TOP 10 บทความยอดนิยม

ดูทั้งหมด
ระบบเทรดสั้น

เทคนิคการเทรดด้วยรูปแท่งเทียน Morning Star

มิถุนายน 22, 2022

กลยุทธ์การเทรด Forex ด้วยรูปแบบแท่งเทียน Morning Star: สัญญาณกลับตัวขาขึ้นที่มีประสิทธิภาพสูง

สำหรับนักลงทุนในตลาด Price Action การวิเคราะห์รูปแบบราคาถือเป็นหัวใจสำคัญในการทำความเข้าใจพฤติกรรมของตลาด รูปแบบแท่งเทียนญี่ปุ่นเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาได้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รูปแบบแท่งเทียน Morning Star ซึ่งเป็นหนึ่งในสัญญาณการกลับตัวของแนวโน้มขาลงที่ได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพสูง บทความนี้จะเจาะลึกถึงหลักการ ทำความเข้าใจโครงสร้าง ความหมาย และวิธีการนำรูปแบบ Morning Star ไปใช้ในการเทรด Forex เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไร

รูปแบบแท่งเทียน Morning Star คืออะไร?

Morning Star คือรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวขาขึ้น (Bullish Reversal Candlestick Pattern) ที่บ่งชี้ถึงการสิ้นสุดของแนวโน้มขาลงและเป็นสัญญาณเริ่มต้นของแนวโน้มขาขึ้น โดยปกติแล้วรูปแบบนี้จะปรากฏขึ้นที่จุดต่ำสุดของแนวโน้มขาลงในตลาด Forex การเรียนรู้และเข้าใจจุดเริ่มต้นของการกลับตัวนี้จะช่วยให้นักเทรดสามารถเข้าสู่ตำแหน่งซื้อ (Long Position) ได้ในจังหวะที่เหมาะสม ซึ่งมีโอกาสในการสร้างอัตราการชนะที่สูง

โครงสร้างของรูปแบบแท่งเทียน Morning Star มาตรฐาน

รูปแบบ Morning Star จะประกอบด้วยแท่งเทียน 3 แท่งที่เรียงต่อกัน โดยแต่ละแท่งมีบทบาทสำคัญในการบอกเล่าเรื่องราวของตลาด ดังนี้:

  • แท่งเทียนที่ 1: แท่งเทียนขาลงที่แข็งแกร่ง (Bearish Candlestick)
    • ลักษณะ: เป็นแท่งเทียนขนาดใหญ่ สีแดง (หรือสีทึบ) บ่งบอกถึงแรงขายที่รุนแรงและแนวโน้มขาลงที่ชัดเจนในวันก่อนหน้า
    • ความหมาย: แสดงให้เห็นว่าผู้ขายยังคงควบคุมตลาดได้อย่างสมบูรณ์ และราคาได้ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง
    • เคล็ดลับ: ยิ่งแท่งเทียนแรกมีขนาดใหญ่เท่าใด แรงกดดันจากการขายก็ยิ่งรุนแรง และการกลับตัวที่ตามมาก็อาจมีความสำคัญมากขึ้นเท่านั้น
  • แท่งเทียนที่ 2: แท่งเทียนพิเศษ (Spinning Top หรือ Doji)
    • ลักษณะ: เป็นแท่งเทียนขนาดเล็ก มีเนื้อเทียนสั้นและมีไส้เทียน (Shadows) ทั้งด้านบนและด้านล่างยาวเท่าๆ กัน หรือเป็น Doji (เนื้อเทียนเป็นเส้นตรง) แท่งเทียนนี้อาจเป็นสีเขียวหรือสีแดงก็ได้
    • ความหมาย: แสดงถึงความลังเลและความไม่แน่นอนของตลาด ผู้ซื้อและผู้ขายต่างกำลังต่อสู้กันอย่างสูสี ไม่มีฝ่ายใดสามารถควบคุมทิศทางราคาได้อย่างชัดเจน การปรากฏของแท่งเทียนนี้หลังจากการปรับตัวลงอย่างรุนแรงเป็นสัญญาณแรกว่าแรงขายเริ่มอ่อนกำลังลง
    • เคล็ดลับ: หากแท่งเทียนที่สองเปิดต่ำกว่าราคาปิดของแท่งแรก (เกิด Gap Down) จะยิ่งเพิ่มความแข็งแกร่งของสัญญาณกลับตัว
  • แท่งเทียนที่ 3: แท่งเทียนขาขึ้นที่แข็งแกร่ง (Bullish Candlestick)
    • ลักษณะ: เป็นแท่งเทียนขนาดใหญ่ สีเขียว (หรือสีโปร่ง) มีความยาวอย่างน้อยครึ่งหนึ่งของแท่งเทียนแรก โดยทั่วไปมักจะปิดสูงกว่าจุดกึ่งกลางของแท่งเทียนแรก
    • ความหมาย: ยืนยันการกลับตัวของแนวโน้ม ผู้ซื้อได้เข้าควบคุมตลาดและผลักดันราคาให้สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แรงซื้อที่แข็งแกร่งนี้ลบล้างแรงขายที่เกิดขึ้นในแท่งแรก
    • เคล็ดลับ: การที่แท่งเทียนที่สามเปิดสูงกว่าแท่งเทียนที่สอง (เกิด Gap Up) และมีปริมาณการซื้อขาย (Volume) สูง จะยิ่งเพิ่มความน่าเชื่อถือของสัญญาณ การกลับตัว

