมด ในบัญชีเทรดของคุณโดยอัตโนมัติ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Margin Closeout ดังนั้นคำตอบที่ง่ายที่สุดสำหรับคำถามที่ว่า “มาร์จิ้นคอล คืออะไร?” ก็คือการที่โบรกเกอร์ต้องการให้คุณเพิ่มเงินในบัญชีหากคุณอยากจะเทรดต่อนั่นเอง
ในหมู่นักลงทุนมาร์จิ้นคอลไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย เว้นแต่นักลงทุนบางคนปล่อยให้ Margin ในบัญชีของตัวเองลดน้อยลง จนเกิดเป็น Margin Call เพราะหากยอดเงินในบัญชีของคุณเหลือน้อย ทางโบรกเกอร์จะใช้ Margin call ในการแจ้งคุณ เพื่อให้คุณดำเนินการแก้ไขกับบัญชีนั่นเอง การเทรดที่ดีไม่ควรมี Margin Call เกิดขึ้น เพราะมันแสดงถึงความไร้ระเบียบ ไร้การวางแผน ขาดการป้องกันความเสี่ยงในการเทรด
Margin call เป็นเสมือนสัญญาณเตือน สำหรับนักลงทุน ว่าตอนนี้สถานะทางบัญชีเทรดของคุณ อยู่ในระดับต่ำ และต้องรีบดำเนินการในทันที ไม่ว่าจะเป็นการฝากเงินหรือการปิดออร์เดอร์ที่คุณเทรดอยู่ก็ตาม Margin call เป็นการแจ้งเตือนว่าเราควรจะดำเนินการอย่างไรต่อไปในตลาด Forex เพื่อให้เทรดเดอร์เกิดความเสียหายในการลงทุนน้อยที่สุด
หากกล่าวถึงจุดเด่นของ Margin call แล้ว แน่นอนว่าต้องเป็นการแจ้งเตือนข้อมูลข่าวสารให้กับนักลงทุน ผู้เป็นเจ้าของบัญชี เพื่อบอกกว่า ตอนนี้สถานะทางบัญชีเป็นอย่างไร ซึ่งส่วนใหญ่ มักจะแจ้งเตือนเมื่อยอด Marginในบัญชี ต่ำกว่าที่ทางโบรกเกอร์กำหนด จึงทำให้เป็นจุดเด่นในการแจ้งเตือน เพื่อแก้ไข และไม่ให้เกิดความเสียหายกับการลงทุนมากนัก
การเทรดที่ดีไม่ควรมี Margin Call เกิดขึ้น เพราะมันหมายความถึงการเทรดที่ไร้ระบบระเบียบ แบบแผน การขาดการป้องกันความเสี่ยงของการเทรด สิ่งที่คุณควรทำเกี่ยวกับเรื่องของ Margin Call คือ หยุดคิดและ หยุดการเทรด หันกลับมาทบทวนถึงความรู้ในการเทรดที่คุณมี และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการเทรด การเทรดอย่างมีระบบ การเทรดอย่างมีแผนการเสียใหม่ การโดน Margin Call ในตลาด Forex นั้นไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เนื่องจาก ตลาด Forex เป็นตลาดที่มี Leverage ที่สูง ทำให้การเกิด Margin Call นั้นเกิดได้ง่ายกว่า เนื่องจาก การใช้ Lot ที่สูง ทำให้ระยะการวิ่งของพอร์ทลงทุนนั้นมีระยะทางที่สั้นลงตามไปด้วย
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
สเปรด (Spread) คือ ความแตกต่างระหว่างราคาขาย (Bid) และราคาซื้อ (Ask) ของสกุลเงิน สินทรัพย์ หลักทรัพย์ หรือสินค้าโภคภัณฑ์ เป็นคำที่ใช้กันทั่ว ๆ ไป ในอุตสาหกรรมการเงิน
สเปรด(Spread) คืออะไร หมายถึง การคิดค่าบริการหรือค่าธรรมเนียมในการเทรดที่โบรกเกอร์คิดจากเทรดเดอร์ นั่นเอง จะเป็นส่วนต่างของราคา Bid Price กับ Ask Price ซึ่งเมื่อคุณเปิด Order ทุกครั้ง ไม่ว่าคุณจะเทรดคู่เงินตัวไหน ก็จะติดลบทันที ให้ลองนึกถึงราคาซื้อขายของร้านทอง ที่ราคารับซื้อจะถูกกว่าราคาขายออกเสมอ
Spread คืออะไร (สเปรด คืออะไร) ลองดูภาพประกอบด้านบนนี้ เพื่อให้เข้าใจในความหมายของคำว่า “สเปรด” มากขึ้นอย่างรวดเร็ว จะเห็นว่าระหว่างราคา Bid (1.15280) กับ Ask (1.15290) ต่างกันอยู่ 10 นั่นคือค่าสเปรดนั่นเอง ( 10 Point / 1.0 Pips )
สเปรดคงที่ หมายความว่า จำนวนสเปรดจะไม่เปลี่ยนแปลงตามความผันผวนและการแปรปรวนของตลาด Forex ไม่ว่าสภาพตลาดจะเป็นอย่างไร
สเปรดแปรผัน หรือ สเปรดลอยตัว คือ ราคา bid และ ask ของคู่สกุลเงินนั้นมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ตามความผันผวนและการแปรปรวนของตลาด Forex
โดยทั่วไปแล้ว Spread ยิ่งน้อยยิ่งดี เพราะการเทรดแต่ละครั้งเราจะได้กำไรมากขึ้น
Spread คือ ส่วนต่างของราคา Bid Price กับ Ask Price ซึ่งเมื่อคุณเปิด Order ทุกครั้ง ไม่ว่าคุณจะเทรดคู่เงินตัวไหน ก็จะติดลบทันที หากจะให้เข้าใจง่ายๆ ให้คุณลองนึกถึงพวกร้านทองคำ ตามตลาดหรือในห้างสรรพสินค้าต่างๆ คุณจะสังเกตเห็นป้ายหน้าร้านที่เขียนว่า ขาย 25,000 บาท รับซื้อ 24,500 บาท ซึ่งหมายความว่า
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
รีวิว!ผลงานเทรดจากผู้ใช้จริงในกลุ่ม
ฟรี!ระบบเทรดอัตโนมัติ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
คำศัพท์ที่น่าสนใจคำต่อไปคือคำว่า Pip และคำว่า Point สองคำนี้เป็นคำที่ใช้เรียก หน่วยของค่าเงินซึ่งแน่นอนว่าคุณนั้นอาจยังไม่เข้าใจ หรืออาจคิดว่า ค่าสองตัวนี้น่าจะมีค่าเหมือนๆกัน แต่ในความเป็นจริงแล้วค่า Pip และค่า Point มีค่าที่แตกต่างกันและมีวิธีการเรียกที่แตกต่างกันด้วย ดังนั้นเพื่อทำความเข้าใจกับสองค่านี้ เรามาศึกษาไปพร้อมๆกันนะครับ
คำว่า pip (Price Interest Point) หมายถึงการนับค่าจุดทศนิยมตัวสุดท้ายหรือทศนิยมตำแหน่งที่ 2 หรือ 4 ไล่ขึ้นมา เช่น สมมุติว่าราคาของคู่เงิน EUR/USD คือ 2.3453 และราคาเปลี่ยนไปที่ 2.3454 อย่างนี้เราเรียกว่า ราคาเคลื่อนไหวไป 1 pip ครับ
คำว่า “Point” หรือจะเรียกอีกอย่างว่า “จุด” เราจะใช้นับการเคลื่อนไหวของจุดทศนิยมตำแหน่งที่ 3 หรือ 5 ไล่ขึ้นมา ซึ่งจะมีอยู่ไม่กี่คู่เงินนะครับ ยกตัวอย่างเช่น EUR/USD หรือ EUR/AUD โดยมากราคาที่ 2.34340 เปลี่ยนเป็น 2.34349 ถือว่าลักษณะแบบนี้ราคาขยับไปจำนวน 9 Point นั่นเอง ซึ่งคำว่า Point จะใช้กับทศนิยม 5 หรือ 3 ตำแหน่งนะครับ แต่ว่าเมื่อเอาเข้าจริงๆแล้ว บางทีคนเทรด forex ก็มีการเรียกสลับกันไปมาระหว่าง Pip กับ Point อยู่พอสมควรเลย
1 Pip มีค่าเท่ากับ 10 Point เสมอ
ตัวอย่างที่ 1 คู่สกุลเงิน EURUSD ในตลาด Forex ซึ่งมี ทศนิยม 5 จุด
ตัวอย่างที่ 2 คู่สกุลเงิน USDJPY ในตลาด Forex ซึ่งมี ทศนิยม 3 จุด
ตัวอย่างที่ 3 คู่สกุลเงิน GBPUSD ในตลาด Forex ซึ่งมี ทศนิยม 5 จุด
จริงๆแล้วในแง่ของการปฏิบัติ เมื่อเราทำการเทรด forex สองค่านี้เรามักจะนำมาใช้เพื่อเรียกอธิบายความหมายของราคาคู่เงินเสียมากกว่า โดยที่ไม่ได้ลงรายละเอียดลึกลงไปที่ค่าอะไร ดังนั้นเราก็เพียงแต่ศึกษาถึงรูปแบบและวิธีการอ่านค่าไว้ เพื่อที่ว่าถ้าเราไปเจอข้อมูลในเว็บบอร์ดต่างประเทศ หรือภายในประเทศและต้องการอธิบายก็สามารถใช้คำเหล่านี้อธิบายความหมายออกมาได้
สรุปแล้ว คำศัพท์สองคำนี้ ถือว่ามีความสำคัญพอสมควร เพราะช่วยให้เราทำความเข้าใจเรื่องของค่า pip และค่า point ได้มากยิ่งขึ้น ถ้าจะเปรียบเทียบเพิ่มอีกอย่างหนึ่งก็คือ หน่วยของค่า pip จะมีขนาดใหญ่กว่าหน่วยของค่า point 10 เท่า หรือแปลง่ายๆว่า 1 pip = 10 point แบบนี้ก็ได้ครับ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
คำแรกที่เราจะต้องทำความเข้าใจคือ คำว่า Stop Order คำนี้นั้น โดยรวมจะมีความหมายถึง การตั้ง Buy Stop Order เพื่อให้มีราคาที่สูงกว่าราคาที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน กับการเลือก Sell Stop order เพื่อให้มีราคาของสัญญาต่ำกว่าราคาในปัจจุบัน เทคนิคการทำ Stop Order นิยมมากที่สุดคือใช้เทรดตามที่กราฟกำลังรับกับข่าว หรือว่ามีข่าวกำลังจะเกิดขึ้น
ความหมายของคำว่า Buy Stop Order คือการตั้งราคาซื้อให้มีราคาที่สูงเกินกว่าราคาปัจจุบัน เช่นๆ เราเทรดค่าเงิน EUR/USD ปรากฏว่าราคาปัจจุบันคือ 1.23456 การทำ Buy Stop Order ราคาจะตั้งล่วงหน้าในตำแหน่งที่สูงขึ้นคือ 1.32000 ถ้ากราฟวิ่งมาถึงราคานั้นก็จะเปิดสัญญา Buy ทันที ทำให้เราได้กำไรต่อเนื่องไปเรื่อยๆทันทีครับ
ความหมายของคำว่า Sell Stop Order คือการตั้งราคาขายให้มีราคาต่ำกว่าราคาที่เป็นราคาปัจจุบัน เช่นตัวอย่างเดียวกันกับข้างต้นครับ เช่นๆ เราเทรดค่าเงิน EUR/USD ปรากฏว่าราคาปัจจุบันคือ 1.23456 การทำ Sell Stop Order ที่ 1.22000 แบบนี้ถ้ากราฟวิ่งลงมาถึงราคาของเรา ก็จะทำการเปิดสัญญา Sell ทันที ทำให้เรามีกำไรในส่วนของขาลงทันทีนั่นเอง
1.ใช้เมื่อเรารู้ว่ากำลังจะเกิดข่าวขึ้นภายในเวลาไม่นาน ปกติเมื่อเกิดข่าวขึ้นมา กราฟจะมีการสวิงตัวที่แรงมากๆ ส่งผลให้เรานั้นไม่สามารถเข้าเทรดได้ทันเวลาแต่การทำ Stop Order จะช่วยให้เราสามารถเข้าเทรดได้ทันอย่างแน่นอน
2.ช่วยประหยัดเวลาในการเฝ้าหน้าจอ ข้อนี้ก็มีความสำคัญมากเช่นกัน หากคุณสามารถคำนวณได้แล้วว่า ระยะเวลาที่การเคลื่อนไหวของกราฟนั้นจะเป็นไปในทิศทางใดและรูปแบบใด คุณก็สามารถที่จะประหยัดเวลาในการเฝ้าหน้าจอได้เพราะตั้งค่ากราฟรอไว้เลยนั่นเอง
คำศัพท์เหล่านี้จะเกี่ยวพันกับเทคนิคในการตั้งราคาซื้อขายกันไว้ล่วงหน้า ทำให้เมื่อราคาวิ่งมาจนถึงตำแหน่งที่เราต้องการ เราก็จะสามารถเปิดสัญญาได้อย่างทันท่วงที เพราะบางครั้งนั้นระยะเวลาในการขยับของกราฟเข้ามาที่เส้นอาจใช้เวลาเร็วกว่าที่คิดมาก ทำให้เปิดออเดอร์ไม่ทันได้
การเทรด Forex ต้องเรียนรู้พื้นฐานให้ครบถ้วน โดยเฉพาะเครื่องมือสำคัญ ตัวอย่างของ Stop Order เป็นตัวอย่างที่ดีของการใช้เครื่องมือเพื่อลดภาระของการเทรด Stop Order จะช่วยให้ชีวิตการเทรดของเราง่ายขึ้น
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ข้อดีของอาชีพการเทรด Forex
ข้อดีของ การเทรด Forex เป็นอาชีพ หากจะพูดถึง Forex หลายๆคนอาจจะคิดว่ามันเป็นการลงทุนที่ดี ซึ่งหากเราจะทำมันเป็นงานอดิเรกก็ถือว่าคุ้ม เพราะเราใช้เวลากับการเทรดไปก็ได้กำไรกลับคืนมา ดีกว่าเอาเวลาไปเสียทิ้งกับสิ่งที่ทำให้เรายิ่งเสียเงินเยอะขึ้น แต่จริงๆแล้วการเทรด Forex นั้น ไม่ได้เหมาะกับการเทรดแบบเป็นงานอดิเรกอย่างเดียว เพราะมีนักลงทุนหลายคนที่ต่างสามารถเทรด Forex จนกลายเป็นการลงทุนหรือเป็นอาชีพได้เลยนั่นเอง
ซึ่งนักเทรดเหล่านั้นต่างสามารถทำกำไรจากตลาด Forex ได้มากมายจนนับไม่ถ้วน ซึ่งการที่จะสามารถก้าวไปสู่จุดนั้นได้ ตัวนักเทรดเองจำเป็นจะต้องมีวินัยอยู่ไม่น้อย รวมไปถึงความรู้และความเข้าใจที่ดี จึงจะสามารถทำเช่นนั้นได้ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ยากอยู่ไม่น้อย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่สามารถทำได้ ถ้าหากว่าคุณมีทุน และตั้งใจศึกษา Forex ตั้งใจเทรดและฝึกฝนอยู่บ่อยๆผมรับรองเลยว่าในไม่ช้าคุณจะสามารถเทรด Forex เป็นอาชีพได้นั่นเอง ซึ่งในวันนี้ผมจะมาพูดถึงข้อดีของการเทรด Forex เป็นอาชีพว่ามันมีอะไรดี ดีอย่างไร นั่นเอง …..
