ถอดรหัสรูปแบบ Head & Shoulders: คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับเทรดเดอร์มืออาชีพ
ในโลกของการเทรด ไม่ว่าจะเป็นตลาด Forex, หุ้น หรือสินทรัพย์ดิจิทัล การวิเคราะห์รูปแบบกราฟ (Chart Patterns) ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถคาดการณ์ทิศทางราคาในอนาคตได้อย่างมีนัยสำคัญ หนึ่งในรูปแบบกราฟที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางและมีประสิทธิภาพสูงคือ “รูปแบบ Head & Shoulders” ซึ่งเป็นสัญญาณกลับตัวที่ทรงพลัง บ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มราคาจากทิศทางหนึ่งไปสู่อีกทิศทางหนึ่งได้อย่างชัดเจน บทความนี้จะเจาะลึกถึงแก่นแท้ของรูปแบบ Head & Shoulders ทั้งในตลาดขาขึ้นและขาลง ตั้งแต่การทำความเข้าใจโครงสร้าง การก่อตัว กลยุทธ์การเทรด ไปจนถึงเคล็ดลับและข้อควรระวัง เพื่อให้คุณสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการตัดสินใจลงทุนได้อย่างมั่นใจและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรสูงสุด

รูปแบบ Head & Shoulders: สัญญาณกลับตัวเป็นขาลง (Bearish Reversal)
รูปแบบ Head & Shoulders แบบดั้งเดิมเป็นหนึ่งใน รูปแบบกลับตัว (Reversal Pattern) ที่ทรงอิทธิพลที่สุด มันปรากฏขึ้นในช่วงปลายของแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) เพื่อส่งสัญญาณว่าแรงซื้อกำลังอ่อนแรงลงและแนวโน้มอาจเปลี่ยนเป็นขาลงในไม่ช้า การระบุและตีความรูปแบบนี้ได้อย่างถูกต้องสามารถให้ความได้เปรียบที่สำคัญแก่เทรดเดอร์ ไม่ว่าจะเป็น Day Trader หรือ Swing Trader
Head & Shoulders Pattern คืออะไร?
รูปแบบ Head & Shoulders ถูกตั้งชื่อตามลักษณะทางกายภาพที่คล้ายกับศีรษะและไหล่ของคน ประกอบด้วย 4 ส่วนสำคัญดังนี้:
- ไหล่ซ้าย (Left Shoulder): ราคาพุ่งขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในแนวโน้มขาขึ้น ก่อนที่จะมีการปรับฐานลงเล็กน้อย นี่แสดงถึงแรงซื้อที่ยังคงแข็งแกร่ง แต่เริ่มมีแรงขายทำกำไรเข้ามาบ้างแล้ว
- หัว (Head): ราคาดีดตัวขึ้นอีกครั้งและทะลุจุดสูงสุดของไหล่ซ้ายไปทำจุดสูงสุดใหม่ที่สูงกว่าอย่างมีนัยสำคัญ แต่หลังจากนั้นก็ปรับตัวลงมาอีกครั้ง นี่คือจุดที่แรงซื้อถึงขีดสุด แต่แรงขายก็เริ่มปรากฏชัดเจนขึ้นเช่นกัน
- ไหล่ขวา (Right Shoulder): ราคาดีดตัวขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่สามารถทำจุดสูงสุดได้เท่ากับส่วนหัว หรืออาจจะต่ำกว่าไหล่ซ้ายด้วยซ้ำ การก่อตัวของไหล่ขวาที่ต่ำกว่าหัวนี้เป็นสัญญาณสำคัญที่บ่งชี้ว่าแรงซื้อได้อ่อนแรงลงอย่างมาก และผู้ขายเริ่มเข้ามาควบคุมตลาด
- เส้นคอ (Neckline): เป็นเส้นแนวรับที่ลากเชื่อมจุดต่ำสุดระหว่างไหล่ซ้ายกับหัว และหัวกับไหล่ขวา เส้นคออาจเป็นเส้นตรง แนวนอน หรืออาจจะเอียงขึ้นหรือลงก็ได้ ความชันของเส้นคอมีความสำคัญต่อความแข็งแกร่งของสัญญาณกลับตัว
