กลยุทธ์การเทรด Forex ด้วยรูปแบบแท่งเทียน Morning Star: สัญญาณกลับตัวขาขึ้นที่มีประสิทธิภาพสูง
สำหรับนักลงทุนในตลาด Price Action การวิเคราะห์รูปแบบราคาถือเป็นหัวใจสำคัญในการทำความเข้าใจพฤติกรรมของตลาด รูปแบบแท่งเทียนญี่ปุ่นเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาได้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รูปแบบแท่งเทียน Morning Star ซึ่งเป็นหนึ่งในสัญญาณการกลับตัวของแนวโน้มขาลงที่ได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพสูง บทความนี้จะเจาะลึกถึงหลักการ ทำความเข้าใจโครงสร้าง ความหมาย และวิธีการนำรูปแบบ Morning Star ไปใช้ในการเทรด Forex เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไร
รูปแบบแท่งเทียน Morning Star คืออะไร?
Morning Star คือรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวขาขึ้น (Bullish Reversal Candlestick Pattern) ที่บ่งชี้ถึงการสิ้นสุดของแนวโน้มขาลงและเป็นสัญญาณเริ่มต้นของแนวโน้มขาขึ้น โดยปกติแล้วรูปแบบนี้จะปรากฏขึ้นที่จุดต่ำสุดของแนวโน้มขาลงในตลาด Forex การเรียนรู้และเข้าใจจุดเริ่มต้นของการกลับตัวนี้จะช่วยให้นักเทรดสามารถเข้าสู่ตำแหน่งซื้อ (Long Position) ได้ในจังหวะที่เหมาะสม ซึ่งมีโอกาสในการสร้างอัตราการชนะที่สูง

โครงสร้างของรูปแบบแท่งเทียน Morning Star มาตรฐาน
รูปแบบ Morning Star จะประกอบด้วยแท่งเทียน 3 แท่งที่เรียงต่อกัน โดยแต่ละแท่งมีบทบาทสำคัญในการบอกเล่าเรื่องราวของตลาด ดังนี้:
- แท่งเทียนที่ 1: แท่งเทียนขาลงที่แข็งแกร่ง (Bearish Candlestick)
- ลักษณะ: เป็นแท่งเทียนขนาดใหญ่ สีแดง (หรือสีทึบ) บ่งบอกถึงแรงขายที่รุนแรงและแนวโน้มขาลงที่ชัดเจนในวันก่อนหน้า
- ความหมาย: แสดงให้เห็นว่าผู้ขายยังคงควบคุมตลาดได้อย่างสมบูรณ์ และราคาได้ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง
- เคล็ดลับ: ยิ่งแท่งเทียนแรกมีขนาดใหญ่เท่าใด แรงกดดันจากการขายก็ยิ่งรุนแรง และการกลับตัวที่ตามมาก็อาจมีความสำคัญมากขึ้นเท่านั้น
- แท่งเทียนที่ 2: แท่งเทียนพิเศษ (Spinning Top หรือ Doji)
- ลักษณะ: เป็นแท่งเทียนขนาดเล็ก มีเนื้อเทียนสั้นและมีไส้เทียน (Shadows) ทั้งด้านบนและด้านล่างยาวเท่าๆ กัน หรือเป็น Doji (เนื้อเทียนเป็นเส้นตรง) แท่งเทียนนี้อาจเป็นสีเขียวหรือสีแดงก็ได้
- ความหมาย: แสดงถึงความลังเลและความไม่แน่นอนของตลาด ผู้ซื้อและผู้ขายต่างกำลังต่อสู้กันอย่างสูสี ไม่มีฝ่ายใดสามารถควบคุมทิศทางราคาได้อย่างชัดเจน การปรากฏของแท่งเทียนนี้หลังจากการปรับตัวลงอย่างรุนแรงเป็นสัญญาณแรกว่าแรงขายเริ่มอ่อนกำลังลง
- เคล็ดลับ: หากแท่งเทียนที่สองเปิดต่ำกว่าราคาปิดของแท่งแรก (เกิด Gap Down) จะยิ่งเพิ่มความแข็งแกร่งของสัญญาณกลับตัว
- แท่งเทียนที่ 3: แท่งเทียนขาขึ้นที่แข็งแกร่ง (Bullish Candlestick)