โดยหลักๆมีอยู่ด้วยกัน 6 ข้อดังต่อไปนี้
1. อิสระด้านเวลา
สำหรับข้อดีข้อแรกในการทำอาชีพเป็นนักเทรด Forex ก็คือ มีอิสระด้านเวลา หากคุณทำงานประจำหรือสังเกตผู้คนที่เขาทำงานประจำกัน แน่นอนเลยเรื่องของเวลาในการทำงานต้องอยู่ราวๆ 6-7 ชั่วโมงไม่รวมชั่วโมงพิเศษ ซึ่งมันดูเหมือนว่าเวลาครึ่งวันได้หายไปกับการทำงานประจำ ส่วนอีกครึ่งวันก็คือการกลับมานอน แต่ถ้าหากว่าคุณผันตัวมาทำอาชีพเป็นนักเทรด Forex สิ่งที่คุณจะได้อันดับแรกเลยก็คือเรื่องของเวลา แน่นอนว่าการเทรด Forex ไม่ใช้เวลามากมาย เพียงแค่คุณนั่งวิเคราะห์สัก 1 ชั่วโมง ทั้งวันคุณก็สามารถทำกำไรได้แล้วนั่นเอง
2. ไม่มีใครมาจี้ดุด่า
สำหรับข้อดีข้อสองในการทำอาชีพเป็นนักเทรด Forex ก็คือ ไม่มีใครมาจู้จี้ดุด่าคุณ ทั้งนี้นั้นต้องบอกก่อนเลยว่าในการทำงานประจำบางสายงานส่วนใหญ่จะต้องมีหัวหน้าคอยคุมงาน หรือไม่ก็มีผู้คนที่ต้องมาคุมงานคุณ บ่อยครั้งที่คุณจะต้องเจอการจู้จี้ การบ่นการด่าจากหัวหน้างานหรือคนคุมงานเหล่านั้นจนน่าเบื่อ แต่ถ้าหากว่าคุณทำอาชีพเป็นนักเทรดแล้วล่ะก็ มันจะไม่มีใครมาดุด่า จู้จี้หรือมาตามงานคุณได้ เพราะการเทรด Forex ทุกอย่างขึ้นอยู่ที่การตัดสินใจจากคุณคนเดียวนั่นเอง
3. ทุกที่บนโลกทำงานได้
สำหรับข้อดีข้อสามในการทำอาชีพเป็นนักเทรด Forex ก็คือ ทุกที่บนโลกเราสามารถทำงานได้หมด ถ้าหากว่าคุณเป็นพนักงานออฟฟิศ สถานที่ทำงานของคุณก็จะต้องอยู่แต่ออฟฟิศที่เดิม แต่ใน Forex ไม่ใช่เช่นนั้น การเทรด Forex เป็นการทำงานหรือการลงทุนในโปรแกรมเทรดผ่านโบรกเกอร์ นั่นหมายความว่าต่อให้คุณจะอยู่ที่ไหนคุณจะสามารถเทรด Forex ได้นั่นเอง
4. ทำไปด้วยผ่อนคลายไปด้วย
สำหรับข้อดีข้อสี่ในการทำอาชีพเป็นนักเทรด Forex ก็คือ ทำไปด้วยผ่อนคลายไปด้วย จากที่ได้กล่าวไปในข้อ 3 ว่า Forex ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ และการเทรด Forex ทุกอย่างขึ้นอยู่ที่เราเพียงคนเดียว ดังนั้นถ้าหากว่าคุณเครียดจากการเทรด ก็ไม่ต้องกังวลเพราะคุณก็สามารถผ่อนคลายได้ด้วยตัวเอง อาจจะเทรด Forex ไปฟังเพลงไปก็ไม่มีใครห้ามคุณ
5. มีสังคม Forex รออยู่ไม่ต้องกลัวเหงา
สำหรับข้อดีข้อห้าในการทำอาชีพเป็นนักเทรด Forex ก็คือ มีสังคมรออยู่ไม่ต้องกลัวเหงา เพราะ Forex เป็นตลาดการลงทุนขนาดใหญ่ ถ้าหากว่าคุณอยากจะหาเพื่อนร่วมงานตามกลุ่มออนไลน์เฟสบุ้คมีอยู่มากมายให้คุณได้พบเจอพวกเขา
6. ถ้าเทรดเก่งแล้วโอกาสกำไรก็สูง
สำหรับข้อดีข้อสุดท้ายในการทำอาชีพเป็นนักเทรด Forex ก็คือ เมื่อคุณเซียนแล้ว โอกาสในการทำกำไรก็จะสูงขึ้น หากเปรียบกับงานประจำก็เหมือนกับการเลื่อนตำแหน่งงานทำให้คุณมีเงินเดือนเยอะขึ้นแต่มันก็ต้องแลกมาด้วยผลงาน ซึ่ง Forex ก็เช่นกัน หากคุณมีประสบการณ์มาก มีเทคนิคและเชี่ยวชาญมากขึ้น คุณก็จะสามารถสร้างกำไรได้สูงขึ้นอย่างแน่นอน
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
กฎการเทรด FOREX ที่ต้องมี หากอยากประสบความสำเร็จ
การเทรด forex ที่ต้องมี หากอยากประสบความสำเร็จสำหรับ forex หลายๆคนอาจเคยรู้ได้ยินคำๆนี้มา แต่อาจจะไม่รู้ว่ามันคืออะไร ? จริงๆแล้ว forex ก็คือตลาดลงทุนชนิดหนึ่ง โดยที่ภายในตลาด forex จะเป็นการลงทุนในรูปแบบซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินตราชนิดต่างๆไม่ว่าจะเป็น USD EUR เป็นต้น และนอกจากสกุลเงินเหล่านี้แล้วก็ยังมีทั้งโลหะมีค่าอย่างเช่น ทองคำ ซึ่งถือว่าตลาด forex แห่งนี้มีสภาพคล่องตัวเป็นอย่างมากในแต่ละวันมีผู้คนนับแสน ๆไปลงทุนในตลาด forex แห่งนี้นั่นเอง และ forex ก็ถือได้ว่าเป็นตลาดการลงทุนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย ซึ่งต้องบอกเลยว่ากำไรจากการเทรด forex นั้นค่อนข้างสูงทีเดียว หลายต่อคนก็พยายามที่จะเข้าไปทำกำไรจากตลาด forex แห่งนี้อย่างไม่ขาดสาย แต่ช้าก่อน !!
