XM มีโบนัส $30 สำหรับลูกค้าใหม่
มีโบนัส 100% สูงสุด $500
https://bit.ly/XMFreebonus30USD
CXM ฝากถอนเร็ว ฟรี Free Swap ทุกบัญชี
https://bit.ly/CXMFTT
Exness สมัครง่ายฝากถอนเร็ว
https://bit.ly/ExnessCom
รหัสพาสเนอร์เลข 11000789
สุดยอดเว็บแจกโปรแกรมช่วยเทรดอันดับหนึ่งของประเทศ
XM มีโบนัส $30 สำหรับลูกค้าใหม่
มีโบนัส 100% สูงสุด $500
https://bit.ly/XMFreebonus30USD
CXM ฝากถอนเร็ว ฟรี Free Swap ทุกบัญชี
https://bit.ly/CXMFTT
Exness สมัครง่ายฝากถอนเร็ว
https://bit.ly/ExnessCom
รหัสพาสเนอร์เลข 11000789
XM มีโบนัส $30 สำหรับลูกค้าใหม่
มีโบนัส 100% สูงสุด $500
https://bit.ly/XMFreebonus30USD
CXM ฝากถอนเร็ว ฟรี Free Swap ทุกบัญชี
https://bit.ly/CXMFTT
Exness สมัครง่ายฝากถอนเร็ว
https://bit.ly/ExnessCom
รหัสพาสเนอร์เลข 11000789
ระบบที่กองทุนระดับโลกใช้ ไม่สนใจทิศทาง
ระบบ Hedged Grid System จะทำงานโดยการเปิดออเดอร์ซื้อและขายพร้อมกันในระยะเวลาเดียวกัน โดยใช้เส้นกริด (grid) เพื่อจัดการความเสี่ยงในการซื้อขาย และมักนิยมใช้กับคู่เงินที่มีการเคลื่อนไหวเป็นช่วง ๆ
สามารถเทรดได้โดยไม่ต้องเดา อนาคต ไม่ต้องเดาแนวโน้ม กริดเน้นการซื้่อขายทำกำไรก้อนเล็ก(ตามการออกแบบโครงสร้างของกริด) เน้นกระแสเงินสด(Cash Flow)ที่ออกมา มากกว่ากำไรคำโตๆ กริดเองทำงานได้ดี ในทุกช่วงราคา
ระบบ Hedged Grid จะเป็นการเปิดออเดอร์สวนเทรนซึ่งจะใช้ดีเพื่อตลาดมี Volatility สูง หรือมีการแกว่งที่เป็นกรอบ โดยเน้นการ Buy และ Sell เราจะสามารถเก็บ CashFlow ได้เมื่อตลาดวิ่งอยู่ที่เดิมไปมา ซึ่งควรใช้ให้สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของค่าเงินในช่วงเวลานั้นๆ
Hedged Grid เองก็สามารถทำได้มากมายหลายวิธี ขึ้นกับข้อแตกต่างระหว่างบุคคลที่ใช้งานเช่น ระยะเวลา ขนาดของเงินทุน ส่วนมากนิยมออกแบบขนาดของ Grid ตามระดับราคาต่างๆที่เห็นได้ชัด และเหมาะสมกับการเคลื่อนไหวของราคา
ขั้นตอนการทำงานของระบบ Hedged Grid System มีดังนี้
ข้อดีของระบบ Grid System คือ การซื้อขายด้วย Grid แทบจะไม่สนใจทิศทางของราคา ไม่สนใจแนวโนม เน้นไปที่การซื้อขายตามระบบที่ได้วางไว้ตั่งแต่แรก Grid จึงเป็นระบบที่สามารถสร้างกำไรได้เรื่อยๆ ทุกสถาณะการณ์ทุกภาวะตลาด
กริดเน้นการซื้อขายทำกำไรก้อนเล็ก(ตามการออกแบบโครงสร้างของกริด) เน้นกระแสเงินสด(Cash Flow)ที่ออกมา มากกว่ากำไรคไโตๆ กริดเองทำงานได้ดี ในช่วง sideway
ลิงค์เปิดบัญชีเทรดเพื่อใช้บอทเทรดฟรีตัวตัวใหม่ๆในอนาคตตลอดชีพ
XM มีโบนัสฟรี สำหรับลูกค้าใหม่
https://bit.ly/XMFreebonus30USD
.
Exness สมัครง่ายฝากถอนเร็ว
เลขพาร์ทเนอร์ 11000789
.