- ลักษณะ: เป็นแท่งเทียนขนาดใหญ่ สีเขียว (หรือสีโปร่ง) มีความยาวอย่างน้อยครึ่งหนึ่งของแท่งเทียนแรก โดยทั่วไปมักจะปิดสูงกว่าจุดกึ่งกลางของแท่งเทียนแรก
- ความหมาย: ยืนยันการกลับตัวของแนวโน้ม ผู้ซื้อได้เข้าควบคุมตลาดและผลักดันราคาให้สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แรงซื้อที่แข็งแกร่งนี้ลบล้างแรงขายที่เกิดขึ้นในแท่งแรก
- เคล็ดลับ: การที่แท่งเทียนที่สามเปิดสูงกว่าแท่งเทียนที่สอง (เกิด Gap Up) และมีปริมาณการซื้อขาย (Volume) สูง จะยิ่งเพิ่มความน่าเชื่อถือของสัญญาณ การกลับตัว
ความหมายและตำแหน่งที่ปรากฏของ Morning Star
นักเทรดมักจะให้ความสนใจอย่างมากกับรูปแบบแท่งเทียน Morning Star เมื่อมันปรากฏขึ้นที่ จุดสิ้นสุดของแนวโน้มขาลงที่ชัดเจน ณ เวลานั้น รูปแบบนี้ถือเป็นสัญญาณเตือนที่สำคัญว่าแรงขายได้หมดลงแล้ว และแรงซื้อกำลังจะเข้ามาแทนที่ ส่งผลให้ราคาเริ่มปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้ง

นอกจากนี้ ในบางกรณี Morning Star อาจปรากฏขึ้นใน แนวโน้มขาขึ้น และทำหน้าที่เป็นสัญญาณความต่อเนื่องของแนวโน้มขาขึ้นนั้น (Continuation Pattern) อย่างไรก็ตาม การตีความหลักของ Morning Star คือสัญญาณกลับตัวขาขึ้น ดังนั้น การปรากฏในแนวโน้มขาขึ้นควรได้รับการพิจารณาด้วยความระมัดระวังและใช้สัญญาณยืนยันอื่น ๆ ประกอบ
Morning Star กับ Bullish Pin Bar: ความเหมือนและความต่าง
เมื่อรวมรูปแบบแท่งเทียน Morning Star ทั้งสามแท่งเข้าด้วยกัน เราอาจมองเห็นลักษณะที่คล้ายคลึงกับ รูปแบบแท่งเทียน Bullish Pin Bar ได้ หากเราพิจารณาแท่งเทียนที่ 1 และแท่งเทียนที่ 3 ว่าเป็นการเคลื่อนไหวของราคาที่รุนแรง และแท่งเทียนที่ 2 เป็นช่วงพักตัวหรือช่วงทดสอบระดับราคาต่ำสุด

ทั้ง Morning Star และ Bullish Pin Bar ต่างเป็นสัญญาณเตือนสำหรับการกลับตัวของตลาดจากขาลงเป็นขาขึ้น (Bearish to Bullish Reversal) อย่างไรก็ตาม Morning Star มีความแม่นยำสูงกว่า Pin Bar แบบเดี่ยว เนื่องจากประกอบด้วยแท่งเทียน 3 แท่งที่ใช้เวลาในการก่อตัวนานกว่า ทำให้สัญญาณที่ได้รับมีความชัดเจนและน่าเชื่อถือมากกว่าการเกิดแท่งเทียน Pin Bar เพียงแท่งเดียวที่อาจเป็นเพียงการพักตัวระยะสั้น
รูปแบบแท่งเทียน Morning Star ที่หลากหลาย (Variant Morning Star)
นอกจากรูปแบบ Morning Star มาตรฐานแล้ว ยังมีรูปแบบ Morning Star ที่หลากหลาย ซึ่งมีความแม่นยำสูงและจัดอยู่ในกลุ่มสัญญาณตลาดกระทิง (Bullish Signals) ที่แข็งแกร่งเช่นกัน รูปแบบเหล่านี้แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับลักษณะของแท่งเทียนที่สอง:

- Doji Star (แท่งเทียนอันที่สองคือ Doji)
- ลักษณะ: แท่งเทียนที่สองเป็น Doji ซึ่งมีราคาเปิดและราคาปิดใกล้เคียงกันมาก บ่งบอกถึงความลังเลอย่างรุนแรงของตลาด
- ความหมาย: การปรากฏของ Doji หลังจากแท่งเทียนขาลงขนาดใหญ่และตามด้วยแท่งเทียนขาขึ้นขนาดใหญ่ แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของแรงซื้อขายที่ชัดเจนจากแรงขายที่ครอบงำไปสู่ความสมดุลและกลับเป็นแรงซื้อที่ควบคุมตลาด