จริงๆแล้วตลาด forex แห่งนี้มีความน่ากลัวซ่อนอยู่ เพราะตลาด forex เป็นตลาดการลงทุนที่มีความผันผวนที่สุดในโลก ถ้าหากว่าคุณเทรด forex แบบสุ่มสี่สุ่มห้า รับรองเลยว่าขาดทุนหมดพอร์คได้อย่างแน่นอน ซึ่งในบทความนี้เราจะมาพูดคุยเกี่ยวกับกฎการเทรด forex ที่จะช่วยทำให้คุณอยู่รอดบนตลาดแห่งนี้ซึ่งมีด้วยการ 5 ข้อดังนี้
1. ห้ามหยุดเรียนรู้
กฎข้อแรกของการเทรด forex ที่เราจะมาทำความเข้าใจกันในครั้งนี้ ก็คือเรื่องของการเรียนรู้สิ่งต้องห้ามในการเทรด forex ที่คุณไม่ควรทำ ถ้าหากอยากจะเทรด forex ให้ได้กำไรนั่นก็คือ ห้ามหยุดเรียนรู้ เพราะใน forex นอกจากเงินจะเป็นต้นทุนสำคัญแล้ว ความรู้ก็เป็นทุนที่สำคัญเช่นเดียวกัน หากใครมีความรู้เยอะก็สามารถทำกำไรจากการเทรดได้มากกว่าและง่ายกว่านั้นเอง
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
Trader คืออะไร
ในพจนานุกรม อังกฤษ-ไทยนั้น คำว่า Trader แปลว่า ผู้ที่ทำกิจกรรมเกี่ยวกับการเงิน แต่ในความหมายของทางการเงิน Trader จะหมายถึง บุคคลที่ทำหน้าที่ในการซื้อ – ขายสินทรัพย์ทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็น หุ้น ตราสารหนี้ สินค้าโภคภัณฑ์ และรวมไปถึงตราสารอนุพันธุ์ กล่าวโดยสรุป “เทรดเดอร์ ก็คือ นักเทรด หรือคนที่ทำการเทรดนั่นเอง” นั่นเอง
Trader ทำงานอย่างไร
การ Trad นั้น เป็นอาชีพที่สามารถทำงานเกี่ยวกับการเงินได้หลายทาง เช่น สถาบันการเงิน บริษัทเอกชน หรือนักลงทุนกลุ่มบุคคลก็ได้ โดย Trader จะมีวิธีการทำงานคือ เป็นผู้ที่ทำหน้าที่ซื้อ-ขายตราสารทางการเงินในตลาดหุ้น ตลาดอนุพันธุ์ ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
ในการลงทุนกับ Forex นั้น Trader จะมีหน้าที่ซื้อ-ขายแลกเปลี่ยนค่าเงิน ของสกุลเงินต่างๆ เป็นผู้ที่สร้างกำไรจากการลงทุนกับ Forex ได้ โดยใช้เวลาเพียงน้อยนิด ในภาพของวงการธุรกิจนั้นการเป็น Trader Forex ที่ประสบความสำเร็จมักจะได้รับการยอมรับจากนักลงทุนว่าเป็นมืออาชีพทันที เพราะนัก Trader Forex ที่เก่งกาจมักจะเป็นคนที่สุขุม สามารถควบคุมอารมณ์ตนเองได้เป็นอย่างดี รู้จักควบคุมความเสี่ยง รู้ความอ่อนไหวของกลไกลตลาด ตลอดจนสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างดีเยี่ยม
เป็นวิชาชีพที่เหมาะกับการลงทุน
อย่างที่เราทราบกันดีแล้วว่า Trader นั้น ทำหน้าที่เกี่ยวกับอะไร และทำอะไรได้บ้าง แต่บางคนอาจจะยังไม่รู้ ว่าการลงทุน สำหรับ Trader แล้ว ถือเป็นหนึ่งกุญแจดอกสำคัญที่จะช่วยให้การลงทุนของเราสามารถทำกำไร ตลอดจนสร้างความท้าทายแก่เทรดเดอร์ได้อย่างมากมาย
พื้นฐานของ Trader ที่จะประสบความสำเร็จ
การเป็น Traderนั้น สามารถช่วยสร้างกำไรได้ตลอดเวลาก็จริง แต่กว่าจะไปยืนบนจุดนั้นได้ กว่าจะประสบความสำเร็จแบบนั้น เราต้องผ่านอะไรอีกมากมาย จะต้องมีความรู้เกี่ยวกับการวิเคราะห์ทางเทคนิค ที่ตรงกับกลยุทธ์การลงทุนของตัวเอง โดยจะต้องรู้จักการประเมินต้นทุน ความเสี่ยง และผลตอบแทนได้เสมอ และสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ดี
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
Drawdown(DD.) หมายถึง % ของจำนวนเงินขาดทุนสะสมของ balance ซึ่งจะมีค่าที่ตรงกันข้ามกับการทำกำไรนั่นเอง โดยปกติแล้ว ถ้า % ของ Drawdown ไม่เกินกว่า 30% ยังถือว่า พอร์ตของคุณมีโอกาสในการกลับมาเติบโตได้ แต่ถ้าสูงกว่านี้เมื่อไหร่ มีความเสี่ยงทันที
หากคุณกำลังหา copy trade ใครสักคนหรือกำลังอยากจะซื้อ EA FOREX สักตัว แต่ไปดูรายละเอียด พบว่า DD อยู่ที่ 90% นั่นหมายความถึงความเสี่ยงที่ครั้งหนึ่งเค้ายอมถืออิเดอร์ที่ติดลบถึง 90% ถึงแม่มันจะกลับมาเป็นบวก แต่นั้นหมายถึงความเสี่ยง
เรื่องนี้ก็คือเรื่องของการขาดการใช้ในส่วนที่เป็นเครื่องมือนั่นเอง โดยปกติแล้วหากเป็นนักเทรดมืออาชีพ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีเครื่องมือที่ช่วยให้การเทรดของคุณสามารถทำกำไรได้ แต่ถ้าไม่มีเครื่องมือ หรือเทรดแบบการพนันแล้ว สิ่งที่ตามมาคือการสะสมของค่า Drawdown นั่นเอง
การขาดการบริหารจัดการการเงินที่ดี (Money management) ย่อมส่งผลคือ โอกาสในการขาดทุนสะสมและทำให้เกิดค่าที่เรียกว่าค่า Drawdown นั่นเอง ดังนั้นหากคุณไม่ต้องการให้เกิดค่าตัวนี้สูงๆ การเรียนรู้ที่จะวางแผนการเทรด forex ทุกครั้งก่อนทำการเทรดจริง น่าจะเป็นทางออกในการลดค่า % ของ Drawdown
เรื่องสุดท้ายคือ การขาดหลักการที่เรียกกันง่ายๆว่า จิตวิทยาการลงทุน หรือหากกล่าวกันตามตรงแล้ว คือการเล่นกับความโลภที่อยู่ภายในใจของเรานั่นเอง หากคุณไม่ต้องการให้ตนเองนั้นขาดทุนและเกิดค่า Drawdown เป็นจำนวนมาก จงเทรด forex อย่างมีสติ และรู้จักเรื่องของการวางแผนในการเทรด พร้อมทั้งมีกลยุทธ์ที่ดีด้วย
Maximum Drawdown (Max DD) คือ จุดขาดทุนต่อเนื่องสูงสุด นับจากผลต่างระหว่างจุดที่ขึ้นไปสูงสุดและต่ำสุด ซึ่งเราจะใช้ค่านี้มากในการวัดประสิทธิภาพของ EA โดยตั้งเป้าไม่ควรเกิน 20 % ถ้าระบบ EA ตัวไหนที่มีค่า Max DD. สูงกว่านี้ถือว่ายังใช้ไม่ได้ครับ
เพราะ Maximum Drawdown ที่สูงๆ นั้นไม่ได้เกิดขึ้นกันง่าย ๆ นะครับ ถ้าหากคุณมี Stop Loss ที่ดีพอ. บางที่ระบบมี Net Profit ที่มากน่าสนใจ และมี Absolute Drawdown ที่ไม่มากไป แต่ดันมี Maximum Drawdown เยอะ เรียกว่าบางครั้งได้กำไรเยอะก็ขาดทุนก้อนโตเยอะเหมือนกัน ซึ่งการขาดทุนก้อนโตเกินความเสี่ยงที่นักลงทุนรับไหว ก็อาจทำให้เราไม่สามารถทำตามระบบเทรดนั้นได้ตลอดเวลา
Relative Drawdown (RDD) คือ จุดขาดทุนต่อเนื่องสูงสุด ณ จุดๆ หนึ่งของ balance ค่านี้เป็นตัวบอกว่า ณ จุดๆ หนึ่งของการเทรด หรือทดสอบระบบ ไม่ว่าจะเป็นระบบมือ หรือ EA จะมีการขาดทุนต่อเนื่องได้กี่ % ของ balance ณ ขณะนั้น
เช่น = 20% หมายถึง จะมีช่วงใดช่วงหนึ่งที่ระบบของเราจะขาดทุนติดต่อกันถึง 20% ถ้าเราเข้าเทรดช่วงตลาดหรือระบบเกิดการ Drawdown ณ เวลานั้นเช่น ถ้ามีทุนอยู่ 1000 เหรียญ ก็อาจถูกลากพอร์ตติดลบหรือขาดทุนติดต่อกันได้ ถึง 200 เหรียญ เป็นต้น
ค่า RDD. ยิ่งมีค่าน้อยเท่าไหร่ยิ่งดี ค่าที่แนะนำคือ ไม่ควรเกิน 20% และยอมรับได้ไม่เกิน 30% ถ้าเล่นหลายคู่ ไม่ควรเกินคู่ละ 10-12 % เพราะเมื่อถึงเวลาเทรดจริงๆ ถ้าติดลบมากๆ เช่น 20% แล้ว จะมีความรู้สึกไม่มั่นใจว่า ระบบที่ใช้จะยังใช้ได้ดีหรือเปล่า ตลาดกำลังจะเปลี่ยนหรือเปล่า การ recover ทุนจากการติดลบมากๆ ก็อาจจะต้องใช้เวลาหรือความพยายามมาก กว่าจะได้ทุนคืน
Absolute drawdown คือ ผลขาดทุนมากที่สุดที่เคยเกิดขึ้นนับจากต้นทุนเริ่มต้น (deposit) ตัวนี้จะช่วยบอกว่า หน้าตักที่คุณมีมันทนทานเพียงพอต่อระบบเทรดชนิดนั้นหรือไม่
เพราะระบบเทรดบางตัวอาจมี Total Net Profit ที่กำไรดี แต่มี Absolute Drawdown ที่เยอะจนหน้าตักเงินทุนเริ่มต้นเราไม่เพียงพอที่จะอยู่ทำตามระบบในระยะยาวได้
สิ่งแรกที่สำคัญที่สุดคือ ค่า Drawdown ยิ่งมี % เข้าใกล้ 100 มากเท่าไหร่ นั่นหมายถึงโอกาสที่เรากำลังจะเข้าสู่การล้างพอร์ตกำลังเดินทางมาถึงแล้วในไม่ช้า ดังนั้นอย่าปล่อยให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวโดยเด็ดขาด คุมค่าตัว Drawdown ให้ต่ำเข้าไว้
ผมยอมรับว่าค่อนข้างขี้ตื่นกลัวมากไปหน่อยดังนั้นค่า Drawdown ที่ผมคิดว่าเหมาะสมมากที่สุดและปลอดภัยที่สุดสำหรับผมคือ ประมาณ 25-30% จงรักษาค่าให้อยู่ประมาณนี้แล้วผมการันตีว่า port forex ของคุณจะไม่ได้รับความเสียหายอย่างแน่นอนครับ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
มาร์จิ้น Margin Forex คืออะไร ?
มาร์จิ้น (Margin) คือ เงินหลักประกัน ที่ถูกหักไว้เมื่อเปิด Order (สั่งซื้อขาย) และจะคืนให้เมื่อปิด Order ในส่วนของ Margin จะเกี่ยวข้องกันกับ ค่า Leverage ที่ใช้ เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น ขอยกตัวอย่างดังนี้
ตัวอย่าง
สำหรับ Margin คือจำนวนเงินที่เราสามารถเอาไปใช้ได้จริงๆ ซึ่งแบ่งย่อยออกเป็น
เหมือนเป็นคำที่ไม่จำเป็นต้องรู้ แต่จริงๆ แล้วคำๆ นี้มันค่อนข้างสำคัญและใช้อยู่บ่อยๆ ทุกครั้งที่เทรดเลยก็ว่าได้ เพราะเวลาเปิด Order มันจะขึ้นอยู่ตลอดเวลาที่แถบด้านล่างของหน้าจอเลยทีเดียว
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
PMI คือ ดัชนีที่ใช้เป็นตัวบ่งชี้สภาวะทางเศรษฐกิจของภาคการผลิตและบริการ ย่อมาจาก Purchasing Managers’ Index หรือก็คือ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ จุดมุ่งหมายของดัชนีคือการให้ข้อมูลเกี่ยวกับเงื่อนไขทางธุรกิจในปัจจุบันให้กับนักวิเคราะห์, ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ, ผู้มีอำนาจตัดสินใจของบริษัท มันถูกสร้างจากห้าตัวชี้วัดหลัก เช่น ระดับสินค้าคงคลัง, การผลิต, การจัดส่งของซัพพลายเออร์, คำสั่งซื้อใหม่ และสภาพแวดล้อมการจ้างงาน
เพื่อให้ข้อมูลทางด้านสภาวะทางเศรษฐกิจต่อนักลงทุน นักวิเคราะห์ ประชาชนทั่วไป
ผู้ผลิตหลักของ PMI มี 2 ราย พวกเขาเป็นสถาบันการจัดการอุปทานที่ผลิตตัวชี้วัดสำหรับสหรัฐอเมริกาและ Markit Group ซึ่งดำเนินการในกว่า 30 ประเทศทั่วโลก ดังนั้นพวกเขาจึงทำแบบสำรวจรายเดือนแล้วส่งไปยังฝ่ายจัดซื้อในเกือบ 300 บริษัท ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อจะเป็นผู้ตอบคำถามแต่ละข้อในแบบสำรวจ โดยจะให้การประเมิณในแต่ละข้อตามเกณฑ์เช่น “ปรับปรุง”, “ไม่เปลี่ยนแปลง”, “เสื่อมสภาพ”มีสูตรพิเศษที่กำหนดน้ำหนักให้กับแต่ละหัวข้อแล้ว x 1.0 สำหรับการปรับปรุง, x 0.5 สำหรับการไม่เปลี่ยนแปลง และ x 0 สำหรับการเสื่อมสภาพ สุดท้ายตัวเลขที่สูงกว่า 50.0 จะบ่งชี้ว่าอุตสาหกรรมมีการขยายตัว ส่วนตัวเลขที่ต่ำกว่านี้จะ – มีการหดตัว
ข้อดีและข้อเสียของ PMI
ข้อดี
ข้อเสีย
รายงานของภูมิภาคของสหรัฐอเมริกาจะออกมาก่อนใครและอาจมีค่าสหสัมพัทธ์สูงและทำให้การประกาศนี้ไม่ค่อยมีผล
ทำไมมันจึงมีความสำคัญมาก?
