TOP 10 บทความยอดนิยม

ดูทั้งหมด
ระบบเทรดสั้น

รูปแบบ Inside bar

ตุลาคม 13, 2022

Inside Bar: กลยุทธ์แท่งเทียนทรงพลังที่เทรดเดอร์มืออาชีพเลือกใช้

รูปแบบ Inside Bar

ในโลกของการเทรด Forex และตลาดการเงินอื่น ๆ การอ่านสัญญาณจากกราฟแท่งเทียนเป็นทักษะที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับเทรดเดอร์ การทำความเข้าใจรูปแบบแท่งเทียนต่างๆ สามารถช่วยให้เราคาดการณ์ทิศทางราคาและวางแผนการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น หนึ่งในรูปแบบแท่งเทียนที่ได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพสูงคือ “Inside Bar” ซึ่งเป็นสัญญาณ Price Action ที่เทรดเดอร์มืออาชีพหลายท่านเลือกใช้ในการตัดสินใจเทรด

Inside Bar คืออะไร? ทำไมจึงเป็นที่นิยม?

Inside Bar คือรูปแบบแท่งเทียนที่ประกอบด้วยแท่งเทียนอย่างน้อยสองแท่ง โดยมีลักษณะสำคัญคือ แท่งเทียนที่สอง (หรือแท่งถัดๆ ไป) มีขนาดเล็กกว่าและอยู่ภายในช่วงราคาของแท่งเทียนแรกทั้งหมด ทั้งในส่วนของราคาเปิด, ราคาปิด, ราคาสูงสุด และราคาต่ำสุด

องค์ประกอบของ Inside Bar

  • Mother Bar (แท่งแม่): คือแท่งเทียนแรกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในรูปแบบ Inside Bar เป็นแท่งที่กำหนดกรอบราคาสำหรับแท่งเทียนถัดไป
  • Inside Bar (แท่งลูก): คือแท่งเทียนที่สอง (หรือหลายแท่ง) ที่มีช่วงราคาสูงสุดและต่ำสุดอยู่ภายในช่วงของ Mother Bar ทั้งหมด

เหตุผลที่ Inside Bar ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในหมู่เทรดเดอร์สาย Price Action เนื่องมาจากศักยภาพในการทำกำไรที่สูง และอัตราส่วนผลตอบแทนต่อความเสี่ยง (Risk-Reward Ratio) ที่ดีเยี่ยม โดยมีช่วง Stop Loss ที่ค่อนข้างสั้นเมื่อเทียบกับรูปแบบกราฟอื่นๆ ทำให้การบริหารจัดการความเสี่ยงเป็นไปได้ง่ายขึ้น

กฎการเกิด Inside Bar ที่ต้องทำความเข้าใจ

การระบุรูปแบบ Inside Bar ที่ถูกต้องตามหลักการเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อหลีกเลี่ยงสัญญาณหลอกที่อาจนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาด กฎเกณฑ์พื้นฐานมีดังนี้:

  1. ไม่จำกัดสีแท่งเทียน: สีของแท่งเทียน Mother Bar และ Inside Bar ไม่มีผลต่อการเป็น Inside Bar ที่ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นแท่งเขียว (Bullish) หรือแท่งแดง (Bearish) ก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งของรูปแบบนี้ได้
  2. ไม่จำกัดสภาวะตลาด: รูปแบบ Inside Bar สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกสภาวะตลาด ไม่ว่าจะเป็นตลาดขาขึ้น (Bull Market), ตลาดขาลง (Bear Market) หรือตลาด Sideways การวิเคราะห์แนวโน้มตลาดร่วมด้วยจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของสัญญาณ
  3. Mother Bar ต้องเป็นแท่งที่ใหญ่ที่สุด: แท่งเทียนแรกหรือ Mother Bar จะต้องมีขนาดใหญ่ที่สุดครอบคลุมแท่งเทียน Inside Bar ทั้งหมด รวมถึงไส้เทียน (Wick/Shadow) ด้วย
  4. Inside Bar ต้องอยู่ภายใน Mother Bar: แท่งเทียนถัดๆ ไป (Inside Bar) จะต้องมีราคาสูงสุดและต่ำสุด (รวมถึงไส้เทียน) ไม่เกินช่วงราคาของ Mother Bar

ตัวอย่างการเกิด Inside Bar: สมมติว่าในกราฟรายวัน มีแท่งเทียนแท่งหนึ่งเป็นแท่งแดงขนาดใหญ่ (Mother Bar) ที่มีราคาสูงสุดที่ 100 และราคาต่ำสุดที่ 90 หากวันถัดมามีแท่งเทียนอีกแท่งหนึ่ง (Inside Bar) ที่มีราคาสูงสุดไม่เกิน 100 และราคาต่ำสุดไม่ต่ำกว่า 90 ถือว่าเป็น Inside Bar ที่ถูกต้อง

Inside Bar บอกอะไรเราบ้าง?

