้
วิธีเปิดบัญชี RoboForex Ultimate Guide 2025: เริ่มต้นเทรด Forex และ CFD อย่างมืออาชีพ

ในโลกของการลงทุนและ การเทรด Forex ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การเลือกโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือและมีประสิทธิภาพเป็นปัจจัยสำคัญสู่ความสำเร็จ RoboForex ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในฐานะหนึ่งในโบรกเกอร์ชั้นนำที่ให้บริการซื้อขาย Forex และ CFD ด้วยแพลตฟอร์มที่ทันสมัยและเงื่อนไขการเทรดที่ได้เปรียบ คู่มือฉบับสมบูรณ์นี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อนำทางคุณในทุกขั้นตอนการ เปิดบัญชี RoboForex ตั้งแต่การลงทะเบียนครั้งแรกไปจนถึงการเริ่มต้นการเทรดจริง เพื่อให้คุณสามารถเริ่มต้นเส้นทางการลงทุนได้อย่างรวดเร็ว มั่นใจ และถูกต้องตามหลักเกณฑ์สากล
1. 🥇 ขั้นตอนที่ 1: การลงทะเบียนเพื่อเข้าสู่พื้นที่สมาชิก (Members Area)
พื้นที่สมาชิก (Members Area) คือศูนย์กลางการบริหารจัดการบัญชีเทรดและการเงินทั้งหมดของคุณกับ RoboForex การเริ่มต้นด้วยการสร้างพื้นที่สมาชิกที่ถูกต้องจะช่วยให้คุณเข้าถึงฟังก์ชันการเทรดและบริการต่างๆ ได้อย่างเต็มที่และราบรื่น
1.1 เข้าสู่เว็บไซต์และเริ่มการสมัครสมาชิก
เพื่อเริ่มต้นกระบวนการ คุณต้องเข้าสู่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ RoboForex และมองหาปุ่ม “เปิดบัญชี” (Open an account) หรือ “ลงทะเบียน” (Register) ซึ่งมักจะอยู่บริเวณมุมขวาบนของหน้าเว็บไซต การคลิกที่ปุ่มนี้จะนำคุณเข้าสู่หน้าต่างการกรอกข้อมูลเบื้องต้นสำหรับการสมัครสมาชิก

1.2 กรอกข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อสมัครสมาชิก RoboForex อย่างละเอียด
ในขั้นตอนนี้ คุณจะต้องกรอกข้อมูลส่วนตัวที่จำเป็น เพื่อให้ RoboForex สามารถระบุตัวตนของคุณได้อย่างถูกต้อง โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อมูลทั้งหมดเป็นจริงและตรงกับเอกสารยืนยันตัวตนของคุณ
- E-mail: กรอกที่อยู่อีเมลที่คุณใช้งานจริงและสามารถเข้าถึงได้ เนื่องจากระบบจะใช้ช่องทางนี้ในการส่งข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับบัญชีของคุณ รวมถึงรหัสผ่านและข้อมูลยืนยันตัวตน
- First Name / Last Name: กรอกชื่อและนามสกุลของคุณเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด โดยต้องตรงกับข้อมูลในบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทาง เพื่อป้องกันปัญหาในการยืนยันตัวตนในภายหลัง
- Mobile phone: เลือกประเทศ “TH +66” สำหรับประเทศไทย จากนั้นกรอกหมายเลขโทรศัพท์มือถือของคุณ โดยไม่ต้องใส่เลข “0” นำหน้า (เช่น หากเบอร์ของคุณคือ 0812345678 ให้กรอก 812345678)
- Partner’s Agent ID: หากคุณมีรหัสตัวแทนหรือได้รับคำแนะนำจากพาร์ทเนอร์ของ RoboForex คุณสามารถกรอกรหัส (เช่น