บางคนคิดว่าดัชนีนี้ไม่สำคัญนักเพราะเป็นเพียงการสำรวจความคิดเห็นของผู้จัดการ อย่างไรก็ตามมันเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญที่สุดสำหรับนักลงทุนที่มองหาเบาะแสเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ พวกเขาใช้มาตรการนี้เป็นดัชนีชี้วัดการเติบโตหรือการเติบโตของ GDP สิ่งสำคัญคือธนาคารกลางใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการกำหนดนโยบายการเงินไม่เพียงแต่ข้อมูล PMI ทั้งหมดเท่านั้น แต่ส่วนประกอบแต่ละตัวก็สามารถนำไปใช้ในตลาดต่างๆได้ ตัวอย่างเช่น ในตลาดตราสารหนี้เฝ้าดูการเติบโตของการส่งมอบของผู้ขายและราคาที่จ่าย เพราะตัวเลขสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อได้ดัชนีนี้มีความสำคัญไม่เพียงแต่กับภาคการผลิตเท่านั้นแต่กับเศรษฐกิจทั้งหมดด้วยเนื่องจากภาคการผลิตเป็นส่วนสำคัญของมันดังนั้นหาก PMI ลดลงในประเทศหนึ่ง นักลงทุนอาจพิจารณาลดความเสี่ยงของพวกเขาในตลาดทุนของประเทศนั้น และเพิ่มการลงทุนในตลาดหุ้นของประเทศอื่นๆที่มีค่า PMI ที่สูงขึ้น
EA ย่อมาจาก Expert Advisors ซึ่งเทรดเดอร์จำนวนมากมักเรียกติดปากกันว่า “บอท” เป็นโปรแกรมที่ถูกเขียนขึ้นมาให้เทรด forex ให้โดยอัตโนมัติ ซึ่ง EA ก็มีอยู่หลายประเภทด้วยกันแล้วแต่การใช้งาน
ประโยชน์ของการใช้ EA
จริงอยู่ที่ว่า EA นั้นไม่สามารถใช้ทดแทนการตัดสินใจของเทรดเดอร์ได้ทั้งหมด แต่โปรแกรมนี้ก็สามารถช่วยลดความเครียดในการ เทรด forexลงได้ เพราะเทรดเดอร์ไม่จำเป็นต้องมีความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับการวิเคราะห์ทางเทคนิคและพื้นฐานมากนัก เนื่องจากการคำนวณทั้งหมดจะรวมอยู่ในโปรแกรมแล้ว อีกทั้งยังช่วยให้เทรดเดอร์มีเวลามากขึ้นในการทำงานหรือทำกิจกรรมอย่างอื่น โดยไม่ต้องมานั่งเฝ้าหน้าจอเพื่อทำการ เทรด forexอยู่ตลอดเวลา แต่ถ้าเทรดเดอร์ที่รัน EA นั้น ไม่มีความรู้เกี่ยวกับเทคนิค Forex เลย ก็น่าจะเป็นการยากที่ประสบความสำเร็จได้ เพราะเทรดเดอร์รายนั้นจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาอะไรได้เลยนั่นเอง
เป็นความจริงว่า EA สามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่ต้องหยุดพัก ในขณะที่เทรดเดอร์จำเป็นต้องพักผ่อนและมีหน้าที่ความรับผิดชอบอื่น ๆ ที่ต้องทำ ซึ่งในบางครั้งก็อาจทำให้พวกเขาพลาดช่วงเวลาในการ เทรด forexที่ดีมาก ๆ ไป ดังนั้นการใช้ EA ช่วยในการเทรดทำให้เทรดเดอร์ไม่พลาดช่วงเวลาในการซื้อขายที่เหมาะสมตลอด 24 ชั่วโมง
EA จะตัดสินใจไปตามเงื่อนไขที่เทรดเดอร์กำหนดเอาไว้ โดยไม่มีการใช้อารมณ์หรือความรู้สึกเข้ามาเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจ จึงช่วยลดความผิดพลาดในการเทรดลงได้มาก ในขณะที่เทรดเดอร์ซึ่งเป็นมนุษย์นั้น เต็มไปด้วยอารมณ์และความรู้สึกที่อาจส่งผลทำให้การตัดสินใจผิดพลาดได้ง่าย
EA สามารถตรวจสอบ และ ระบุช่วงเวลาในการซื้อขายที่เหมาะสมที่สุดและมีการตอบสนองต่อโอกาสต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว ทำให้เทรดเดอร์ที่ใช้โปรแกรม EA ไม่ต้องกังวลเรื่องการเสียโอกาสในการเทรด ซึ่งหากเป็นการเทรดด้วยตนเองบางครั้งการตัดสินใจและส่งคำสั่งซื้อที่ช้าไปเพียงเสี้ยววินาที ก็สามารถส่งผลถึงการขาดทุนและสูญเสียโอกาสในการเทรดที่ดีเยี่ยมไปอย่างน่าเสียดาย
EA เหมาะสมอย่างยิ่งกับเทรดเดอร์ที่ไม่ค่อยมีเวลาเทรด หรือไม่ค่อยมีเวลาติดตามการเคลื่อนไหวของตลาด หรือแม้แต่เทรดเดอร์มือใหม่ที่มีความรู้พื้นฐานอยู่บ้างแล้ว ก็สามารถทดลองใช้ EA ได้เช่นกัน ถือเป็นการฝึกฝนทักษะการใช้งาน เพื่อการ เทรด forexที่ดีขึ้น ทำกำไรได้มากขึ้นในอนาคต
ความเสี่ยงที่น่ากลัวที่สุดไม่ได้ขึ้นอยู่กับตลาด Forex หรือสถานการณ์ทางเศรษฐกิจต่าง ๆ แต่อย่างใดความเสี่ยงที่น่ากลัวที่สุดส่วนเกิดขึ้นจากภายในจิตใจของเราซึ่ง ได้แก่ ความโลภ นั่นเอง
อย่างที่ทุกท่านทราบกันเป็นอย่างดีแล้วว่าความโลกมักนำพาให้เกิดหายนะต่าง ๆ มากมายโดยการเทรด Forex หากคุณยอมปล่อยให้ความโลกเข้ามาควบคุมการเทรดของคุณเมื่อนั้นคุณจะต้องพบกับความสูญเสียมากมายอาจจะเทรดจนล้างพอร์ตล้างกระดานหรือต้องออกจากการลงทุนไปก็มีและเพื่อไม่ให้คุณถูกความโลกครอบงำวันนี้เรามาแนะนำ 5 วิธีขจัดความโลภให้ทุกท่านได้นำไปปรับใช้กัน
บางคนเทรด Forex อยากได้กำไรเยอะ ๆ เลยเลื่อนจุด Take Profit จุดทำกำไรให้สูง ๆ เข้าไว้ก่อน การตั้ง TP ไว้สูง ถ้าหากราคาสามารถเคลื่อนที่ไปถึง เราจะได้กำไรมากก็จริง แต่ในความเป็นจริงแล้ว ความผันผวนในตลาดนั้นมีมาก การตั้ง TP สูงเกินไปเป็นความโลภที่ไม่ดี เราควรคำนึงถึงความเสี่ยงให้มาก ๆ กว่ากำไรที่เราจะได้รับ
การเคลื่อนไหวของราคาในตลาด Forex เกิดขึ้นไปตามกลไกทางเศรษฐกิจของโลก การที่เราคิดว่าเราสามารถควบคุมราคา และจะต้องได้กำไรมาก ๆ เป็นเรื่องที่ผิด หากเราเข้าใจว่าเราไม่สามารถควบคุมราคาตลาดได้ จะทำให้เราไม่โลภไม่หวังได้ผลลัพธ์มาก ๆ
การมีสติจะทำให้เรารู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ หากเรารู้ตัวว่าความโลภกำลังเข้าครอบงำ การมีสติที่ครบถ้วนจะช่วยระงับความโลภที่เกิดขึ้นให้ลดลงได้ เช่น เราเห็นว่าราคาในกำไรมีแนวโน้มจะพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนใกล้จะถึงเส้น TP ของเราแล้ว หากเราขยับเพิ่มขึ้น การเทรดครั้งนี้จะทำให้เราได้กำไรมากอย่างแน่นอน แต่หากเรามีสติรู้ตัว และไม่โลภทำกำไรให้มากขึ้นทันที เราเลือกที่จะได้กำไรเท่านี้ก่อน แล้วค่อยหาโอกาสเทรดให้ได้กำไรในรอบต่อไป
ถ้าเรามีแผนการเทรดที่แน่นอน มีการกำหนด TP และ SL อย่างชัดเจน ขอให้คุณมั่นคงกับแผนการเทรดของคุณให้ได้เป็นอย่างดี เมื่อคุณทำตามแผนของคุณได้ ความโลภไม่มีทางเกิดขึ้นในใจของคุณอีกเลย
หากคุณพยายามควบคุมไม่ให้เกิดความโลภจนถึงขีดจำกัดแล้ว ทางเลือกที่ดีที่สุดคือการปิดหน้าจอไปเลย คุณจะได้ไม่ต้องมาพะวงกับกราฟราคาตลาดที่มันกำลังเติบโต แล้วปล่อยให้การเทรด Forex ของคุณเป็นไปตามแผนที่คุณวางไว้ ให้ระบบจัดการเทรดให้คุณด้วยตัวมันเองไปเลย
ทั้งนี้ก็เป็นเพียงตัวช่วยระงับความเสี่ยงและความโลภในตัวคุณเท่านั้น แต่ใจหลักสำคัญที่จะควบคุมให้ทุกอย่างเป็นไปตามเป้าหมายก็คือ ‘ตัวคุณเอง’ เมื่อตัวคุณควบคุมมันได้ อดทนและเอาชนะตัวเองให้มากที่สุด แล้วชัยชนะจะไปไหนเสีย!!!!