ความหมายและตำแหน่งที่ปรากฏของ Morning Star

นักเทรดมักจะให้ความสนใจอย่างมากกับรูปแบบแท่งเทียน Morning Star เมื่อมันปรากฏขึ้นที่ จุดสิ้นสุดของแนวโน้มขาลงที่ชัดเจน ณ เวลานั้น รูปแบบนี้ถือเป็นสัญญาณเตือนที่สำคัญว่าแรงขายได้หมดลงแล้ว และแรงซื้อกำลังจะเข้ามาแทนที่ ส่งผลให้ราคาเริ่มปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้ง

นอกจากนี้ ในบางกรณี Morning Star อาจปรากฏขึ้นใน แนวโน้มขาขึ้น และทำหน้าที่เป็นสัญญาณความต่อเนื่องของแนวโน้มขาขึ้นนั้น (Continuation Pattern) อย่างไรก็ตาม การตีความหลักของ Morning Star คือสัญญาณกลับตัวขาขึ้น ดังนั้น การปรากฏในแนวโน้มขาขึ้นควรได้รับการพิจารณาด้วยความระมัดระวังและใช้สัญญาณยืนยันอื่น ๆ ประกอบ

Morning Star กับ Bullish Pin Bar: ความเหมือนและความต่าง

เมื่อรวมรูปแบบแท่งเทียน Morning Star ทั้งสามแท่งเข้าด้วยกัน เราอาจมองเห็นลักษณะที่คล้ายคลึงกับ รูปแบบแท่งเทียน Bullish Pin Bar ได้ หากเราพิจารณาแท่งเทียนที่ 1 และแท่งเทียนที่ 3 ว่าเป็นการเคลื่อนไหวของราคาที่รุนแรง และแท่งเทียนที่ 2 เป็นช่วงพักตัวหรือช่วงทดสอบระดับราคาต่ำสุด

ทั้ง Morning Star และ Bullish Pin Bar ต่างเป็นสัญญาณเตือนสำหรับการกลับตัวของตลาดจากขาลงเป็นขาขึ้น (Bearish to Bullish Reversal) อย่างไรก็ตาม Morning Star มีความแม่นยำสูงกว่า Pin Bar แบบเดี่ยว เนื่องจากประกอบด้วยแท่งเทียน 3 แท่งที่ใช้เวลาในการก่อตัวนานกว่า ทำให้สัญญาณที่ได้รับมีความชัดเจนและน่าเชื่อถือมากกว่าการเกิดแท่งเทียน Pin Bar เพียงแท่งเดียวที่อาจเป็นเพียงการพักตัวระยะสั้น

รูปแบบแท่งเทียน Morning Star ที่หลากหลาย (Variant Morning Star)

นอกจากรูปแบบ Morning Star มาตรฐานแล้ว ยังมีรูปแบบ Morning Star ที่หลากหลาย ซึ่งมีความแม่นยำสูงและจัดอยู่ในกลุ่มสัญญาณตลาดกระทิง (Bullish Signals) ที่แข็งแกร่งเช่นกัน รูปแบบเหล่านี้แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับลักษณะของแท่งเทียนที่สอง:

  1. Doji Star (แท่งเทียนอันที่สองคือ Doji)
    • ลักษณะ: แท่งเทียนที่สองเป็น Doji ซึ่งมีราคาเปิดและราคาปิดใกล้เคียงกันมาก บ่งบอกถึงความลังเลอย่างรุนแรงของตลาด
    • ความหมาย: การปรากฏของ Doji หลังจากแท่งเทียนขาลงขนาดใหญ่และตามด้วยแท่งเทียนขาขึ้นขนาดใหญ่ แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของแรงซื้อขายที่ชัดเจนจากแรงขายที่ครอบงำไปสู่ความสมดุลและกลับเป็นแรงซื้อที่ควบคุมตลาด
  2. Pin Bar Star (แท่งเทียนอันที่สองคือ Pin Bar)
    • ลักษณะ: แท่งเทียนที่สองเป็น Pin Bar โดยมีไส้เทียนล่างยาวเป็นพิเศษ บ่งบอกถึงการปฏิเสธราคาต่ำสุดอย่างรุนแรง
    • ความหมาย: Pin Bar ในตำแหน่งนี้แสดงให้เห็นว่าผู้ขายพยายามผลักดันราคาลงไป แต่ผู้ซื้อสามารถผลักดันราคากลับขึ้นมาได้สำเร็จ บ่งชี้ถึงแรงซื้อที่เริ่มเข้ามาอย่างมีนัยสำคัญ
  3. Abandoned Baby (เมื่อมีช่องว่างปรากฏขึ้น)
    • ลักษณะ: เป็นรูปแบบที่หายากที่สุดและมีความแม่นยำสูงมาก โดยแท่งเทียนที่สอง (ซึ่งมักจะเป็น Doji) จะเปิดและปิดโดยมีช่องว่าง (Gap) แยกจากแท่งเทียนแรกและแท่งเทียนที่สาม
    • ความหมาย: ช่องว่างที่เกิดขึ้นบ่งชี้ถึงความรุนแรงของการเปลี่ยนแปลง Sentiment ของตลาด จากขาลงอย่างรุนแรง (Gap Down) ไปสู่การลังเล และกลับเป็นขาขึ้นอย่างรุนแรง (Gap Up) รูปแบบนี้เป็นสัญญาณกลับตัวที่ทรงพลังมาก

วิธีเทรดและชนะ Forex ด้วยรูปแบบแท่งเทียน Morning Star

การนำรูปแบบ Morning Star ไปใช้ในการเทรด Forex ให้ประสบความสำเร็จนั้น ต้องอาศัยการวางแผนกลยุทธ์ที่ชัดเจนและการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม ควรเริ่มต้นด้วยการฝึกฝนใน บัญชีทดลอง (Demo Account) ก่อนที่จะนำไปใช้ในบัญชีจริงเสมอ ด้านล่างนี้คือ 2 กลยุทธ์การซื้อขายพื้นฐานที่คุณสามารถนำไปใช้เพื่อตรวจสอบความน่าเชื่อถือของ Morning Star ได้:

กลยุทธ์ 1: วางคำสั่งซื้อที่ด้านล่างสุดด้วย Morning Star (Bottom Reversal Strategy)

กลยุทธ์นี้มุ่งเน้นการเข้าซื้อเมื่อรูปแบบ Morning Star ปรากฏขึ้นที่จุดต่ำสุดของแนวโน้มขาลง เพื่อจับจังหวะการกลับตัวของราคา:

  • จุดเริ่มต้น (Entry Point):
    • เมื่อใด: ทันทีที่แท่งเทียนที่สามของรูปแบบ Morning Star ปิดตัวลง หรือเมื่อราคาทะลุผ่านจุดสูงสุดของแท่งเทียนที่สอง
    • ทำไม: การปิดของแท่งเทียนที่สามยืนยันการกลับตัวของแรงซื้อ การเข้าทันทีที่รูปแบบสมบูรณ์จะช่วยให้เข้าซื้อได้ในราคาที่ใกล้เคียงกับจุดกลับตัวมากที่สุด
    • ตัวอย่าง: หากแท่งเทียนที่สามเป็นแท่งเขียวขนาดใหญ่ปิดตัวขึ้น เราจะเปิดออเดอร์ Buy ทันทีที่แท่งนั้นปิด
  • จุดตัดขาดทุน (Stop-Loss):
    • เมื่อใด: ตั้ง Stop-Loss ไว้ที่ระดับราคาต่ำสุดของรูปแบบ Morning Star (โดยปกติคือจุดต่ำสุดของแท่งเทียนที่สอง)
    • ทำไม: การตั้ง Stop-Loss ณ จุดนี้เป็นสิ่งสำคัญเพื่อจำกัดความเสี่ยง หากราคาทะลุต่ำกว่าจุดนี้ แสดงว่าสัญญาณกลับตัวไม่ถูกต้อง และแนวโน้มขาลงอาจดำเนินต่อไป
    • ตัวอย่าง: หากแท่งเทียนที่สองมีราคาต่ำสุดอยู่ที่ 1.2000 เราจะตั้ง Stop-Loss ที่ 1.1990 หรือต่ำกว่าเล็กน้อย
  • จุดทำกำไร (Take-Profit):
    • เมื่อใด: กำหนด Take-Profit เมื่อราคาแตะระดับ แนวต้าน เก่าที่เคยเกิดขึ้นในอดีต (Previous Resistance Levels) หรือใช้เครื่องมือ Fibonacci Retracement เพื่อหาเป้าหมายราคาที่เป็นไปได้
    • ทำไม: ระดับแนวต้านในอดีตมักจะทำหน้าที่เป็นอุปสรรคต่อการขึ้นของราคา การทำกำไรที่จุดเหล่านี้จะช่วยให้รักษากำไรที่ได้มา
    • ตัวอย่าง: หากมีแนวต้านสำคัญที่ 1.2500 เราสามารถตั้ง Take-Profit ที่ระดับนั้น หรือใช้หลักการ Risk-Reward Ratio เช่น 1:2 หรือ 1:3