okkgตามภาพตัวอย่าง) ในช่องนี้ เพื่อรับสิทธิประโยชน์หรือการสนับสนุนพิเศษจากพาร์ทเนอร์นั้นๆ - การยืนยันเงื่อนไข: ติ๊กช่องสี่เหลี่ยมเพื่อยืนยันว่าคุณมีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไขการให้บริการของ RoboForex ซึ่งเป็นข้อกำหนดทางกฎหมายที่สำคัญ
- เมื่อตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ให้กดปุ่ม “Register” เพื่อดำเนินการสมัครสมาชิกในขั้นตอนถัดไป

2. 🛡️ ขั้นตอนที่ 2: ดำเนินการหลังสมัครสำเร็จ และการยืนยันตัวตน (Verification)
การยืนยันตัวตน (Know Your Customer หรือ KYC) เป็นขั้นตอนที่จำเป็นอย่างยิ่งตามกฎระเบียบสากล เพื่อป้องกันการฟอกเงินและการฉ้อโกง อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มความปลอดภัยให้กับบัญชีของคุณเอง การดำเนินการขั้นตอนนี้อย่างรวดเร็วและถูกต้องจะช่วยให้คุณสามารถใช้งานบัญชีได้อย่างเต็มที่และถอนเงินได้อย่างไม่มีปัญหา
2.1 ขั้นตอนสำคัญหลังการสมัครสมาชิกเสร็จสิ้น
- ตรวจสอบอีเมลที่ใช้สมัคร: ทันทีที่คุณสมัครสมาชิกสำเร็จ ระบบของ RoboForex จะส่งอีเมลยืนยันไปยังที่อยู่อีเมลที่คุณระบุไว้ ในอีเมลฉบับนี้จะประกอบด้วยข้อมูลบัญชีของคุณ รวมถึงรหัสผ่านสำหรับเข้าสู่พื้นที่สมาชิกครั้งแรก โปรดเก็บข้อมูลนี้ไว้เป็นความลับและปลอดภัย
- การยืนยันตัวตนเริ่มต้น: ภายในพื้นที่สมาชิก คุณจะพบปุ่มหรือลิงก์สำหรับ “Verify” ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการยืนยันตัวตน การคลิกที่ปุ่มนี้จะนำคุณเข้าสู่หน้าการอัปโหลดเอกสาร
- สำคัญมาก! การกรอกรหัส Agent ID เพื่อรับสิทธิประโยชน์พิเศษ: ในระหว่างขั้นตอนการยืนยันตัวตน หรือในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเปิดบัญชีเทรดใหม่ หากมีช่องสำหรับกรอก “Agent ID” อย่าลืมกรอกรหัส
okkgเพื่อให้คุณได้รับสิทธิประโยชน์พิเศษ เช่น โบนัสการฝากเงิน หรือการสนับสนุนจากทีมงานของเรา หากคุณข้ามขั้นตอนนี้ไป คุณอาจพลาดโอกาสในการรับข้อเสนอพิเศษเหล่านี้ได้ การกรอกรหัสนี้เป็นการผูกบัญชีของคุณเข้ากับพาร์ทเนอร์ของเรา ซึ่งจะทำให้คุณได้รับบริการที่เหนือกว่า - เปิดบัญชีเทรดใหม่: เมื่อการยืนยันตัวตนเบื้องต้นเสร็จสิ้นและคุณได้กรอกรหัส Agent ID แล้ว ให้กดปุ่ม “Open an account” เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการเลือกและเปิดบัญชีเทรดจริง

2.2 การยืนยันตัวตนด้วยเอกสารแสดงตน (ID Verification)
การยืนยันตัวตนนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อยืนยันว่าคุณเป็นบุคคลเดียวกับข้อมูลที่ลงทะเบียนไว้ เพื่อความปลอดภัยและปฏิบัติตามกฎหมาย
- กรอกข้อมูลส่วนตัวเพิ่มเติม: คุณจะต้องกรอกข้อมูลส่วนตัวเพิ่มเติม เช่น วันเกิด สัญชาติ และเลขที่เอกสารแสดงตัวตน (บัตรประชาชน หรือ หนังสือเดินทาง) โดยกรอกให้ถูกต้องครบถ้วนทุกช่อง
- ระบุหน่วยงานที่ออกเอกสารและวันออกเอกสาร: ระบุชื่อหน่วยงานที่ออกบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทางให้คุณ (Issuing Authority) และวันที่มีการออกเอกสารดังกล่าว (Issue Date)