รูปแบบ Inside Bar มักจะบ่งบอกถึงภาวะที่ตลาดกำลัง “ลังเล” หรือ “พักตัว” หลังจากที่มีการเคลื่อนไหวที่แข็งแกร่งใน Mother Bar โดยปริมาณการซื้อขายมักจะลดลงในช่วง Inside Bar แสดงถึงการที่ผู้เล่นในตลาดกำลังรอดูทิศทางที่ชัดเจนต่อไป

ความหมายทางจิตวิทยาของตลาด

  • การพักฐาน (Consolidation): หลังจากที่มีการเคลื่อนไหวของราคาอย่างรวดเร็ว (ไม่ว่าขึ้นหรือลง) Inside Bar อาจบ่งบอกถึงช่วงเวลาที่ตลาดกำลังพักฐานและสะสมกำลังก่อนที่จะเคลื่อนไหวต่อไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง
  • ความไม่แน่ใจ (Indecision): Inside Bar อาจสะท้อนถึงความไม่แน่ใจของผู้ซื้อและผู้ขาย ทำให้ราคาวิ่งอยู่ในกรอบแคบๆ ซึ่งมักจะเกิดขึ้นก่อนการ breakout ครั้งใหญ่
  • การเตรียมตัวสำหรับการ Breakout: บ่อยครั้งที่ Inside Bar เกิดขึ้นก่อนที่ราคาจะมีการทะลุผ่าน (Breakout) แนวรับหรือแนวต้านที่สำคัญ ซึ่งเป็นโอกาสในการเข้าเทรดที่น่าสนใจ

กลยุทธ์การเทรดด้วย Inside Bar: เพิ่มโอกาสทำกำไร

Inside Bar ไม่ได้เป็นเพียงรูปแบบการพักตัว แต่ยังเป็นสัญญาณที่ทรงพลังในการหาจุดเข้าและออกจากการเทรดที่แม่นยำ โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับเครื่องมือและแนวคิดอื่นๆ

1. การเทรดตามแนวโน้ม (Trend Following with Inside Bar)

การใช้ Inside Bar ในการเทรดตามแนวโน้มเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่นิยมและมีประสิทธิภาพสูง:

  • ในตลาดขาขึ้น (Uptrend): เมื่อเกิด Inside Bar หลังจาก Mother Bar ที่เป็นแท่งเขียว (Bullish) ในแนวโน้มขาขึ้น อาจเป็นสัญญาณของการพักตัวสั้นๆ ก่อนที่ราคาจะขึ้นต่อไป จุดเข้าเทรดที่เหมาะสมคือเมื่อราคา Breakout เหนือราคาสูงสุดของ Mother Bar
  • ในตลาดขาลง (Downtrend): เมื่อเกิด Inside Bar หลังจาก Mother Bar ที่เป็นแท่งแดง (Bearish) ในแนวโน้มขาลง อาจเป็นสัญญาณของการพักตัวสั้นๆ ก่อนที่ราคาจะลงต่อไป จุดเข้าเทรดที่เหมาะสมคือเมื่อราคา Breakout ต่ำกว่าราคาต่ำสุดของ Mother Bar

การยืนยันแนวโน้มสามารถทำได้โดยใช้เครื่องมือ Technical Indicator ต่างๆ เช่น Moving Average หรือ Bollinger Bands เพื่อให้มั่นใจในทิศทางของตลาดก่อนเข้าเทรด

เคล็ดลับ: เลือก Inside Bar ที่เกิดขึ้นใกล้กับเส้นแนวโน้ม (Trendline) หรือบริเวณ แนวรับ-แนวต้าน ที่สำคัญ จะยิ่งเพิ่มความน่าเชื่อถือของสัญญาณ

2. การเทรดแบบ Breakout ด้วย Inside Bar

Inside Bar มักเป็นสัญญาณนำหน้าการ Breakout ที่สำคัญ:

  • การ Breakout ขึ้น: หากราคา Breakout เหนือราคาสูงสุดของ Mother Bar หลังจากเกิด Inside Bar นี่คือสัญญาณ Buy ที่แข็งแกร่ง
  • การ Breakout ลง: หากราคา Breakout ต่ำกว่าราคาต่ำสุดของ Mother Bar หลังจากเกิด Inside Bar นี่คือสัญญาณ Sell ที่แข็งแกร่ง

การตั้งค่า Stop Loss ควรวางไว้อย่างรอบคอบภายในช่วงของ Mother Bar หรือเหนือ/ใต้จุดสูงสุด/ต่ำสุดของ Inside Bar เล็กน้อย เพื่อจำกัดความเสี่ยงหากการ Breakout ล้มเหลว

ตัวอย่าง: หากราคาเคลื่อนไหว Sideways มาสักระยะหนึ่ง แล้วเกิด Inside Bar ในช่วงปลายของการพักตัว จากนั้นราคา Breakout เหนือ Mother Bar พร้อมกับ Volume ที่เพิ่มขึ้น นี่เป็นสัญญาณที่ดีในการเข้าซื้อ

3. การใช้ Inside Bar ร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ

เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการเทรด ควรใช้ Inside Bar ร่วมกับการวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ:

  • แนวรับแนวต้าน (Support & Resistance): Inside Bar ที่เกิดขึ้นบริเวณ แนวรับและแนวต้าน ที่แข็งแกร่งจะให้สัญญาณที่น่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น Inside Bar ที่เกิดขึ้นที่แนวรับสำคัญในแนวโน้มขาขึ้น บ่งบอกถึงการพักตัวก่อนดีดตัวขึ้น
  • เครื่องมือ Fibonacci Retracement: การใช้ Fibonacci Level เพื่อหาจุดกลับตัวที่อาจเกิด Inside Bar จะช่วยให้สามารถระบุโซนราคาที่มีนัยสำคัญได้
  • Equidistance Channel: การใช้ช่องทางราคา (Channel) เพื่อดูว่า Inside Bar เกิดขึ้นที่ขอบของ Channel หรือไม่ หากเกิดขึ้นที่ขอบ Channel อาจบ่งชี้ถึงการกลับตัวหรือการเคลื่อนไหวไปตาม Channel
  • Volume Analysis: การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume) ประกอบกับ Inside Bar สามารถยืนยันความแข็งแกร่งของสัญญาณได้ หาก Volume ลดลงในขณะที่เกิด Inside Bar และเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเกิด Breakout จะเป็นสัญญาณที่น่าเชื่อถือ

การบริหารความเสี่ยง (Risk Management) กับ Inside Bar

แม้ Inside Bar จะมีอัตราส่วน Risk-Reward ที่ดี แต่การบริหารความเสี่ยงยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการเทรด

  • การตั้ง Stop Loss: ควรวาง Stop Loss ไว้ที่เหนือหรือใต้ Mother Bar อย่างชัดเจน เพื่อจำกัดการขาดทุนหากตลาดเคลื่อนไหวสวนทางกับที่คาดการณ์ไว้ ตัวอย่างเช่น หากเข้าซื้อเมื่อราคา Breakout เหนือ Mother Bar ควรวาง Stop Loss ไว้ใต้จุดต่ำสุดของ Mother Bar
  • การตั้ง Take Profit: สามารถกำหนดจุดทำกำไร (Take Profit) โดยอิงจากระดับแนวรับแนวต้านถัดไป หรือใช้เครื่องมือเช่น Fibonacci Extension
  • ขนาด Position Size: ปรับขนาดของ Position Size ให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ โดยไม่ควรเสี่ยงเกินกว่า 1-2% ของเงินทุนในแต่ละครั้ง

การยึดมั่นในวินัยการเทรดและแผนการบริหารความเสี่ยงจะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถอยู่รอดในตลาดและสร้างผลกำไรได้อย่างยั่งยืน

Inside Bar กับ Timeframe ต่างๆ

รูปแบบ Inside Bar สามารถพบเห็นได้ในทุก Timeframe ตั้งแต่กราฟรายนาที (M1, M5) ไปจนถึงกราฟรายวัน (Daily) และรายสัปดาห์ (Weekly) อย่างไรก็ตาม:

  • Timeframe ที่ใหญ่ขึ้น: Inside Bar ที่เกิดขึ้นใน Timeframe ที่ใหญ่ขึ้น เช่น Daily หรือ Weekly มักจะให้สัญญาณที่แข็งแกร่งและน่าเชื่อถือมากกว่า เนื่องจากมี Noise น้อยกว่าและสะท้อนถึงการตัดสินใจของผู้เล่นรายใหญ่ในตลาด
  • Timeframe ที่เล็กกว่า: Inside Bar ใน Timeframe ที่เล็กกว่า เช่น M5 หรือ M15 อาจมีสัญญาณหลอกที่เกิดขึ้นบ่อยกว่า แต่ก็ให้โอกาสในการเทรดระยะสั้น (Scalping) ที่รวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ต้องใช้ความระมัดระวังและประสบการณ์สูง

เทรดเดอร์ควรเลือก Timeframe ที่เหมาะสมกับสไตล์การเทรดของตนเอง และพิจารณาใช้ Multi-Timeframe Analysis เพื่อยืนยันสัญญาณจาก Inside Bar

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Inside Bar (FAQ)

คำถาม คำตอบ
Inside Bar คืออะไร? Inside Bar คือรูปแบบแท่งเทียนที่ประกอบด้วยแท่ง Mother Bar (แท่งแรกที่ใหญ่กว่า) และแท่ง Inside Bar (แท่งที่สองหรือมากกว่า) ที่มีช่วงราคาสูงสุดและต่ำสุดอยู่ภายในช่วงราคาของ Mother Bar ทั้งหมด
Inside Bar มีความสำคัญอย่างไรกับการเทรด? Inside Bar บ่งบอกถึงการพักตัวของราคา ความไม่แน่ใจของตลาด และมักจะเป็นสัญญาณนำหน้าการ Breakout ซึ่งเป็นโอกาสในการเข้าเทรดที่ให้ Risk-Reward Ratio ที่ดี
สีของแท่งเทียน Inside Bar มีผลต่อการวิเคราะห์หรือไม่? สีของแท่งเทียนไม่มีผลต่อการเป็น Inside Bar ที่ถูกต้อง แต่การพิจารณาสีของแท่ง Mother Bar และทิศทางแนวโน้มจะช่วยในการตัดสินใจเทรดได้
ควรใช้ Inside Bar ใน Timeframe ใดดีที่สุด? Inside Bar มีประสิทธิภาพในทุก Timeframe แต่สัญญาณจะมีความน่าเชื่อถือมากขึ้นใน Timeframe ที่ใหญ่ขึ้น เช่น Daily หรือ Weekly สำหรับเทรดเดอร์ระยะยาว และสามารถใช้ใน Timeframe สั้นๆ สำหรับ Scalping ได้เช่นกัน
Inside Bar ควรใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่นหรือไม่? ควรอย่างยิ่ง การใช้ Inside Bar ร่วมกับแนวรับแนวต้าน, Trendline, Fibonacci หรือ Volume จะช่วยเพิ่มความแม่นยำและความน่าเชื่อถือของสัญญาณในการเข้าเทรด

สรุป: Inside Bar เครื่องมือสำคัญสำหรับเทรดเดอร์

Inside Bar เป็นรูปแบบแท่งเทียน Price Action ที่ทรงพลังและเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่เทรดเดอร์ ด้วยลักษณะที่บ่งบอกถึงการพักตัวของตลาดและการเตรียมพร้อมสำหรับการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ ทำให้เป็นเครื่องมือที่มีคุณค่าในการหาจุดเข้าและออกจากการเทรดที่เหมาะสม

การทำความเข้าใจกฎเกณฑ์การเกิด Inside Bar อย่างถ่องแท้ การประยุกต์ใช้ร่วมกับ กลยุทธ์การเทรด อื่นๆ เช่น การเทรดตามแนวโน้ม การเทรดแบบ Breakout และการผสมผสานกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคต่างๆ เช่น แนวรับแนวต้าน Moving Average และ Fibonacci จะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจและโอกาสในการทำกำไรได้อย่างมีนัยสำคัญ

สิ่งสำคัญที่สุดคือการฝึกฝนและสร้างวินัยในการเทรด การทดลองใช้ Inside Bar ในบัญชีทดลอง (Demo Account) ก่อนที่จะนำไปใช้จริงในตลาดจะช่วยให้คุณคุ้นเคยกับรูปแบบและกลยุทธ์ต่างๆ มากยิ่งขึ้น ขอให้ทุกท่านประสบความสำเร็จในการเทรด!

You Might Also Like

Contact Us on Line