- Pin Bar Star (แท่งเทียนอันที่สองคือ Pin Bar)
- ลักษณะ: แท่งเทียนที่สองเป็น Pin Bar โดยมีไส้เทียนล่างยาวเป็นพิเศษ บ่งบอกถึงการปฏิเสธราคาต่ำสุดอย่างรุนแรง
- ความหมาย: Pin Bar ในตำแหน่งนี้แสดงให้เห็นว่าผู้ขายพยายามผลักดันราคาลงไป แต่ผู้ซื้อสามารถผลักดันราคากลับขึ้นมาได้สำเร็จ บ่งชี้ถึงแรงซื้อที่เริ่มเข้ามาอย่างมีนัยสำคัญ
- Abandoned Baby (เมื่อมีช่องว่างปรากฏขึ้น)
- ลักษณะ: เป็นรูปแบบที่หายากที่สุดและมีความแม่นยำสูงมาก โดยแท่งเทียนที่สอง (ซึ่งมักจะเป็น Doji) จะเปิดและปิดโดยมีช่องว่าง (Gap) แยกจากแท่งเทียนแรกและแท่งเทียนที่สาม
- ความหมาย: ช่องว่างที่เกิดขึ้นบ่งชี้ถึงความรุนแรงของการเปลี่ยนแปลง Sentiment ของตลาด จากขาลงอย่างรุนแรง (Gap Down) ไปสู่การลังเล และกลับเป็นขาขึ้นอย่างรุนแรง (Gap Up) รูปแบบนี้เป็นสัญญาณกลับตัวที่ทรงพลังมาก
วิธีเทรดและชนะ Forex ด้วยรูปแบบแท่งเทียน Morning Star
การนำรูปแบบ Morning Star ไปใช้ในการเทรด Forex ให้ประสบความสำเร็จนั้น ต้องอาศัยการวางแผนกลยุทธ์ที่ชัดเจนและการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม ควรเริ่มต้นด้วยการฝึกฝนใน บัญชีทดลอง (Demo Account) ก่อนที่จะนำไปใช้ในบัญชีจริงเสมอ ด้านล่างนี้คือ 2 กลยุทธ์การซื้อขายพื้นฐานที่คุณสามารถนำไปใช้เพื่อตรวจสอบความน่าเชื่อถือของ Morning Star ได้:
กลยุทธ์ 1: วางคำสั่งซื้อที่ด้านล่างสุดด้วย Morning Star (Bottom Reversal Strategy)
กลยุทธ์นี้มุ่งเน้นการเข้าซื้อเมื่อรูปแบบ Morning Star ปรากฏขึ้นที่จุดต่ำสุดของแนวโน้มขาลง เพื่อจับจังหวะการกลับตัวของราคา:

- จุดเริ่มต้น (Entry Point):
- เมื่อใด: ทันทีที่แท่งเทียนที่สามของรูปแบบ Morning Star ปิดตัวลง หรือเมื่อราคาทะลุผ่านจุดสูงสุดของแท่งเทียนที่สอง
- ทำไม: การปิดของแท่งเทียนที่สามยืนยันการกลับตัวของแรงซื้อ การเข้าทันทีที่รูปแบบสมบูรณ์จะช่วยให้เข้าซื้อได้ในราคาที่ใกล้เคียงกับจุดกลับตัวมากที่สุด
- ตัวอย่าง: หากแท่งเทียนที่สามเป็นแท่งเขียวขนาดใหญ่ปิดตัวขึ้น เราจะเปิดออเดอร์ Buy ทันทีที่แท่งนั้นปิด
- จุดตัดขาดทุน (Stop-Loss):
- เมื่อใด: ตั้ง Stop-Loss ไว้ที่ระดับราคาต่ำสุดของรูปแบบ Morning Star (โดยปกติคือจุดต่ำสุดของแท่งเทียนที่สอง)
- ทำไม: การตั้ง Stop-Loss ณ จุดนี้เป็นสิ่งสำคัญเพื่อจำกัดความเสี่ยง หากราคาทะลุต่ำกว่าจุดนี้ แสดงว่าสัญญาณกลับตัวไม่ถูกต้อง และแนวโน้มขาลงอาจดำเนินต่อไป
- ตัวอย่าง: หากแท่งเทียนที่สองมีราคาต่ำสุดอยู่ที่ 1.2000 เราจะตั้ง Stop-Loss ที่ 1.1990 หรือต่ำกว่าเล็กน้อย
- จุดทำกำไร (Take-Profit):
- เมื่อใด: กำหนด Take-Profit เมื่อราคาแตะระดับ แนวต้าน เก่าที่เคยเกิดขึ้นในอดีต (Previous Resistance Levels) หรือใช้เครื่องมือ Fibonacci Retracement เพื่อหาเป้าหมายราคาที่เป็นไปได้