- Upload Document (อัปโหลดเอกสาร): อัปโหลดภาพถ่ายเอกสารแสดงตัวตนของคุณ รูปภาพต้องมีความคมชัด ไม่เบลอ มองเห็นข้อมูลบนเอกสารได้อย่างชัดเจนทั้งสี่มุม ไม่มีการสะท้อนแสง และไม่มีส่วนใดถูกบดบัง เอกสารที่ยอมรับโดยทั่วไปคือ บัตรประชาชน หรือ หนังสือเดินทาง
- เมื่ออัปโหลดเสร็จแล้ว ให้กดปุ่ม “Send” เพื่อส่งเอกสารให้ RoboForex ตรวจสอบ

2.3 การยืนยันที่อยู่ (Address Verification)
ขั้นตอนนี้เป็นการยืนยันที่อยู่ปัจจุบันของคุณ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลตรงกับที่ระบุไว้ในเอกสาร
- กรอกข้อมูลที่อยู่: กรอกชื่ออำเภอ/เมือง (City) และที่อยู่ (Address) เป็นภาษาอังกฤษ โดยต้องตรงกับเอกสารยืนยันที่อยู่ที่จะอัปโหลด
- ใส่รหัสไปรษณีย์ (Postcode): กรอกรหัสไปรษณีย์ของที่อยู่ปัจจุบันของคุณให้ถูกต้อง
- Upload Document (อัปโหลดเอกสาร): อัปโหลดภาพถ่ายเอกสารยืนยันที่อยู่ เอกสารที่ยอมรับได้แก่
- ใบแจ้งยอดธนาคาร (Bank Statement) ที่ระบุชื่อและที่อยู่ของคุณอย่างชัดเจน
- บิลค่าสาธารณูปโภค (Utility Bill) เช่น บิลค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ หรือค่าอินเทอร์เน็ต ที่ออกภายใน 3-6 เดือนที่ผ่านมา
- เอกสารราชการอื่นๆ ที่มีชื่อและที่อยู่ของคุณ
- เมื่ออัปโหลดเสร็จแล้ว ให้กดปุ่ม “Send” เพื่อส่งเอกสารให้ RoboForex ตรวจสอบ

2.4 ตรวจสอบสถานะการยืนยัน KYC
หลังจากที่คุณอัปโหลดเอกสารทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ทีมงานของ RoboForex จะใช้เวลาในการตรวจสอบเอกสาร ซึ่งโดยปกติจะใช้เวลาประมาณ 1–2 วันทำการ (ขึ้นอยู่กับปริมาณงานและคุณภาพของเอกสารที่ส่ง) คุณสามารถตรวจสอบสถานะการยืนยัน KYC ของคุณได้ตลอดเวลาที่หน้า “KYC Status Page” ภายในพื้นที่สมาชิกของคุณ หากเอกสารผ่านการตรวจสอบ สถานะจะเปลี่ยนเป็น “Verified” ซึ่งหมายความว่าบัญชีของคุณพร้อมสำหรับการใช้งานเต็มรูปแบบ

3. ⚙️ ขั้นตอนที่ 3: เปิดบัญชีเทรดจริงเพิ่มเติม (Open a Trading Account)
เมื่อบัญชีสมาชิกของคุณได้รับการยืนยันตัวตนเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเปิดบัญชีเทรดจริง ซึ่งจะเชื่อมโยงคุณเข้ากับตลาดการเงินโลก RoboForex มีบัญชีหลายประเภทให้เลือก เพื่อให้เหมาะสมกับสไตล์และประสบการณ์การเทรดที่แตกต่างกัน
3.1 การเลือกและกำหนดค่าบัญชีเทรด
ในพื้นที่สมาชิกของคุณ ให้ไปที่เมนู “บัญชีจริง” (Live Accounts) จากนั้นคลิกที่ปุ่ม “เปิดบัญชี” (Open an account) เพื่อเริ่มการตั้งค่าบัญชีเทรดใหม่
- เลือกประเภทบัญชีที่เหมาะสม: RoboForex มีบัญชีเทรดหลากหลายประเภท แต่ละประเภทมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน เพื่อรองรับเทรดเดอร์ทุกระดับ ตัวอย่างเช่น:
- Pro/ProCent: เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการเงื่อนไขการเทรดแบบมาตรฐาน บัญชี ProCent จะแสดงยอดเงินในหน่วยเซ็นต์ ซึ่งช่วยให้เทรดเดอร์มือใหม่สามารถทดลองเทรดด้วยทุนที่น้อยลงได้เสมือนมีทุนจำนวนมาก และลดความเสี่ยงในการเริ่มต้น