กลยุทธ์ 2: เทรดตามเทรนด์อย่างมีประสิทธิภาพกับ Morning Star (Trend Continuation Strategy)

แม้ว่า Morning Star จะเป็นสัญญาณกลับตัวหลัก แต่ก็สามารถใช้เป็นสัญญาณยืนยันความต่อเนื่องของแนวโน้มขาขึ้นได้เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อราคามีการพักฐานเล็กน้อยในระหว่างแนวโน้มขาขึ้นแล้วเกิดรูปแบบ Morning Star ขึ้นอีกครั้ง:

  • จุดเริ่มต้น (Entry Point):
    • เมื่อใด: เปิดคำสั่งซื้อทันทีที่ราคาปิดของแท่งเทียนที่สามของ Morning Star หรือเมื่อราคาทะลุผ่านจุดสูงสุดของแท่งเทียนที่สองในรูปแบบ Morning Star ที่ปรากฏขึ้นในขณะที่แนวโน้มโดยรวมยังคงเป็นขาขึ้น
    • ทำไม: การปรากฏของ Morning Star ในแนวโน้มขาขึ้น แสดงถึงการพักตัวระยะสั้นและการกลับมาของแรงซื้อที่แข็งแกร่ง ซึ่งเป็นสัญญาณยืนยันความต่อเนื่องของแนวโน้ม
    • ตัวอย่าง: หากเราเห็นราคาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นแล้วมีการย่อตัวลงเล็กน้อย และเกิด Morning Star เราจะเข้า Buy เมื่อแท่งที่สามปิด
  • จุดตัดขาดทุน (Stop-Loss):
    • เมื่อใด: ตั้ง Stop-Loss ที่เงา (Shadow) ของแท่งเทียนที่มีหางยาวที่สุดในรูปแบบ Morning Star (ซึ่งมักจะเป็นแท่งเทียนที่สอง) หรือต่ำกว่าจุดต่ำสุดของรูปแบบเล็กน้อย
    • ทำไม: การตั้ง Stop-Loss บริเวณนี้จะช่วยป้องกันความเสียหายหากการย่อตัวนั้นไม่ใช่แค่การพักฐาน แต่เป็นการกลับตัวของแนวโน้มอย่างแท้จริง
    • ตัวอย่าง: หากแท่งเทียนที่สองมีไส้เทียนล่างยาวมากไปถึง 1.2100 เราจะตั้ง Stop-Loss ที่ 1.2090
  • จุดทำกำไร (Take-Profit):
    • เมื่อใด: กำหนด Take-Profit เมื่อราคาแตะระดับแนวต้านเก่าที่ก่อตัวขึ้นในอดีต หรือใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่น ๆ เช่น Fibonacci Extension เพื่อหาเป้าหมายราคาที่สูงขึ้น
    • ทำไม: ในกลยุทธ์ตามเทรนด์ เป้าหมายกำไรมักจะสูงกว่าการเทรดแบบกลับตัว เนื่องจากเราคาดการณ์ว่าแนวโน้มจะดำเนินต่อไป
    • ตัวอย่าง: หากราคาทำ New High ได้เรื่อยๆ เราอาจใช้ Fibonacci Extension เพื่อหาเป้าหมายราคาถัดไปที่ 1.2800 หรือ 1.3000