- ทำไม: ระดับแนวต้านในอดีตมักจะทำหน้าที่เป็นอุปสรรคต่อการขึ้นของราคา การทำกำไรที่จุดเหล่านี้จะช่วยให้รักษากำไรที่ได้มา
- ตัวอย่าง: หากมีแนวต้านสำคัญที่ 1.2500 เราสามารถตั้ง Take-Profit ที่ระดับนั้น หรือใช้หลักการ Risk-Reward Ratio เช่น 1:2 หรือ 1:3
กลยุทธ์ 2: เทรดตามเทรนด์อย่างมีประสิทธิภาพกับ Morning Star (Trend Continuation Strategy)
แม้ว่า Morning Star จะเป็นสัญญาณกลับตัวหลัก แต่ก็สามารถใช้เป็นสัญญาณยืนยันความต่อเนื่องของแนวโน้มขาขึ้นได้เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อราคามีการพักฐานเล็กน้อยในระหว่างแนวโน้มขาขึ้นแล้วเกิดรูปแบบ Morning Star ขึ้นอีกครั้ง:

- จุดเริ่มต้น (Entry Point):
- เมื่อใด: เปิดคำสั่งซื้อทันทีที่ราคาปิดของแท่งเทียนที่สามของ Morning Star หรือเมื่อราคาทะลุผ่านจุดสูงสุดของแท่งเทียนที่สองในรูปแบบ Morning Star ที่ปรากฏขึ้นในขณะที่แนวโน้มโดยรวมยังคงเป็นขาขึ้น
- ทำไม: การปรากฏของ Morning Star ในแนวโน้มขาขึ้น แสดงถึงการพักตัวระยะสั้นและการกลับมาของแรงซื้อที่แข็งแกร่ง ซึ่งเป็นสัญญาณยืนยันความต่อเนื่องของแนวโน้ม
- ตัวอย่าง: หากเราเห็นราคาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นแล้วมีการย่อตัวลงเล็กน้อย และเกิด Morning Star เราจะเข้า Buy เมื่อแท่งที่สามปิด
- จุดตัดขาดทุน (Stop-Loss):
- เมื่อใด: ตั้ง Stop-Loss ที่เงา (Shadow) ของแท่งเทียนที่มีหางยาวที่สุดในรูปแบบ Morning Star (ซึ่งมักจะเป็นแท่งเทียนที่สอง) หรือต่ำกว่าจุดต่ำสุดของรูปแบบเล็กน้อย
- ทำไม: การตั้ง Stop-Loss บริเวณนี้จะช่วยป้องกันความเสียหายหากการย่อตัวนั้นไม่ใช่แค่การพักฐาน แต่เป็นการกลับตัวของแนวโน้มอย่างแท้จริง
- ตัวอย่าง: หากแท่งเทียนที่สองมีไส้เทียนล่างยาวมากไปถึง 1.2100 เราจะตั้ง Stop-Loss ที่ 1.2090
- จุดทำกำไร (Take-Profit):
- เมื่อใด: กำหนด Take-Profit เมื่อราคาแตะระดับแนวต้านเก่าที่ก่อตัวขึ้นในอดีต หรือใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่น ๆ เช่น Fibonacci Extension เพื่อหาเป้าหมายราคาที่สูงขึ้น
- ทำไม: ในกลยุทธ์ตามเทรนด์ เป้าหมายกำไรมักจะสูงกว่าการเทรดแบบกลับตัว เนื่องจากเราคาดการณ์ว่าแนวโน้มจะดำเนินต่อไป
- ตัวอย่าง: หากราคาทำ New High ได้เรื่อยๆ เราอาจใช้ Fibonacci Extension เพื่อหาเป้าหมายราคาถัดไปที่ 1.2800 หรือ 1.3000
ข้อควรระวัง: การเทรดด้วยรูปแบบแท่งเทียน Morning Star ควรใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เช่น แนวรับแนวต้าน, เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages), RSI หรือ MACD เพื่อเพิ่มความแม่นยำของสัญญาณและลดความเสี่ยงในการเทรด
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับรูปแบบแท่งเทียน Morning Star
| คำถาม (Question) | คำตอบ (Answer) |
|---|---|