- ECN/Prime: เหมาะสำหรับเทรดเดอร์มืออาชีพที่ต้องการสเปรดต่ำมากและการประมวลผลคำสั่งที่รวดเร็วที่สุด โดยจะมีการเชื่อมต่อโดยตรงกับผู้ให้บริการสภาพคล่อง (Liquidity Providers) ซึ่งช่วยลดค่าธรรมเนียมการเทรด
- เลือกแพลตฟอร์มการเทรด: RoboForex รองรับแพลตฟอร์มการเทรดที่ได้รับความนิยมสูงสุดสองแพลตฟอร์ม:
- MetaTrader 4 (MT4): เป็นแพลตฟอร์มคลาสสิกที่ได้รับความนิยมอย่างสูง มีเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคครบครัน ใช้งานง่าย และรองรับ Expert Advisors (EAs) หรือโรบอทเทรดจำนวนมาก
- MetaTrader 5 (MT5): เป็นเวอร์ชันที่ใหม่กว่า มีฟังก์ชันการทำงานที่เพิ่มขึ้น เช่น จำนวนเครื่องมือวิเคราะห์ที่มากขึ้น ตลาดที่สามารถเทรดได้หลากหลายขึ้น (รวมถึงหุ้นและฟิวเจอร์ส) และรองรับภาษาโปรแกรม MQL5 ที่ซับซ้อนกว่า
- กำหนดค่าบัญชี: ในขั้นตอนนี้ คุณจะต้องกำหนดรายละเอียดสำคัญของบัญชี:
- สกุลเงินหลักของบัญชี (Account Currency): โดยทั่วไปแนะนำให้เลือก USD เพื่อความสะดวกในการจัดการและคำนวณกำไร/ขาดทุน
- เลเวอเรจ (Leverage): เลือกอัตราทด (เช่น 1:100, 1:500, 1:2000) เลเวอเรจที่สูงขึ้นจะช่วยให้คุณสามารถควบคุมตำแหน่งการเทรดที่ใหญ่ขึ้นด้วยเงินทุนที่น้อยลง แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงขึ้นเช่นกัน ควรทำความเข้าใจ ความเสี่ยงของเลเวอเรจ ก่อนตัดสินใจ
- รหัสผ่าน: ตั้งรหัสผ่านที่รัดกุมสำหรับบัญชีเทรดของคุณ ควรเป็นรหัสผ่านที่ไม่ซ้ำกับรหัสผ่านเข้าพื้นที่สมาชิก และประกอบด้วยตัวอักษรพิมพ์เล็ก พิมพ์ใหญ่ ตัวเลข และสัญลักษณ์พิเศษ เพื่อเพิ่มความปลอดภัย
- คลิก “ยืนยัน” (Confirm): เมื่อตรวจสอบการตั้งค่าทั้งหมดแล้ว ให้คลิกปุ่ม “ยืนยัน” เพื่อสร้างบัญชีเทรดของคุณ ระบบจะแสดงข้อมูลสรุปของบัญชี รวมถึงหมายเลขบัญชีและรหัสผ่าน
4. 💰 ขั้นตอนที่ 4: การฝากเงิน (Deposit)
หลังจากเปิดบัญชีเทรดจริงเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการฝากเงินเข้าบัญชี เพื่อให้คุณมีเงินทุนพร้อมสำหรับการเริ่มต้นการเทรดในตลาดจริง RoboForex มีช่องทางการฝากเงินที่หลากหลาย เพื่อความสะดวกสบายของเทรดเดอร์
4.1 วิธีการฝากเงินเข้าบัญชีเทรด RoboForex
- ไปที่เมนู “การฝาก/ถอนเงิน” (Deposit/Withdrawal): ในพื้นที่สมาชิกของคุณ ให้มองหาเมนูที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเงินทุน ซึ่งมักจะระบุว่า “Deposit/Withdrawal” หรือ “Funds”
- เลือกวิธีการฝากเงิน: RoboForex มีช่องทางการฝากเงินให้เลือกมากมาย ซึ่งอาจแตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาค ตัวอย่างช่องทางยอดนิยมได้แก่:
- โอนเงินผ่านธนาคาร (Bank Transfer): วิธีการที่ปลอดภัยและน่าเชื่อถือ เหมาะสำหรับการฝากเงินจำนวนมาก แต่อาจใช้เวลาดำเนินการ 1-3 วันทำการ