GMI เทรดดีไม่มีสะดุด Free Swap ทุกบัญชี
เลข IB GMP28407
คำว่า stop-loss (SL) คือการกำหนดจุดของการขาดทุน
Stop Loss คือจุดตัดการลงทุน หรือจุดตัดการขาดทุน ก็คือจุดที่เราตัดสินใจว่าจะหยุดลงทุนเพื่อไม่ให้ผลตอบแทนลดลงไปมากกว่านี้ โดยสามารถทำได้ทั้งเพื่อไม่ให้กำไรน้อยลงจากที่กำไรอยู่ หรือว่าขาดทุนแล้ว และไม่อยากขาดทุนไปมากกว่านี้
สำหรับข้อดีของการตั้งค่า stop-loss (SL) ไว้เสมอในทุกๆการเทรด forex ของคุณมีดังนี้
สิ่งที่แน่ชัดที่สุด สำหรับ Stop loss คือ การที่มันสามารถปกป้องเงินในบัญชีของคุณ stop-loss (SL) ช่วยปกป้องเงินของคุณในยามที่กราฟเกิดอาการรวน หรือรีโควทขึ้นมา คุณจะได้ไม่ต้องเสียเงินไปโดยใช่เหตุในช่วงเวลาดังกล่าว ทุกครั้งที่คุณเทรด ห้ามลืมเด็ดขาดในการตั้ง stop-loss (SL)
คุณคงไม่ต้องการให้กำไรที่คุณกำลังเริ่มทำของคุณหายไปหมดเลย เพียงเพราะกราฟเกิดการดีดกลับในทีเดียว ดังนั้นจงเลือกปกป้องกำไรของคุณด้วยการเลื่อนค่า stop-loss (SL) ออกมาไว้เหนือเส้นเทรดสัญญาของคุณ เพียงเท่านี้คุณก็จะปลอดภัยและได้กำไรจากการเทรดอย่างแน่นอน
คำว่าเทรดอย่างเป็นระบบคือ เป็นการกำหนดระบบมาเสียตั้งแต่แรกว่า หากต้องการเทรด forex ในตานั้นๆเพื่อการทำกำไร จะต้องกำหนดจุดขาดทุนไว้ที่เท่าไหร่ เพื่อที่ว่า จะทำให้คุณไม่เจออาการล้างพอร์ตในช่วงที่กราฟมีการสวิงตัวอย่างรุนแรง นอกจากนี้การตัดสินใจทำตามแผน และระบบที่คุณได้ออกแบบมา มันยังสร้างจิตวิทยาการเทรดให้คุณ เพราะว่าคุณจะเข้าใจและมั่นใจว่า คุณได้ทำในสิ่งที่ถูกต้องในการเทรดอยู่
ในเมื่อทุกอย่างถูกกำหนดไว้แล้ว คุณก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมานั่งเฝ้าหน้าจอแต่อย่างใด คุณสามารถปล่อยให้ระบบทำการเทรดไปเรื่อยๆ และเมื่อถึงจุดที่คุณสามารถทำกำไรได้แล้ว ก็จะได้กำไรทันที โดยที่ไม่ต้องมากังวลอะไรทั้งสิ้น
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
คำสั่งซื้อขายราคาตลาด (Market Order) หรือคำสั่งซื้อหรือขายทันทีที่ราคาถัดไปที่ซื้อขายได้ คำสั่งซื้อขายราคาตลาดเป็นคำสั่งซื้อที่รวดเร็วและทันที อย่างไรก็ตาม ราคาถัดไปที่ซื้อได้อาจแตกต่างจากราคาปัจจุบันที่เทรดเดอร์กำลังดูอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ราคาตลาดมีความเคลื่อนไหวสูง ซึ่งเรียกว่า ตลาดแกร่งตัวสูง (slippage) คำสั่งซื้อราคาตลาดในช่วงที่ตลาดราคาเคลื่อนไหวสูงนี้หรือขาดสภาพคล่อง อาจทำให้เกิดการแกว่งตัวสูงได้
การตั้งราคาซื้อขาย (Limit Order) เป็นคำสั่งซื้อหรือขายที่ราคาที่กำหนดหรือราคาที่ดีกว่าเท่านั้น ซึ่งจะไม่เหมือนคำสั่งซื้อขายราคาตลาด การตั้งราคาซื้อขายนี้จะให้เราสามารถควบคุมราคาที่ซื้อขายได้เต็มที่ แน่นอนว่าหากราคาตลาดไม่ตรงกับราคาที่สั่งซื้อหรือขาย ณ เวลาที่ทำการซื้อขาย ระบบก็จะไม่ทำการซื้อขายให้เทรดเดอร์
จุดทำกำไร (Take Profit) เป็นคำสั่งขีดจำกัดเพื่อปิดการซื้อขายเมื่อการซื้อขายหนึ่ง ๆ ทำกำไรไปจนถึงราคาที่ตั้งไว้แล้ว