รีวิว! ผลงานระบเทรดอัตโนมัติ
MT4 คือ โปรแกรม หรือ แพลตฟอร์ม สำหรับเทรด Forex ที่เทรดเดอร์นิยมใช้ สามารถใช้สำหรับการเทรดปกติ หรือการเทรดโดยการใช้ EA (Expert Advisor) หรือ โปรแกรมเทรดอัตโนมัติ
MetaTrader 4 หรือ MT4 คือโปรแกรมใช้สำหรับการส่งคำสั่งซื้อขายค่าเงิน หรือผลิตภัณฑ์ CFD ของหลักทรัพย์ทางการเงินหลาย ๆ ตลาด โปรแกรม MT4 นั้นเป็นผลิตภัฑณ์ของบริษัท Metaquote Software ในปัจจุบัน MT4 ถูกพัฒนาให้สามารถใช้งานได้บน Mac, Window, รวมถึงแอปพลิเคชั่นบนมือถือ และกลายมาเป็นแพลตฟอร์มการเทรดที่รู้จักกันดีในหมู่นักเทรดค่าเงิน แต่แม้ว่าจะมีภาพลักษณ์แบบนั้นเทรดเดอร์ก็ยังใช้ MT4 เป็นแพลตฟอร์มการเทรดสินค้าอีกหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น ค่าเงิน ดัชนี สกุลเงินดิจิตอล และสินค้าโภคภัณฑ์ที่อยู่ในรูปของสัญญาซื้อขายส่วนต่างราคา หรือ CFDs
เหตุผลที่ MT4 ได้รับความนิยมจากเทรดเดอร์ทั่วโลกก็คงหนีไม่พ้นฟังก์ชั่นการใช้งานที่สามารถปรับแต่งให้เข้ากับรสนิยมและความถนัดของเทรดเดอร์แต่ละคนได้ และยังสามารถประยุกต์ใช้เข้ากับ automate trading ซึ่งเป็นการใช้อัลกอริทึมมาส่งคำสั่งเปิดปิดสถานะด้วยการเซ็ตคาพารามิเตอร์แทนที่การเทรดของบุคคลได้
นอกจากนี้ ในการฝึกเทรด เพื่อให้ได้เรียนรู้เกี่ยวกับสภาพแวดล้อมของการเทรดจริง เพื่อให้คุณเคยกับเงื่อนขไขของโบรคเกอร์เช่น ขนาดของ Spread หรือ ขนาดของ Swap สิ่งที่เราควรกำหนดคือ ถ้าหากเราต้องการเทรดกับ Forex Broker ไหนก็ควรจะไป Download โปรแกรม MT4 จากโบรคเกอร์นั้น เพราะโบรกเกอร์แต่ละตัวโบรกก็ใช้ MT4 ที่มีเงื่อนไขแตกต่างกันไป แต่ว่าลักษณะโดยรวมจะเหมือนกันครับ
จากที่ผ่านมาเราคงเห็นกันคร่าว ๆ ไปบ้างแล้วว่าโปรแกรม MT4 คืออะไร ใช้ยังไง และหน้าตาเป็นอย่างไรบ้าง แต่ถึงโปรแกรมนี้จะเป็นที่นิยมของเทรดเดอร์ ก็ใช่ว่าจะมีข้อดีที่เพียบพร้อมไปเสียหมด และแน่นอนว่าก็ไม่ได้มีแต่จุดอ่อน ดังนั้นเรามาดูกันต่อเลยว่า MT4 นั้นมีข้อได้เปรียบจากแพลตฟอร์มการเทรดอื่น ๆ อย่างไร หรือมีจุดอ่อนอย่างไร เพื่อให้ได้นำไปใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาเลือกใช้กัน
1. ข้อได้เปรียบของ MT4
● เป็นเครื่องมือที่ปรับแต่งและประยุกต์ได้หลากหลาย จากฟังก์ชันมากมายให้เทรดเดอร์ได้ทำให้สามารถปรับแต่งเครื่องมือให้มีความเฉพาะตัวกับเทรดเดอร์แต่ละคนได้อย่างเฉพาะตัวที่สุดแพลตฟอร์มหนึ่งเลย
● ใช้ทรัพยากรในการประมวลผลไม่มาก สำหรับ Window MT4 เรียกร้องสเป็กเครื่องที่ Windows 2000 หรือใหม่กว่า ด้วยความเร็ว CPU 2.0 ขึ้นไป, แรมอย่างน้อย 512 MB หรือหากให้ดีควรเป็น 1 GB, หน้าจอควรมี screen resolution ที่ 1024 x 768 หรือมากกว่าและเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตความเร็ว 56 kbps ขึ้นไป
● มีฟังก์ชั่นการใช้งานไม่ด้อยไปกว่าแพลตฟอร์มการเทรดอื่น ๆ สามาถใช้ได้ทั้งบน Mac, Window, iOs และ Android
2. จุดอ่อนของ MT4
● ข้อมูลที่นำมาใช้ทำ Backtest มีคุณภาพไม่สูงนัก การใช้ MT4 ทดสอบประสิทธิภาพของ EA ก่อนนำมาใช้งานจึงอาจมีความคลาดเคลื่อนได้ โดยข้อมูลในอดีตที่นำมาทำ Backtest ใน MT4 นั้นเชื่อถือได้เพียง 90% เท่านั้น
● ความเร็วในการส่งออเดอร์ยังไม่ถือว่าเร็วมาก ทำให้ MT4 ไม่เหมาะกับการใช้สำหรับระบบเทรดที่ใช้ความเร็วในการซื้อขายสูง (high-frequency trading)
● กราฟราคาไม่เปิดให้เทรดเดอร์ปรับแต่งช่วง Time Frame เอง จึงมีเลือกเพียงแค่ 1 นาที, 5 นาที, 15 นาที, 30 นาที, 1 ชั่วโมง, 4 ชั่วโมง, 1 วัน, 1 สัปดาห์ และ 1 เดือน เท่านั้น
เนื่องจากในปัจจุบันมี Metaquote ได้ทำการพัฒนาโปรแกรม Metatrader ออกมา 2 Version ได้แก่ Metatrader 4 (MT4) และ Metatrader 5 (MT5) ดังนั้นเรามาดูกันครับว่ามันมีความแตกต่างกันอย่างไร
ลักษณะ | MT4 | MT5 |
การติดตั้ง | – มีระบบติดต่อกับโบรกเกอร์โดยตรงและใช้งานได้ง่าย– ต้องการ รหัสที่อยู่ของ Server ในการเปิดบัญชี ระหว่างการติดตั้ง | – เซิร์ฟเวอร์ Metaquotes trading ในปัจจุบัน มีการบรรจุเซิร์ฟเวอร์ในการเปิดบัญชีในระหว่างการติดตั้งไว้ให้แล้ว แต่การส่ง ping ไปยังเซิร์ฟเวอร์ยังคงมีปัญหาเป็นบางครั้ง– สามารถเพิ่มเซิร์ฟเวอร์โดยเฉพาะสำหรับบัญชี Demoได้โดยไม่มีปัญหา |
จำนวนหน้าจอ/Time frame | – 9 Timeframe | – 21 Timeframe ตั้งแต่เวลา 1 นาที จนถึง 1 เดือน พร้อมไม่จำกัดจำนวนหน้าจอที่ใช้ได้– สามารถสั่งงานได้ถึง 100 หน้าจอพร้อมกัน |
การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน(การเทรดตามข่าว) | – ไม่มีตารางข่าว | – มีการแบ่งหมวดหมู่ตารางข่าวออกเป็นแท็บต่างๆ พร้อม รายละเอียดข่าว, เวลา, ความรุนแรงของผลกระทบ, Forecast, เปรียบเทียบข้อมูลเก่า และอื่นๆอีกมากมาย |
การตลาด | – ไม่มีการเชื่อมโยงการซื้อขายเพิ่มเติมเข้าไปในโปรแกรม คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ เว็บ MQL4.com ในการซื้อขาย ต่างๆ | – คุณสามารถทำการซื้อขาย ผลิตภัณฑ์ทาง Forex ต่างๆ ภายในโปรแกรมได้ทันที ผ่าน แท็บ Market |
Indicator และการวิเคราะห์รูปแบบอื่น ๆ | – มีอินดิเคเตอร์ ติดมากับโปรแกรม 30 ตัว | มีอินดิเคเตอร์ ติดมากับโปรแกรม 38 ตัว, มีอินดิเคเตอร์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอีก,มีอินดิเคเตอร์ที่เป็นวัตถุแสดงผลเพิ่มขึ้น 22 ตัว และอินดิเคเตอร์แสดงผลเป็นกราฟฟิก เพิ่มขึ้น 46 ตัว |
การส่งคำสั่ง ซื้อขาย | – วางได้ทีละ 2 ออเดอร์ และอีก 4 Pending Order | – วางได้ทีละ 2 ออเดอร์ ,4 Pending Order และ 2 Stop Order |
Expert Advisor | – มีโปรแกรม MT4 Editor & Strategy Tester มาพร้อมกับโปรแกรม EA ซึ่งถูกออกแบบด้วย ภาษา MQL และสามารถทำการคอมไพล์ได้รวดเร็ว– ไม่สามารถนำโค้ดของ EA MT4 ไปแปลงเป็น MT5 ได้ ดังนั้น EA ของMT4 จึงไม่สามารถนำไปใช้งานกับ MT5 ได้ | – มีโปรแกรม MT5 Editor ซึ่งมีการพัฒนา Strategy Tester– มีระบบ Strategy Tester Agent Managerสำหรับการปรับแต่ง EA จากภายนอกได้ และคุณสมบัติอื่นๆอีกมากมาย
– EA ถูกออกแบบด้วยภาษา C++ ทำให้มันทำการคอมไพล์ได้ช้าลง |
รูปร่างหน้าตา | – ง่ายต่อการแก้ไขให้เหมาะต่อการใช้งาน , ระบบ One Click Trading และ Drag & Drop มีให้ใช้งานเฉาพะMT4 Build 500 เท่านั้น | – มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในการออกแบบอินเตอร์เฟซ , มีการเพิ่มกล่องค้นหา, แท็บข้อมูลเพิ่มเติมบนหน้าต่าง Market Watch , มีระบบ One Click Trading และ Drag & Drop และอื่นๆ อีกมากมาย |
การรองรับเทคนิคการเทรด | – รองรับเทคนิคการเทรดทุกรูปแบบ แต่อย่างไรก็ตาม โบรกเกอร์ก็ยังมีกฎข้อบังคับ ไม่ให้มีการใช้งานเทคนิคบางอย่างได้ | – ไม่รองรับการ Hedging และ ทำตามข้อกำหนด FIFO ตามการตั้งค่าปกติ |
โบรคเกอร์ | – โบรกเกอร์ส่วนใหญ่ยังคงรองรับ MT4 มากกว่า MT5 | – ถ้าเทียบกับ MT4 แล้ว ยังมีโบรกเกอร์ที่รองรับจำนวนน้อยกว่ามาก |
คราวนี้เราก็ได้มาทำความรู้จักกับ MT4 ได้รู้ว่า MT4 คืออะไร เป็นยังไง และสำหรับผู้ที่กำลังคิดตัดสินใจเริ่มใช้ MT4 หรือเลือกแพลตฟอร์มการเทรดอยู่ก็น่าจะได้ไอเดียสำหรับเลือกแพลตฟอร์มในการเทรดของตัวเองบ้างแล้ว แต่การเลือกใช้แพลตฟอร์มนั้นก็เป็นเพียงจุดเริ่มต้นและส่วนเล็ก ๆ ของการเทรดเท่านั้น สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยก็คือการคิดวางแผน กำหนดกลยุทธ์ และเริ่มทดลองเทรดจริง ๆ
ถ้าหากคุณต้องการเทรด forex คุณต้องติดตั้งโปรแกรม MT4 ลงไปที่คอมพิวเตอร์หรือมือถือของคุณ และเรียนรู้ที่จะใช้มัน ในตอนแรกที่คุณใช้อาจจะงงๆเล็กน้อย แต่พอใช้เป็นแล้ว และศึกษาอย่างลึกซึ้งอย่างต่อเนื่องแล้ว คุณจะพบว่าการเทรดนั้นไม่ใช่เรื่องยากครับ
พูดง่ายๆ บัญชีทดลอง คือ บัญชีที่มีไว้เพื่อให้เทรดเดอร์ใช้เทรดกัน โดยที่มีเงินเสมือนจริงไว้เพื่อซื้อขายสินทรัพย์ต่างๆ โดยข้อมูลบนบัญชีนี้จะเหมือนของตลาดแบบเรียลไทม์
บัญชีทดลอง คือ บัญชีเทรดแบบเสมือนที่มีไว้เพื่อสร้างมิติการเทรดที่จำลองมาจากการซื้อขายจริงในตลาดการเงิน นี้ถือเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มากสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ พวกเขาสามารถลองใช้บัญชีนี้เพื่อทดสอบว่าเทรดดิ้งแพลตฟอร์มนั้นมีการทำงานอย่างไร บัญชีนี้ยังช่วยให้มืออาชีพและมือใหม่ลองทดสอบกลยุทธ์ในการเทรดใหม่ๆ ได้โดยที่ไม่ต้องเสี่ยงเลย
การเริ่มต้นเทรด Forex ด้วยบัญชีทดลอง เป็นวิธีที่เหมาะสำหรับฝึกหัดเทรดเพื่อทำความคุ้นเคยให้เข้าใจเกี่ยวกับธรรมชาติของการซื้อขายเงินตราในตลาด Forex โดยไม่ต้องฝากเงินเข้าบัญชี (ไม่ต้องใช้เงินจริง) การฝึกเทรดด้วยบัญชีทดลองจึงไม่มีความเสี่ยงเพราะเป็นเงินที่ทางโบรกเกอร์ให้เพื่อทำการฝึกเทรดไม่ใช่เงินที่เราฝากเข้าเทรดจริง(เป็นเงินปลอม ที่มีแต่ตัวเลข) ทั้งนี้การฝึกเทรดด้วยบัญชีทดลองยังเหมาะทั้งผู้เริ่มต้นเทรด
บัญชี Demo เป็นการเทรดบนสภาวะแวดล้อมของตลาดจริง ๆ เหมือนๆกับบัญชีที่เทรดด้วยเงินจริงทุกประการ การเทรดด้วยบัญชีทดลองไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย แม้ว่ามีบางโบรกเกอร์จะจำกัดการเทรดด้วยบัญชีทดลองไว้เพียง 30 วัน แต่ก็ยังมีอีกหลายโบรกเกอร์ที่ไม่ได้จำกัดจำนวนวันในการใช้งานบัญชีทดลองเพื่อการฝึกเทรด ผมจึงค่อนข้างแนะนำให้คุณฝึกการซื้อขาย โดยใช้บัญชีทดลองก่อนที่จะทำการซื้อขายด้วยบัญชีที่ใช้เงินจริง ๆ ส่วนการเปิดบัญชีก็เป็นเรื่องง่าย ๆ เราสามารถสมัครเข้าใช้บริการบัญชี Demo ได้ที่โบรกเกอร์ที่เราสนใจได้เลย
บุคคลที่จะประสบความสำเร็จในธุรกิจใดๆนั้น จำเป็นต้องมีความรู้และประสบการณ์ เป็นอย่างสูง ในตลาด Forex ก็เช่นเดียวกัน การที่เทรดเดอร์จะประสบความสำเร็จกับการลงทุนในตลาดขนาดใหญ่เเละมีสภาพผันผวนมากที่สุดเเห่งนี้ได้นั้น นอกเหนือจากความแม่นยำในทฤษฎีและความรู้เเล้ว ยังต้องมีประสบการณ์เป็นอย่างมากในการวิเคราะห์ปัจจัยต่างๆที่มีผลต่อการทำกำไรในตลาด Forex เช่น การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน การวิเคราะห์เชิงเทคนิค การบริหารจัดการเงินทุน(Money Management) รวมถึงจิตวิทยาในการลงทุน….