- บัตรเครดิต/เดบิต (Credit/Debit Card): สะดวก รวดเร็ว และเป็นที่นิยม (Visa, MasterCard) การฝากเงินมักจะเข้าบัญชีทันที
- E-wallets (กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์): เช่น Skrill, Neteller, FasaPay เป็นต้น การทำธุรกรรมรวดเร็วและมีค่าธรรมเนียมต่ำ
- สกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency): โบรกเกอร์บางรายรองรับการฝากด้วย Bitcoin, Ethereum หรือสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ เพื่อความรวดเร็วและเป็นส่วนตัว
- กรอกจำนวนเงินและเลือกบัญชีปลายทาง: ระบุจำนวนเงินที่คุณต้องการฝาก และเลือกบัญชีเทรดที่คุณต้องการฝากเงินเข้า (หากคุณมีบัญชีเทรดหลายบัญชี) ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เลือกสกุลเงินที่ถูกต้อง
- ทำตามขั้นตอนของช่องทางการชำระเงินที่เลือก: แต่ละช่องทางจะมีขั้นตอนการยืนยันและการดำเนินการที่แตกต่างกันไป เช่น การกรอกข้อมูลบัตร การยืนยันผ่าน OTP หรือการโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารที่กำหนด ทำตามคำแนะนำบนหน้าจออย่างเคร่งครัดจนเสร็จสิ้นกระบวนการ
⚠️ คำเตือนความเสี่ยง: การเทรดผลิตภัณฑ์ที่มีเลเวอเรจ เช่น Forex และ CFD มีความเสี่ยงสูงที่จะสูญเสียเงินทุนทั้งหมดหรือบางส่วน การลงทุนในตลาดเหล่านี้อาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกคน คุณควรทำความเข้าใจถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องอย่างถ่องแท้ และไม่ควรลงทุนด้วยเงินที่คุณไม่สามารถยอมรับการสูญเสียได้ ควรพิจารณาประสบการณ์การลงทุน วัตถุประสงค์การลงทุน และความสามารถในการรับความเสี่ยงของคุณก่อนตัดสินใจเทรด ขอแนะนำให้ใช้บัญชีทดลอง (Demo Account) เพื่อฝึกฝนและทำความเข้าใจตลาดก่อนเริ่มต้นเทรดด้วยเงินจริงเสมอ
5. ✅ บทสรุป: เส้นทางสู่การเป็นเทรดเดอร์ RoboForex ที่ประสบความสำเร็จ
การเปิดบัญชี RoboForex ในปี 2025 เป็นกระบวนการที่ถูกออกแบบมาให้มีความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยสูงสุด เพื่อให้เทรดเดอร์ทุกระดับสามารถเข้าถึงตลาดการเงินโลกได้อย่างง่ายดาย ด้วยขั้นตอนที่ชัดเจน ตั้งแต่การลงทะเบียนพื้นที่สมาชิก การยืนยันตัวตน (KYC) ที่เข้มงวดตามมาตรฐานสากล การเลือกประเภทบัญชีและแพลตฟอร์มการเทรดที่เหมาะสม ไปจนถึงการฝากเงินเพื่อเริ่มต้นการลงทุนจริง คุณจะได้รับประสบการณ์ที่ราบรื่นและมั่นใจ
สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำความเข้าใจในทุกขั้นตอน และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการยืนยันตัวตน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการปกป้องบัญชีและเงินทุนของคุณ เมื่อบัญชีของคุณพร้อม คุณจะมีโอกาสสำรวจตลาด Forex และ CFD ที่มีความหลากหลาย ซึ่งมาพร้อมกับศักยภาพในการสร้างผลกำไรมหาศาล อย่างไรก็ตาม โปรดจดจำไว้เสมอว่าการลงทุนในตลาดที่มีความผันผวนสูงนั้นมาพร้อมกับความเสี่ยง การศึกษาหาความรู้ การวางแผนกลยุทธ์ที่ดี และการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างมีวินัย จึงเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในระยะยาว ขอให้คุณโชคดีและประสบความสำเร็จในเส้นทางการเป็นเทรดเดอร์กับ RoboForex