ข้อควรระวัง: การเทรดด้วยรูปแบบแท่งเทียน Morning Star ควรใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เช่น แนวรับแนวต้าน, เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages), RSI หรือ MACD เพื่อเพิ่มความแม่นยำของสัญญาณและลดความเสี่ยงในการเทรด

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับรูปแบบแท่งเทียน Morning Star

คำถาม (Question) คำตอบ (Answer)
รูปแบบแท่งเทียน Morning Star คืออะไร? Morning Star คือรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวขาขึ้น (Bullish Reversal Candlestick Pattern) ที่ประกอบด้วยแท่งเทียน 3 แท่ง โดยบ่งชี้ถึงการสิ้นสุดของแนวโน้มขาลงและเป็นสัญญาณเริ่มต้นของแนวโน้มขาขึ้น
Morning Star ประกอบด้วยแท่งเทียนอะไรบ้าง? ประกอบด้วย 3 แท่ง ได้แก่: (1) แท่งเทียนขาลงขนาดใหญ่, (2) แท่งเทียนขนาดเล็ก (Spinning Top หรือ Doji) ซึ่งแสดงถึงความลังเล, และ (3) แท่งเทียนขาขึ้นขนาดใหญ่ที่ยืนยันการกลับตัว
ความน่าเชื่อถือของ Morning Star สูงแค่ไหน? Morning Star ถือเป็นหนึ่งในรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวที่มีความน่าเชื่อถือสูง โดยเฉพาะเมื่อปรากฏที่แนวรับสำคัญหรือหลังจากแนวโน้มขาลงที่ยาวนาน การยืนยันด้วย Volume ที่เพิ่มขึ้นในแท่งที่สามจะยิ่งเพิ่มความน่าเชื่อถือ
ควรใช้ Morning Star เพียงอย่างเดียวในการเทรดหรือไม่? ไม่ควร การใช้ Morning Star เพียงอย่างเดียวอาจทำให้เกิดสัญญาณหลอกได้ ควรใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่น ๆ เช่น แนวรับแนวต้าน, อินดิเคเตอร์ (RSI, MACD) หรือพิจารณาจาก Timeframe ที่ใหญ่ขึ้น เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจ
รูปแบบ Morning Star ที่หลากหลายมีอะไรบ้าง? Morning Star ที่หลากหลาย ได้แก่ Doji Star (แท่งกลางเป็น Doji), Pin Bar Star (แท่งกลางเป็น Pin Bar), และ Abandoned Baby (แท่งกลางเกิด Gap แยกจากแท่งอื่น ๆ) ซึ่งรูปแบบ Abandoned Baby เป็นรูปแบบที่หายากและแม่นยำที่สุด

สรุป

รูปแบบแท่งเทียน Morning Star เป็นเครื่องมืออันทรงพลังที่นักเทรดที่มีประสบการณ์จำนวนมากใช้เป็นสัญญาณการกลับตัวที่สำคัญในการกำหนด แนวโน้ม ของตลาด การทำความเข้าใจโครงสร้าง ความหมาย และวิธีการนำไปใช้ในกลยุทธ์การเทรดอย่างถูกต้อง สามารถเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้อย่างมีนัยสำคัญ

สิ่งสำคัญคือการฝึกฝนและทดสอบกลยุทธ์ใน บัญชีทดลอง Forex เพื่อให้คุ้นเคยกับรูปแบบและเรียนรู้การใช้งานร่วมกับสัญญาณทางเทคนิคอื่นๆ เพื่อเพิ่มความแม่นยำและลดความเสี่ยง การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจเงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุนเสมอ

หากคุณสนใจ ระบบเทรดอัตโนมัติ (EA) หรือต้องการเข้ากลุ่ม Line VIP เพื่อรับ EA และ Indicator ฟรี คุณสามารถสมัครเปิดพอร์ตกับโบรกเกอร์ที่เราแนะนำด้านล่างนี้:

  • XM – คุณภาพอันดับหนึ่งตลอดสิบปีในไทย: https://bit.ly/XmFree30USD
  • Mtrading – สเปรดเริ่มต้นที่ 0 pip ค่าคอมต่ำ: https://bit.ly/MTRatsamee
  • Exness – โบรกเกอร์ที่ฝากและถอนเร็วที่สุด: https://bit.ly/ExnessCom

เมื่อสมัครเสร็จแล้ว โปรดส่งเลข MT4 ไปที่ Line Id: @ft.th เพื่อขอรับ EA ฟรี! คุณยังสามารถติดตามข่าวสารและพูดคุยเพิ่มเติมได้ที่:

You Might Also Like

Contact Us on Line