| รูปแบบแท่งเทียน Morning Star คืออะไร? | Morning Star คือรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวขาขึ้น (Bullish Reversal Candlestick Pattern) ที่ประกอบด้วยแท่งเทียน 3 แท่ง โดยบ่งชี้ถึงการสิ้นสุดของแนวโน้มขาลงและเป็นสัญญาณเริ่มต้นของแนวโน้มขาขึ้น |
| Morning Star ประกอบด้วยแท่งเทียนอะไรบ้าง? | ประกอบด้วย 3 แท่ง ได้แก่: (1) แท่งเทียนขาลงขนาดใหญ่, (2) แท่งเทียนขนาดเล็ก (Spinning Top หรือ Doji) ซึ่งแสดงถึงความลังเล, และ (3) แท่งเทียนขาขึ้นขนาดใหญ่ที่ยืนยันการกลับตัว |
| ความน่าเชื่อถือของ Morning Star สูงแค่ไหน? | Morning Star ถือเป็นหนึ่งในรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวที่มีความน่าเชื่อถือสูง โดยเฉพาะเมื่อปรากฏที่แนวรับสำคัญหรือหลังจากแนวโน้มขาลงที่ยาวนาน การยืนยันด้วย Volume ที่เพิ่มขึ้นในแท่งที่สามจะยิ่งเพิ่มความน่าเชื่อถือ |
| ควรใช้ Morning Star เพียงอย่างเดียวในการเทรดหรือไม่? | ไม่ควร การใช้ Morning Star เพียงอย่างเดียวอาจทำให้เกิดสัญญาณหลอกได้ ควรใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่น ๆ เช่น แนวรับแนวต้าน, อินดิเคเตอร์ (RSI, MACD) หรือพิจารณาจาก Timeframe ที่ใหญ่ขึ้น เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจ |
| รูปแบบ Morning Star ที่หลากหลายมีอะไรบ้าง? | Morning Star ที่หลากหลาย ได้แก่ Doji Star (แท่งกลางเป็น Doji), Pin Bar Star (แท่งกลางเป็น Pin Bar), และ Abandoned Baby (แท่งกลางเกิด Gap แยกจากแท่งอื่น ๆ) ซึ่งรูปแบบ Abandoned Baby เป็นรูปแบบที่หายากและแม่นยำที่สุด |
สรุป
รูปแบบแท่งเทียน Morning Star เป็นเครื่องมืออันทรงพลังที่นักเทรดที่มีประสบการณ์จำนวนมากใช้เป็นสัญญาณการกลับตัวที่สำคัญในการกำหนด แนวโน้ม ของตลาด การทำความเข้าใจโครงสร้าง ความหมาย และวิธีการนำไปใช้ในกลยุทธ์การเทรดอย่างถูกต้อง สามารถเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้อย่างมีนัยสำคัญ
สิ่งสำคัญคือการฝึกฝนและทดสอบกลยุทธ์ใน บัญชีทดลอง Forex เพื่อให้คุ้นเคยกับรูปแบบและเรียนรู้การใช้งานร่วมกับสัญญาณทางเทคนิคอื่นๆ เพื่อเพิ่มความแม่นยำและลดความเสี่ยง การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจเงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุนเสมอ
หากคุณสนใจ ระบบเทรดอัตโนมัติ (EA) หรือต้องการเข้ากลุ่ม Line VIP เพื่อรับ EA และ Indicator ฟรี คุณสามารถสมัครเปิดพอร์ตกับโบรกเกอร์ที่เราแนะนำด้านล่างนี้:
- XM – คุณภาพอันดับหนึ่งตลอดสิบปีในไทย: https://bit.ly/XmFree30USD
- Mtrading – สเปรดเริ่มต้นที่ 0 pip ค่าคอมต่ำ: https://bit.ly/MTRatsamee
- Exness – โบรกเกอร์ที่ฝากและถอนเร็วที่สุด: https://bit.ly/ExnessCom
เมื่อสมัครเสร็จแล้ว โปรดส่งเลข MT4 ไปที่ Line Id: @ft.th เพื่อขอรับ EA ฟรี! คุณยังสามารถติดตามข่าวสารและพูดคุยเพิ่มเติมได้ที่:
- Line Id: @ft.th
- Facebook: https://fb.com/ForexTipsThailand
- กลุ่มพูดคุย: เทรดฟอเร็กซ์ให้ได้กำไรอย่างยั่งยืน