การใช้บัญชีทดลองถือเป็นโอกาสที่ดีมากสำหรับเทรดเดอร์ และมีอุตสาหกรรมเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้นที่จะสามารถสร้างสถานการณ์จำลองที่เหมือนจริงให้ผู้ใช้งานได้ลองใช้กัน
บัญชีทดลองช่วยให้เทรดเดอร์สามารถพัฒนาทักษะในการเทรดในตลาด คุณสามารถลองใช้เทคนิคการเทรดที่คุณมีและจะลองฝึกกี่ครั้งก็ได้ตามที่คุณต้องการ คุณสามารถลองฝึกกลยุทธ์การเทรดในรูปแบบต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น Scalping, Day trade, Swing trade หรือ Algorithmic trade
จากนั้นคุณก็ตัดสินใจว่าสไตล์การเทรดแบบไหนที่เหมาะกับคุณมากที่สุด หลังจากที่เลือกสไตล์ในการเทรดได้แล้ว คุณก็สามารถลองเทรดในบัญชีทดลองได้แบบไม่ต้องเสี่ยงเลย
การเทรดนั้นไม่ใช่เกม ในตลาดนี้อาจจะทำให้เงินออมทั้งหมดของคุณหายไปได้! ดังนั้นการเรียนรู้เรื่องการจัดการความเสี่ยงจึงเป็นเรื่องสำคัญ โชคดีที่คุณสามารถศึกษาเรื่องนี้ได้ใน demo account เทรดเดอร์มือใหม่จะได้เรียนรู้แนวคิดว่าขนาดในการลงทุนควรจะเป็นเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสม รวมทั้งการใช้มาร์จินและเลเวอเรจด้วย การฝึกฝนตรงนี้จะช่วยให้คุณไม่ต้องไปตื่นตกใจเมื่อลงไปเทรดในสนามเทรดจริง
บัญชีทดลองยังช่วยให้คุณเห็นและเข้าใจในความผันผวนของตราสารต่างๆ บางตราสารก็อาจจะมีความเสี่ยงมากกว่าตราสารอื่นๆ ดังนั้นในทุกครั้งๆ ที่เทรด คุณก็ควรจะต้องปรับขนาดการลงทุนให้เข้ากับความผันผวนของตราสารที่คุณกำลังซื้อขายด้วย
คุณสามารถเปิดใช้งานบัญชีทดลองได้แบบฟรีๆ และจะยิ่งดีขึ้นไปอีกถ้าหากคุณสามารถใช้บัญชีทดลองได้แบบไม่จำกัด เพราะมันจะทำให้คุณสามารถพัฒนาเทคนิคการเทรดจนกว่าคุณจะสามารถทำกำไรได้ นอกจากนี้โบรกเกอร์ออนไลน์ส่วนใหญ่ยังให้ลูกค้าสามารถเทรดตราสารได้นับพันรายการ รวมทั้งมีข้อมูลทางการเงินมากมายให้คุณได้เรียนผ่านบัญชีทดลองนี้ด้วย
บัญชีทดลองช่วยให้คุณทดสอบแพลตฟอร์มและฟังก์ชันการทำงานของโบรกเกอร์ต่างๆ และก่อนที่คุณจะทำการฝากเงินกับโบรกเกอร์ใดๆ ก็ตาม คุณจะต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ค่าสเปรด, ประเภทคำสั่ง, เงื่อนไขการเทรด, เครื่องมือวิเคราะห์ ฯลฯ การใช้บัญชีทดลองจะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกโบรกเกอร์ได้ดียิ่งขึ้น
คุณไม่สามารถเปรียบเทียบอารมณ์ตอนเทรดบัญชี Demo กับบัญชีเงินจริงได้เลย ทำไมเหรอครับ? เพราะมันไม่มีเงินจริง ๆ ของคุณอยู่บนกราฟ ซึ่งคุณก็รู้อยู่เต็มอก การเทรดบัญชี Demo ราวกับว่ามันคือบัญชีเงินจริง ก็ไม่ต่างอะไรกับนักมวยที่เคยซ้อมแต่คู่ซ้อมแต่ไม่เคยขึ้นสังเวียนจริง โลกแห่งความเป็นจริงกับสนามซ้อมมันต่างกันมากครับ…
การเทรดบัญชี Demo นั้นดูเหมือนจะเป็นวิธีการที่ดีเยี่ยมเพี่อช่วยพิสูจน์ให้คุณมั่นใจได้ว่ากลยุทธ์การเทรดของคุณสามารถทำเงินได้ก่อนที่คุณจะเริ่มเทรดในบัญชีจริง อย่างไรก็ตามคุณไม่มีทางถ่ายทอดความสำเร็จจากบัญชี Demo สู่การเทรดบนบัญชีจริงได้ครบ 100 % เหตุผลง่าย ๆ ก็คือ เมื่อไม่มีเงินจริงอยู่บนกราฟแล้ว คุณได้กำจัดตัวแปรสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจในการเทรด นั้นก็คือ แรงกดดันทางจิตวิทยาต่อการสูญเสียเงินจริงนั้นเอง
การเทรดบัญชี Demo นานเกินไปจนชินนั้น อันตรายถึงขนาดทำลายพัฒนาการของการเทรดของคุณลงได้เลย เพราะเมื่อเทรดเสียคุณก็แค่เล่นใหม่ โดยไม่คิดแก้ไขว่าเทรดเสียเพราะอะไร ต้องอุดรอยรั่วตรงไหน อย่างแย่ที่สุด คุณอาจจะพูดแค่ว่า “หุหุ… มันก็แค่บัญชี Demo ฉันไม่มีทางทำเรื่องโง่ๆแบบนี้บนบัญชีจริงแน่นอน” สุดท้ายคุณอาจขาดแรงจูงใจที่จะพัฒนาระบบให้ดีขึ้น เพื่อปิดรอยโหว่ของระบบที่ผิดพลาดนั้นของคุณ
เมื่อคุณเทรดบัญชี Demo นานเกินไป คุณจะรู้สึกว่าการเลื่อน Stop Loss ให้กว้างขึ้นเป็นเรื่องปกติ และสุดท้ายพฤติกรรมเหล่านี้จะติดตัวคุณไป แม้คุณจะเทรดในบัญชีเงินจริงแล้วก็ตาม มันยากมากที่จะเปลี่ยนนิสัยแย่ๆ เมื่อคุณเคยชินกับมันมาเป็นเวลานาน และยิ่งยากขึ้นไปอีก เมื่อคุณเพิ่มแรงกดดันในการเทรดบัญชีเงินจริงเข้าไปด้วย
บัญชีทดลอง (demo account) ช่วยให้คุณสามารถเตรียมพร้อมสำหรับการซื้อขายในบัญชีจริงได้ เมื่อคุณมีประสบการณ์ที่มากพอ คุณก็สามารถเปลี่ยนไปใช้บัญชีเทรดจริงได้ และคุณจะได้เข้าใจฟังก์ชันการทำงานทั้งหมดของแพลตฟอร์ม อย่างไรก็ตามการใช้งานบัญชีทดลองนี้ก็มีข้อจำกัด เนื่องจากมันไม่สามารถช่วยคุณในแง่ของจิตวิทยาและอารมณ์จากการแพ้หรือชนะได้ สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยที่คุณจะเข้าใจเมื่อคุณเทรดในตลาดจริงเท่านั้น
ฟรี!ระบบเทรด
สองคำนี้ หมายถึง การที่เทรดเดอร์เปิดสัญญาซื้อหรือสัญญาขาย โดยเมื่อเปิดสัญญาแล้ว กราฟมีการเคลื่อนที่สวนทางกับสัญญาของเทรดเดอร์ แต่ Margin ดันยังไม่หมด จึงทำให้เทรดเดอร์ติดอยู่บนยอดของหุบเขาหรือลึกสุดของก้นเหว (สำหรับการ เทรด forexที่ติดดอยได้และหล่นค้างอยู่ที่ก้นเหวได้ เพราะการ เทรด forexนั้น สามารถทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลงนั่นเอง) นักลงทุนทั่วไปมักเรียกอาการแบบนี้ว่า ติดดอย หรือ ยอดดอย
คำว่า ติดดอย,ยอดดอย นั้นหมายถึงการที่คุณเปิดสัญญาซื้อ (Buy) หรือสัญญาขาย (Sell) โดยที่เมื่อเปิดสัญญาแล้ว กราฟมีการเคลื่อนที่สวนทางกับสัญญาของคุณ แต่ Margin ของคุณนั้นยังไม่หมด จึงทำให้คุณอยู่บนยอดของหุบเขา หรือก้นเหว เรามักเรียกอาการแบบนี้ว่า ติดดอย,ยอดดอย แต่สำหรับคนเล่นหุ้น จะไม่มีการลงเหว มีแต่ติดดอย,ยอดดอย อย่างเดียว เนื่องจากการเทรดหุ้นมีการเทรดแต่ขาขึ้น ในขณะที่ Forex มีการเทรดได้ทั้งขาขึ้นและขาลง
คำว่าบีบคั้นหัวใจหมายความว่า ยิ่งกราฟเดินสวนทางกับจุดที่คุณเปิดสัญญามากเท่าใด ดอยของคุณก็จะสูงขึ้นมากเท่านั้น และจะสูงขึ้นไปเรื่อยๆ จนคุณไม่อาจควบคุมสติและจิตใจได้ ดังนั้นมันจึงบีบคั้นหัวใจของคนที่ติดดอยอย่างมาก
ยิ่งดอยสูง โอกาสในการออกจากติดดอย,ยอดดอย จะยากขึ้นไปเรื่อยๆ เหตุผลเพราะว่า ถ้าเรา cut loss เมื่อไหร่ นั่นหมายความว่าทุนรอนที่เราสะสมมาก็จะหมดไป และบางรายอาจร้ายแรงถึงขั้นล้างพอร์ตเลยทีเดียว
ถ้าคุณเปิดสัญญาในหลายๆคู่เงิน และทุกคู่เงินนั้นต่างติดดอย,ยอดดอย อย่างนี้ผมกล้าการันตีเลยว่า คุณแทบไม่มีแรงใจในการเทรดต่อไปอย่างแน่นอน เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นมันหนักเสียจน คุณอาจต้องพักการเทรดไปสักพัก
1.เจ็บแต่จบ
หมายถึง เทรดเดอร์ควรเลิกคิดเลิกหวัง ว่ากราฟมันจะกลับมาตำแหน่งเดิม เนื่องจากโดยปกติแล้วมันจะยังไม่กลับมา จนกว่าเทรดเดอร์จะขายมันออกไป ดังนั้นถ้าไม่ต้องการให้เงินทุนหมด เทรดเดอร์จำเป็นต้อง Cut loss ก่อนที่อะไร ๆ จะสายมากเกินไปกว่านี้
2.ซื้อถัว
ก่อนที่จะใช้กลยุทธ์นี้ เทรดเดอร์ต้องแน่ใจก่อนว่าในบัญชีมีเงินสำรองเพียงพอต่อการซื้อถัว เพราะถ้าซื้อถัวผิดทางก็จะยิ่งทำให้ทุกอย่างพังเร็วขึ้นได้เช่นกัน
3.ออกห่างจากตลาดมากขึ้น
การนั่งเฝ้าตลาด หรืออยู่กับตลาดมากเกินไป มีส่วนทำให้เทรดเดอร์เกิดอารมณ์โกรธ อารมณ์กลัว และอารมณ์โลภได้ง่าย จากนั้นก็จะเกิดอาการขาดสติตามมา เพื่อป้องกันไม่ให้อารมณ์ดังกล่าวและอาการขาดสติเกิดขึ้นกับเทรดเดอร์ ทางที่ดีจึงควรออกห่างจากตลาดก่อนสักระยะหนึ่งจะดีกว่า
แม้ว่าอาการติดดอยจะเป็นอาการที่หลีกเลี่ยงได้ยาก แต่เทรดเดอร์ที่ฝึกฝนมานาน มีทักษะ วางกลยุทธ์ได้ดี และมีจิตวิทยาในการลงทุน ก็มีแนวโน้มที่จะหลีกเลี่ยงได้มากกว่า ดังนั้นเทรดเดอร์จึงควรฝึกฝนและเพิ่มทักษะของตนเองอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของวิธี การ เล่น forex หรือเทคนิค การ เทรด forex ก็ตาม
สรุปแล้วหากคุณเทรด forex อาการ ติดดอย,ยอดดอย คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ผมว่าการจัดการกับมันให้เร็วที่สุดคือสิ่งที่มีความจำเป็นสูงสุดต่างหาก
สำหรับนักลงทุน Forex ทั้งมือใหม่และมือเก่า อาจจะเคยได้ยินคำว่า “ขายหมู” มาก่อนเป็นแน่ เพราะเป็นศัพท์ที่นักลงทุนจะใช้กันเป็นประจำอยู่แล้ว เราลองมาดูกันดีกว่าครับ ว่าการขายหมู มันคืออะไรกันแน่
” ขายหมู “ เป็นคำยอดฮิตแต่ไม่ใช่แค่คำศัพท์ในทางการเงิน แต่อาจจะไม่ฮิตติดหูเหมือนคำว่าติดดอย แต่ก็มีใช้กันเยอะพอสมควร ทำให้เทรดเดอร์หลายท่านอาจจะเกิดความสงสัยว่าความเป็นจริงแล้ว ขายหมูคืออะไร? ทำไมต้องมีชื่อว่าขายหมู?