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับการเปิดบัญชี RoboForex
- RoboForex น่าเชื่อถือหรือไม่ มีการกำกับดูแลจากหน่วยงานใด? RoboForex เป็นโบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียงและดำเนินงานมาอย่างยาวนาน ได้รับการกำกับดูแลโดยหน่วยงานด้านการเงินที่สำคัญหลายแห่ง เช่น CySEC (Cyprus Securities and Exchange Commission) สำหรับ RoboForex Ltd. และ FSC (Financial Services Commission) ของเบลีซสำหรับ RoboForex Ltd. การมีใบอนุญาตเหล่านี้ยืนยันถึงการปฏิบัติตามมาตรฐานการดำเนินงานที่เข้มงวดและโปร่งใส ซึ่งช่วยสร้างความมั่นใจให้กับเทรดเดอร์ในด้านความปลอดภัยของเงินทุนและการดำเนินงานที่ยุติธรรม
- ต้องใช้เอกสารอะไรบ้างในการยืนยันตัวตนและที่อยู่? ในการยืนยันตัวตน (ID Verification) คุณจะต้องใช้เอกสารราชการที่มีรูปถ่ายและข้อมูลระบุตัวตนที่ชัดเจน เช่น บัตรประชาชน หรือ หนังสือเดินทาง ที่ยังไม่หมดอายุ ส่วนการยืนยันที่อยู่ (Address Verification) คุณสามารถใช้เอกสารที่ระบุชื่อและที่อยู่ของคุณอย่างชัดเจน ซึ่งออกให้ภายใน 3-6 เดือนที่ผ่านมา เช่น ใบแจ้งยอดบัญชีธนาคาร (Bank Statement) หรือบิลค่าสาธารณูปโภค (ค่าน้ำ, ค่าไฟ, ค่าโทรศัพท์, อินเทอร์เน็ต)
- ใช้เวลานานแค่ไหนในการเปิดบัญชีและยืนยันตัวตน? กระบวนการลงทะเบียนพื้นที่สมาชิกใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที ส่วนการยืนยันตัวตนโดยการอัปโหลดเอกสารนั้น เมื่อคุณส่งเอกสารครบถ้วนและถูกต้อง ทีมงานของ RoboForex จะใช้เวลาในการตรวจสอบประมาณ 1–2 วันทำการ (ในบางกรณีอาจเร็วกว่านั้น หากเอกสารมีความชัดเจนและครบถ้วน) คุณจะได้รับการแจ้งเตือนทางอีเมลเมื่อกระบวนการเสร็จสมบูรณ์
- มีค่าธรรมเนียมในการเปิดบัญชีกับ RoboForex หรือไม่? การเปิดบัญชีกับ RoboForex ไม่มีค่าธรรมเนียมใดๆ ทั้งสิ้น คุณสามารถลงทะเบียนและเปิดบัญชีเทรดได้ฟรี อย่างไรก็ตาม อาจมีค่าธรรมเนียมในการฝากหรือถอนเงินผ่านช่องทางบางประเภท ซึ่งคุณสามารถตรวจสอบรายละเอียดได้จากหน้า “การฝาก/ถอนเงิน” ในพื้นที่สมาชิกของคุณ
- หากมีปัญหาในการเปิดบัญชีหรือยืนยันตัวตน ควรทำอย่างไร? หากคุณพบปัญหาหรือมีข้อสงสัยใดๆ ในระหว่างขั้นตอนการเปิดบัญชีหรือยืนยันตัวตน คุณสามารถติดต่อฝ่ายสนับสนุนลูกค้าของ RoboForex ได้ทันที พวกเขามีทีมงานที่พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันทำการ ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น Live Chat, อีเมล หรือโทรศัพท์ เพื่อให้ความช่วยเหลือและคำแนะนำอย่างมืออาชีพ นอกจากนี้ หากคุณสมัครผ่านรหัส Agent ID
okkgคุณยังสามารถติดต่อทีมสนับสนุนของพาร์ทเนอร์เพื่อขอความช่วยเหลือเพิ่มเติมได้อีกด้วย