การเลื่อนจุดตัดการขายขึ้น (Trailing stop) เป็นคำสั่งรอปิดการซื้อขายเมื่อถึงจำนวน Pip หนึ่ง ๆ ที่อยู่ห่างจากราคาสูงสุดที่ตั้งไว้
จุดตัดขาดทุน (Stop Loss) เป็นคำสั่งซื้อขายราคาตลาดเพื่อ “ปิด” การซื้อขายที่ราคาถัดไปที่ซื้อขายได้เมื่อขาดทุนจนถึงราคาที่ตั้งไว้แล้ว
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
การเทรด Forex คือการซื้อสกุลเงินหนึ่งและขายอีกสกุลเงินหนึ่งไปพร้อมๆ กัน นั่นหมายถึงเมื่อทำการเทรดในตลาด Forex คุณต้องเทรดเป็นคู่เงิน เช่น การเทรด EUR/USD (ยูโรกับดอลล่าร์สหรัฐ) คู่เงินที่มีอยู่มากถึงหลายร้อยคู่ แต่ไม่ใช่ทุกคู่ก็สามารถเทรดในตลาด Forex ได้ ปัจจุบันคู่เงินที่ได้การยอมรับมี 180 คู่ โดยทั่วไปแล้วจะแบ่งออกเป็นหลักๆ 3 ประเภทหลัก
ประเภทหลักๆ ของคู่เงิน Forex ประกอบด้วย คู่เงินหลัก(Major Currency Pairs) คู่เงินรอง(Cross Currency Pairs) และ คู่เงินเกิดใหม่(Exotic Currency Pairs)
1. คู่เงินหลัก(Major Currency Pairs)
สกุลเงินหลักมีอยู่ 8 สกุล(Major Currencies) คือ ดอลลาร์สหรัฐ (USD), ยูโร (EUR), เยน(JPY), ปอนด์ (GBP), ฟรังค์สวิส(CHF), ดอลลาร์ออสเตรเลีย(AUD), ดอลลาร์นิวซีแลนด์(NZD) และดอลลาร์แคนาดา(CAD)
คู่เงินหลักหลัก(Major Currency Pairs) คือคู่เงินที่จับคู่ระหว่างเงินสกุลดอลล่าร์และอีกสกุลเงินหลักและมีการซื้อขายมากที่สุด คู่เงินหลักมีอยู่ทั้งหมด 7 คู่
คู่เงินหลัก(Major Currency Pairs) เป็นคู่เงินที่ได้รับความนิยมจากนักเทรดทั่วโลกและมีสภาพคล่องมากที่สุด ราคาของคู่เงินหลักจะมีการเคลื่อนไหวบ่อยกว่าคู่เงินอื่น ทำให้โอกาสในการเทรดมากขึ้น การเทรดคู่เงินหลักจึงเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่
มาดูกันมีคู่อะไรบ้าง
2.คู่เงินรอง(Cross Currency Pairs หรือ Minor Currency Pairs)
เป็นคู่เงินหลักที่ไม่ได้จับคู่กับดอลลาร์สหรัฐ แต่จับกับสกุลเงินหลักอื่นๆ แม้ว่าจะไม่มีการซื้อขายมากเท่าคู่เงินหลัก แต่ก็ยังคงมีสภาพคล่องที่ดีพอและได้เปิดโอกาสในการเทรดมากมาย
คู่เงินรองที่มีการซื้อขายกันมากที่สุดคือยูโร (EUR), เยน(JPY) และปอนด์ (GBP)
3.คู่เงินเกิดใหม่(Exotic Currency Pairs)
คู่เงินเกิดใหม่เป็นคู่เงินที่จับคู่ระหว่างสกุลเงินหลัก (USD) กับสกุลเงินประเทศที่เศรษฐกิจกำลังเติบโต เช่น บราซิล แม็กซิโก ตุรกี หรือ ฮังการี
คู่เงินอื่นๆที่น่าสนใจ
อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีคู่เงินอื่นๆที่น่าสนใจเหมือนกัน เช่น The Scandies, CEE, และ BRIICS
สกุลเงิน The Scandies เป็นสกุลเงินแถบประเทศสแกนดิเนเวีย กล่าวคือ เดนมาร์ก นอร์เวย์ และ สวีเดน
ส่วน CEE เป็นสกุลเงินแถบประเทศบริเวณยุโรปตะวันตะวันออก และยุโรปกลาง เช่น อัลบาเนีย บัลกาเลีย โครเอเทีย เชค รีพับบลิค เเละอื่นๆ
สกุลเงิน BRIICS เป็นกลุ่มประเทศเขตเศรษฐกิจพิเศษ ประกอบด้วย บลาซิล รัซเซีย อินโดนีเซีย จีน และ แอฟริกาใต้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………