คำว่า ” ขายหมู “ คือการที่ได้กำไรน้อยกว่าที่ควรจะได้รับ เช่น คุณซื้อหุ้นมาในราคา 200 บาท หลังจากนั้นไม่นานหุ้นก็ปรับตัวขึ้นไปที่ 250 บาท ทำให้คุณรีบขายเพื่อทำกำไรในตอนนั้น และในขณะนั้นเอง ราคาหุ้นได้พุ่งไปที่ 300 บาท นี่จึงเป็นที่มาของคำว่าขายหมู คือ “ การขายไปในราคาที่ถูกแต่ก็ยังดีที่ได้กำไร “ แต่จะเกิดความเสียดายที่ไม่ได้กำไรก้อนโตหากอดทนถือออร์เดอร์ไว้
คำว่า ขายหมู หมายถึงการที่คุณปิดสัญญา Buy หรือสัญญา Sell เร็วกว่าที่ควรจะเป็น ส่งผลให้คุณนั้นได้กำไรน้อยกว่าที่คุณจะได้เพราะเมื่อคุณปิดสัญญาไปแล้ว กราฟก็มีการวิ่งไปตามทิศทางที่คุณเปิดสัญญาในตอนแรกอย่างรวดเร็ว ถ้าคุณเจอลักษณะการเทรดของคุณเป็นแบบนี้ เราเรียกการปิดสัญญาแบบนี้ว่า “ขายหมู”
การ “ขายหมู” แสดงถึงการขายหุ้นซึ่งปรากฏว่าเมื่อขายไปแล้วราคาหุ้นยังคงวิ่งขึ้นจากระดับที่ขายไปอีกมาก เหมือนกับการขายหมูตัวเล็ก ๆ แต่หลังจากนั้นหมูก็อวบอ้วน โตเต็มวัยอย่างรวดเร็ว คือแทนที่จะได้กำไรมากๆกลายเป็นได้กำไรน้อยๆไป
สาเหตุหลักๆที่ทำให้คุณนั้นขายหมู ประกอบไปด้วยเรื่องดังต่อไปนี้
หลายๆคนที่ระบบเทรดของตนเองไม่ชัดเจน หรือยังอ่านกราฟไม่ทะลุ ทำให้ไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่ากราฟนั้นจะมีการเคลื่อนตัวไปในทิศทางใด แบบนี้ถือว่า มีโอกาสที่เมื่อคุณเริ่มต้นทำกำไรแล้ว คุณอาจขายหมูได้
คำว่ากลัวเกินไปมักตามมาจากเหตุผลข้อแรกคือ ไม่มั่นใจในรูปแบบของกราฟที่ตนเองเทรด สุดท้ายเลยคือไม่กล้าที่จะเทรด ทำให้ตนเองนั้นปิดสัญญาออกไปก่อน การทำแบบนี้ก็มีความเสี่ยงที่แทนที่เราจะสามารถทำกำไรได้มากๆ ก็กลายเป็นว่าทำกำไรได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ผลจากการที่คุณนั้นขายหมูคือ จะส่งผลให้คุณนั้นไม่สามารถทำเงินได้มากกว่าที่ควรจะเป็น และบางทีอาการเสียดาย อาจทำให้แผนของการเทรด forex ของคุณในตาต่อไปนั้นมีปัญหาได้ด้วยเช่นเดียวกันครับ
วิธีการแก้อาการขายหมูที่ดีที่สุดในความคิดของผมนะครับ มีดังต่อไปนี้คือ
กำหนดมาให้ชัดเจนด้วยรูปแบบการเทรดที่เป็นตัวของตัวเอง ว่าจะเทรดอย่างไร เพื่อให้ตนเองนั้นสามารถทำเงินได้
การกำหนด % การเทรดก็สามารถช่วยให้เรานั้นประสบความสำเร็จในการเทรดและไม่เกิดการขายหมูขึ้นมาได้เช่นเดียวกันครับ ดังนั้นจึงอยู่ที่เราจะเลือกว่าต้องการแบบใด
เรื่องของการขายหมูนี่ ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือชั้นเซียนก็สามารถขายหมูได้ วิธีแก้โรคนี้ก็ไม่มีวิธีแก้ไขที่แน่นอนเพราะความรุนแรงของอาการขายหมู แปรผันไปตามอุปนิสัยความกลัวของแต่ละคน วิธีเบื้องต้นที่นิยมใช้กันก็คือการตั้ง Trailing Stop หรือไม่ก็เลื่อน Stop Loss ตามสวิงหรือตามแท่งเทียนเลยก็ได้ หรือตั้ง Taking Profit (TP) ไว้ที่ 161.8 ของฟิโบไปเลยก็ได้ อาจใช้วิธีดูลักษณะแท่งเทียน ถ้าเห็นมีแท่งเทียนกลับตัวแท่งแรกอาจจะยังไม่ออกออเดอร์จนกว่าจะเห็นแท่งเทียนกลับตัวอีกแท่งหนึ่งก่อนค่อยตัดสินใจออกออเดอร์
บางทีก็รอดูลักษณะของแรงที่เป็นฝั่งตรงกันข้ามกับออเดอร์ของเราว่าดีดกลับมาแรงไหม แล้วค่อยหาจังหวะออกตอนที่มันกำลังย่อกลับไปทิศทางเดิมของเรา ถ้าดูแล้วไปต่อไม่ได้แน่ก็ออกเลย แต่บางทีก็ยังขายหมูอยู่ดี ตลาดมันก็เป็นแบบนี้แหละครับ
การขายหมูคือ การปิดในแดนบวก ซึ่งต่อให้เป็นการบวกแค่จุดเดียว ก็ถือว่าเป็นบวกอยู่ดี สะสมไปเรื่อยๆก็ดีกว่าขาดทุน การขายหมูคือการเสียกำไรที่ได้ไป ทั้ง ๆ ที่เราลืมไปว่าการขายหมู บางทีก็เป็นการช่วยรักษาพอร์ตของเราให้มีชีวิตรอดเพื่อการเทรดในวันพรุ่งนี้(หลักการควบคุมความโลภ) ระหว่างทุกข์ใจเพราะขายหมู กับทุกข์ใจเพราะออเดอร์ติดลบ(ติดดอย) คุณคิดว่าอันไหนน่าจะดีกว่ากัน…
เป็นอย่างไรครับกับคำว่า “ขายหมู” คำง่ายๆ แต่กินใจมากสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มเทรด forex หรือแม้แต่คนที่มีการเทรดกันอย่างเป็นประจำอยู่แล้ว ก็เกิดอาการขายหมูได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นอย่าขายหมูบ่อยๆนะครับ เดี๋ยวกำไรที่ควรได้จะไม่ได้กันเสียเปล่าๆ
ข่าว นอนฟาร์ม (Non Farm) คือ ข่าาวที่มีกระทบต่อสกุลเงินอย่างรุนแรง ทุกครั้งที่มีข่าว อนฟาร์ม (Non Farm) ราคาจะแกว่งตัวอย่างรุนแรง
ข่าว นอนฟาร์ม (Non Farm) คือ รายงานของการจ้างงานของคนในธุรกิจต่างๆ ยกเว้นอุตสาหกรรมภาคเกษตรกรรม ถูกประกาศในสัปดาห์แรกของเดือน
คำว่า ข่าว non farm นั้นมาจากคำเต็มคือคำว่า Non-farm Employment Change ซึ่งเป็นข่าวที่ออกโดยกรมสถิติแรงงาน ของประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเกี่ยวข้องกับเรื่องของจำนวนลูกจ้างในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ว่ามีจำนวนเพิ่มขึ้น หรือว่ามีจำนวนที่ลดลงอย่างไร ซึ่งตัวเลขเหล่านี้นั้นจะไม่ผนวกเข้ากับตัวเลขที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรนะครับ
คำว่า Non-Farm หมายความว่า กลุ่มอุตสาหกรรมที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเกษตร จึงเป็นการจ้างงานอุตสาหกรรมเพียงอย่างเดียว ผลิตภัณฑ์อุตสาหรรมของสหรัฐฯ นั้นมีความเกี่ยวข้องกับการส่งออกและนำเข้าอยู่ในสัดส่วนที่ค่อนข้างมาก ทำให้ข่าว Non-Farm เกี่ยวข้องกับการซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยน การเปลี่ยนแปลงใด ๆ ของข่าว Non-Farm ไม่ว่าลบหรือบวก จึงทำให้ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงิน โดยเฉพาะคู่ที่มีค่าเงิน USD อยู่ในนั้น
ซึ่งตัวเลขเหล่านี้นั้นเมื่อประกาศออกมาจะมีผลต่อค่าเงิน US และรวมถึงราคาทองคำค่อนข้างมาก เรียกว่าคุณนั้นจะได้เห็นการแกว่งตัวของราคาอย่างมหาโหดกันเลยในช่วงเวลาดังกล่าว ดังนั้นหากคุณเป็นนักเทรด forex แล้ว ต้องไม่พลาดที่จะเลือกใช้ข่าว non farm ในการทำกำไรจากตลาดนี้ของคุณครับ
หากคุณเป็นนักเทรดมือใหม่ และไก่อ่อนอยู่ ผมแนะนำว่าโปรดอย่าเทรด โดยเด็ดขาด เพราะว่าคุณอาจยังไม่ชำนาญในการเปิดหรือปิดออเดอร์ อันส่งผลให้คุณนั้นอาจเจอล้างพอร์ตแบบไม่ได้กระพริบตาเลย ดังนั้นถ้ายังมือใหม่โปรดข้ามเรื่องของ ข่าว non farmไปก่อนนะครับ
โดยสรุปแล้ว หากคุณเป็นคนที่ชอบการเล่น หรือเทรด forex โดยอาศัยข่าวเป็นหลัก การเลือกติดตาม ข่าว non farm ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือและหนึ่งกลยุทธ์ง่ายๆที่คุณสามารถนำไปใช้ในการสร้างรายได้อย่างรวดเร็วจากการเทรด forex โดยที่มีความเสียงที่จะเกิดขึ้นต่ำด้วย
ถ้าให้พูดถึง การขาดทุน forex ต้องมีหลายๆคนที่คิดเรื่องนี้อยู่แล้วว่าทำไมถึงขาดทุน พลาดตรงไหน ก็ทำคามระบบทุกอย่าง เรียนมาก็หลายอาจารย์ทำไมถึงขาดทุนอยู่ ต้องมานั่งเครียดหน้าดำหน้าแดงรู้สึกผิดกับเงินที่เสียไป จนเกิดอารมโมโหและอยากจะเอาเงินคืน และเป็นสาเหตุให้คุณ Overtrade ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สมควรทำอย่างยิ่งในตลาด forex
Overtrade คือ อะไร ?
การ Overtrade หมายถึง การที่คุณเปิดออเดอร์ด้วย lot ที่ใหญ่จนเกินตัว เพราะว่าอยากได้กำไรที่มากขึ้นหรือจะเอาคืนที่มากกว่าขาดทุนก่อนหน้านนี้ ซึ่งผลพวงมาจากการที่คุณมีอารมณ์ โลภ โกรธ หรือ เพราะว่าระบบของคุณมัน Overtrade
ทีนี้คุณอาจยังไม่แน่ใจว่าแบบใดที่จะเรียกว่าการเข้าข่ายการ Overtrade ถ้าอย่างนั้นผมขอสรุปมาให้เห็นเป็นภาพว่า แบบไหนที่ถือว่าคุณนั้นเสี่ยงอย่างยิ่งต่อการ Overtrade นะครับ
เรื่องนี้ง่ายมากๆ หากคุณได้อ่านประโยคท่อนบนที่ผมระบุว่าสำหรับทุนไม่เกิน 10,000 บาท การเปิด Lot ที่ 0.3 ขึ้นไป ถือได้ว่าคุณสุ่มเสี่ยงต่อการทำ Overtrade แล้ว นั่นละครับคือการทำสิ่งที่เรียกว่าการ Overtrade จริงๆหากคุณเอาใจคุณเป็นตัววัด ก็จะรู้ทันทีว่าเรา Overtrade หรือไม่
อารมณ์ที่ส่งผลต่อการ Overtrade มากที่สุด มีเพียง 2 อารมณ์นี้เท่านั้นคือ อารมณ์โกรธ และอารมณ์ของความโลภ ทั้งสองอารมณ์นี้เมื่อเข้ามาครอบงำระบบ System ของคุณแล้วจะส่งผลให้คุณนั้นทำการเทรดแบบ Overtrade ทันที และที่สำคัญคือ มันผิดพลาดง่ายมาก
นอกจากการที่จะส่ง Lot ใหญ่ ๆ แล้วการ Overtrade ยังสามารถส่งคำสั่งจำนวนมาก ถี่ ๆ ในระยะเวลาอันสั้น ไม่ว่า Lot จะเท่าไหร่ก็ตาม สาเหตุก็เพราะว่า คุณเร่งที่จะเอาเงินคืนนั่นเอง ดังนั้นการ Overtrade จึงเน้นที่ผลและสภาพจิตใจเป็นหลัก
ทางแก้ปัญหาที่ดีที่สุดเมื่อคุณทำการ Overtrade คือการปฏิบัติตามขั้นตอนที่ผมแนะนำด้านล่างต่อไปนี้
1.หยุดการเทรดทันที! คุณต้องหยุดทันที และพักการเทรดอย่างน้อย 3 วันนะครับ ไม่อย่างนั้นแล้ว อารมณ์ที่จะพาให้คุณ Overtrade อีกครั้งจะยังคงอยู่ในใจ
2.เริ่มจากบัญชี Demo เมื่อคุณกลับมาภายหลังจาก 3 วันแล้ว ให้เริ่มต้นจากการเทรดด้วย บัญชี Demo เสียก่อน อย่าเพิ่งเริ่มต้นจากการเทรดด้วยวิธีอื่นๆ มันไม่เหมาะสมและคุณอาจพลาดได้ครับการเริ่มจากบัญชี Demo ถือว่าปลอดภัยที่สุดเพื่อแก้ปัญหาการ Overtrade อีกครั้ง
คนที่ Overtrade จะมีอาการอยู่ 2 สามอย่างที่สามารถรับรู้ได้ง่าย ซึ่งถ้าหากคุณมีอาการ Overtrade หรือ เพื่อนมีอาการ Overtrade ก็สามารถสังเกตุได้ง่าย ๆ ดังต่อไปนี้
สรุปแล้วการ Overtrade นั้นจะเกี่ยวข้องกับสภาพจิตใจของผู้เทรดมากที่สุด หากไม่สามารถควบคุมข้อนี้ได้ โดโอกาสที่คุณนั้นจะทำการเทรดแบบ Overtrade ก็มีสูงมากเช่นเดียวกันครับ คุณคงไม่อยากให้พอร์ตของคุณขาวสะอาดปราศจากผลกำไรใด เพราะพิษของการทำ Overtrade อย่างแน่นอน ดังนั้นโปรดอย่าทำการ Overtrade อย่างเด็ดขาด
5 เคล็ดไม่ลับสำหรับนักลงทุนมือใหม่
5 เทคนิควางจุด Stop Loss
ทุกครั้งก่อนที่เราจะทำการเทรด เราต้องมีแผนการเทรดที่ชัดเจนก่อนหน้า ซึ่งหลักๆ ก็คือ
หากคุณต้องการประสบความสำเร็จในการเทรด Forex นอกเหนือจากจิตวิทยาการลงทุนและการบริหารจัดการเงินทุนแล้ว ระบบเทรด Forex ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้
แต่ระบบเทรด Forex คืออะไร? ระบบเทรด Forex ที่ดีเป็นอย่างไร? และคุณจะสร้างระบบเทรด Forex ของตนอย่างไร? ในบทความนี้เราจะตอบคำถามเหล้านี้และนำเสนอการสร้างระบบเทรด Forex ด้วย 7 ขั้นตอน นะครับ
วิธีการเทรดที่มีการกำหนดรูปแบบการวิเคราะห์เพื่อประเมินแนวโน้มคู่สกุลเงินและกำหนดกลยุทธ์เข้าซื้อและขายออกซึ่งรวมถึงการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างเป็นระบบ ซึ่งรูปแบบการวิเคราะห์ที่ใช้อาจจะเป็นการวิเคราะห์ทางเทคนิคและ/หรือการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน
ระบบเทรด Forex จะช่วยให้คุณมีวิธีการเทรดที่แน่นอน ชัดเจนและตัดอารมณ์ออกจากการเทรด เพราะความกล้าจะทำให้คุณกล้าเทรดทั้ง ๆ ที่ไม่รู้อะไรเลย ทำให้โอกาสขาดทุนมีสูงมาก ในทางตรงกันข้าม ความกลัวจะทำให้คุณไม่กล้าเทรด ถึงแม้คุณจะเห็นโอกาสอย่างชัดเจนก็ตาม
วัดผลได้ – เพราะจะช่วยให้คุณทราบว่า ระบบเทรด Forex ของคุณให้ผลลัพธ์ตามที่คุณต้องการหรือไม่ หากคำตอบคือไม่ คุณจะได้ทำการปรับปรุง แก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงระบบการเทรด Forex ได้
ใช้ได้ทุกสภาพตลาด – เพราะตลาดมีความผันผวนอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น ระบบเทรด Forex ของคุณจึงควรสามารถใช้ได้ทุกสภาพตลาด เพื่อโอกาสในการทำกำไรในทุกช่วงเวลาของตลาด
ใช้งานง่าย – ระบบเทรด Forex ที่ดีต้องใช้งานง่ายและเรียบง่าย ดังคำพูดที่ว่า “Simple is best” (ความเรียบง่ายดีที่สุด)
ทำกำไรได้จริง – เพราะสิ่งที่เทรดเดอร์ต้องการจากตลาดคือ กำไร ดังนั้น ระบบเทรด Forex ที่ดีจะต้องสามารถทำกำไรจากสนามจริงได้
ผ่านการทดสอบ – ก่อนที่คุณจะนำระบบเทรด Forex ใด ๆ มาใช้งาน คุณต้องทำการทดสอบระบบดังกล่าวจนแน่ใจว่าระบบดังกล่าวให้ผลลัพธ์ที่คุณพึงพอใจเสียก่อน
คุณน่าจะพอทราบแล้วว่า ระบบเทรด Forex คืออะไร แต่คุณจะสร้างระบบเทรด Forex ของคุณเองอย่างไร ?
1. กรอบเวลา
ก่อนที่คุณจะสามารถกำหนดกรอบเวลาที่จะใช้ในระบบเทรด Forex ไม่ว่าจะเป็นระบบเทรด Forex สั้นหรือระบบเทรด Forex ยาว คุณจะต้องตอบคำถามตัวเองก่อนว่า คุณเป็นเทรดเดอร์แบบไหน
เพราะเทรดเดอร์แต่ละแบบมีรูปแบบการเทรดที่แตกต่างกัน หากคุณชอบเทรดสั้น กรอบเวลาที่ใช้ควรจะเป็นกรอบ 1 ชั่วโมงหรือ 4 ชั่วโมงหรือหากใจร้อนมาก ๆ กรอบราย 1 นาทีก็ดูจะเหมาะสม ในทางตรงกันข้าม หากคุณชอบเทรดยาว กรอบเวลาที่ใช้ควรจะเป็นกรอบรายวัน กรอบรายสัปดาห์ เป็นต้น
2. Indicator ค้นหาแนวโน้ม
หนึ่งในขั้นตอนการเทรดคือ การหาแนวโน้ม ดังนั้น การกำหนดอินดิเคเตอร์ที่จะใช้ในการค้นหาแนวโน้มจึงเป็นสิ่งสำคัญ
หนึ่งในอินดิเคเตอร์ยอดนิยมที่ใช้ค้นหาแนวโน้มคือ MA (Moving Averages) ที่ใช้อย่างน้อย 2 เส้น โดยกำหนดให้เส้นหนึ่งช้ากว่าและอีกเส้นหนึ่งเร็วกว่า เมื่อเส้นที่เร็วกว่าตัดเส้นที่ช้ากว่า นั่นเป็นสัญญาณของแนวโน้มที่อาจจะเกิดขึ้น
3. อินดิเคเตอร์ยืนยันแนวโน้ม
แนวโน้มที่ได้จากอินดิเคเตอร์ข้างต้นเป็นแค่อาจจะ ดังนั้น คุณจำเป็นต้องมีอินดิเคเตอร์ที่ช่วยยืนยันว่า แนวโน้มที่คุณได้มานั้นเป็นของจริง เพราะแนวโน้มหลอก ๆ เกิดขึ้นบ่อยมากบนตลาด
อินดิเคเตอร์สำคัญ ๆ ที่ใช้ในการยืนยันแนวโน้ม เช่น RSI, MACD เป็นต้น
4. กำหนดความเสี่ยง
เพราะไม่มีใครสามารถทำกำไรจากการเทรด Forex ได้ทุกครั้ง ดังนั้น การกำหนดระดับผลขาดทุนที่ยอมรับได้จากการเทรดแต่ละครั้งจึงเป็นสิ่งสำคัญ ทำให้ความเสี่ยงที่จะถูกล้างพอร์ตมีน้อยลง โดยที่เทรดเดอร์แต่ละคนจะมีระดับผลขาดทุนที่ยอมรับได้แตกต่างกันออกไป
5. กำหนดจุดเข้าและจุดออก
หลังจากที่กำหนดความเสี่ยงของคุณเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการกำหนดจุดเข้าและจุดออก ซึ่งเทรดเดอร์แต่ละคนจะมีวิธีการที่แตกต่างกัน
สำหรับจุดเข้า บางคนอาจจะเลือกเข้าทันทีเมื่อยืนยันแนวโน้มเรียบร้อยแล้ว โดยไม่รอให้กราฟปิดแท่งก่อน แต่บางคนอาจจะรอให้กราฟปิดแท่งเสียก่อนแล้วจึงเข้า เพราะมีหลายครั้งที่กราฟปิดแท่งในทิศทางตรงกันข้ามกับที่คิดไว้
ส่วนจุดออก คุณสามารถกำหนดจุดออกโดยใช้คำสั่งอย่าง Stop Loss, Take Profit หรือ Trailing Stop เพื่อปิดการเทรดโดยอัตโนมัติเมื่อถึงระดับที่กำหนด บางคนอาจจะใช้แนวรับแนวต้านสำคัญเป็นจุดออก ขณะที่เทรดเดอร์บางส่วนอาจเลือกที่จะกำหนดจำนวน pip ที่ต้องการจากการเทรดแต่ละครั้ง
6. ทดสอบ
ขั้นตอนนี้ถือเป็นขั้นตอนสำคัญ เพราะคุณจะทราบว่า ระบบเทรด Forex ที่คิดไว้ใช้งานได้จริงหรือไม่ ซึ่งคุณสามารถทำการทดสอบโดยการทดสอบย้อนหลังข้อมูลในอดีตหรือจะเป็นการทดลองเทรดบนบัญชีจำลองอย่างน้อย 3 เดือน หากระบบเทรดดังกล่าวให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ คุณก็สามารถนำระบบเทรดดังกล่าวมาใช้งานได้จริง
7. ปฏิบัติตาม
6 ขั้นตอนก่อนหน้านี้จะไม่มีประโยชน์อันใดเลย หากคุณไม่ทำตามระบบเทรด Forex ที่คุณสร้างขึ้นมาเอง
คุณจำเป็นจะต้องมีวินัยในการปฏิบัติตามระบบเทรด Forex ของคุณอย่างเคร่งครัด ซึ่งวินัยเป็นหนึ่งในคุณลักษณะสำคัญของเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จ
ตอนนี้คุณคงทราบแล้วว่าจะสร้างระบบเทรด Forex ของตนเองอย่างไร ต่อไปคุณก็สามารถทดสอบระบบเทรด Forex ของคุณกับเราได้แล้วนะ
แจกฟรี!ระบบเทรด
……………………………………………………………………………………………………………….
5 รูปแบบแท่งเทียนขาขึ้น
เทรด Forex สร้างรายได้จริงไหม?