รูปแบบ Head & Shoulders นี้เป็นสัญญาณกลับตัวที่เป็นขาลง (Bearish Reversal) ซึ่งหมายความว่าตลาดที่เคยอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นกำลังจะเปลี่ยนเป็นแนวโน้มขาลง

การก่อตัวของรูปแบบ Head & Shoulders และจิตวิทยาตลาด
การทำความเข้าใจว่ารูปแบบนี้ก่อตัวขึ้นมาได้อย่างไร จะช่วยให้เรามองเห็นภาพรวมของจิตวิทยาตลาดที่อยู่เบื้องหลังได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
- ขั้นแรก: การสร้างไหล่ซ้าย
- ในตลาดขาขึ้นที่แข็งแกร่ง ราคาจะทำจุดสูงสุดใหม่ (Higher High) อย่างต่อเนื่องพร้อมกับปริมาณการซื้อขาย (Volume) ที่สูง สิ่งนี้บ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ยังคงผลักดันราคาให้สูงขึ้น
- เมื่อราคาย่อตัวลงมาเล็กน้อย นี่คือการพักฐานตามปกติในแนวโน้มขาขึ้น แต่ Volume ในช่วงขาลงนี้มักจะต่ำกว่า Volume ในช่วงขาขึ้น
- ขั้นที่สอง: การสร้างหัว
- ราคาดีดตัวกลับขึ้นไปอย่างรวดเร็วและทะลุจุดสูงสุดของไหล่ซ้ายไปอีกครั้ง ทำจุดสูงสุดใหม่ที่สูงกว่าเดิมอย่างชัดเจน แต่สิ่งสำคัญที่ควรสังเกตคือ Volume ในช่วงที่ราคาสร้างหัวนี้มักจะน้อยกว่า Volume ที่สร้างไหล่ซ้าย สิ่งนี้เริ่มบ่งชี้ถึงแรงซื้อที่อาจจะไม่ได้แข็งแกร่งเท่าเดิม
- หลังจากนั้น ราคาจะปรับตัวลงมาอีกครั้ง และจุดต่ำสุดของการปรับฐานนี้จะเชื่อมต่อกับจุดต่ำสุดของการปรับฐานหลังไหล่ซ้าย ก่อตัวเป็นเส้นคอ
- ขั้นที่สาม: การสร้างไหล่ขวา
- ราคาพยายามดีดตัวกลับขึ้นไปอีกครั้ง แต่ด้วยแรงซื้อที่อ่อนแรงลง ทำให้ไม่สามารถทำจุดสูงสุดได้เท่ากับส่วนหัว และมักจะต่ำกว่าไหล่ซ้ายด้วยซ้ำ
- Volume ในช่วงที่สร้างไหล่ขวานี้มักจะต่ำที่สุดในบรรดาไหล่ทั้งสองและส่วนหัว ซึ่งเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าแรงซื้อกำลังจะหมดลง และตลาดอาจกำลังเข้าสู่ช่วงขาลง
- จากนั้น ราคาจะปรับตัวลงมาอีกครั้ง และเมื่อราคาเคลื่อนที่ลงมาถึงเส้นคอ นี่คือช่วงเวลาสำคัญที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด
- ขั้นสุดท้าย: การ Breakout เส้นคอ
- เมื่อราคาตกลงมาและทะลุผ่านเส้นคอลงไปอย่างชัดเจน ถือเป็นการยืนยัน (Confirmation) ของรูปแบบ Head & Shoulders
- การ Breakout มักจะมาพร้อมกับ Volume ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ บ่งชี้ว่าแรงขายได้เข้ามาควบคุมตลาดอย่างสมบูรณ์ และแนวโน้มขาขึ้นได้สิ้นสุดลงแล้ว
- — ถ้าเส้นคอควรดึงจากไหล่ทั้งสองข้างต่ำ? เส้นคอที่เอียงลงเล็กน้อยจะให้สัญญาณกลับตัวที่มีความน่าเชื่อถือสูงกว่า เนื่องจากแสดงถึงแรงขายที่เริ่มเข้ามาก่อนที่จะมีการ Breakout อย่างสมบูรณ์
กฎและข้อควรระวังในการระบุรูปแบบ Head & Shoulders
เพื่อให้การวิเคราะห์รูปแบบ Head & Shoulders มีความแม่นยำสูงสุด ควรพิจารณากฎและข้อควรระวังดังต่อไปนี้:
- การยืนยันด้วยปริมาณการซื้อขาย (Volume Confirmation):
นี่คือสิ่งสำคัญที่สุดในการยืนยันความถูกต้องของรูปแบบ Volume ควรมีลักษณะดังนี้:- ปริมาณการซื้อขายสูงในช่วงสร้างไหล่ซ้ายและหัว
- ปริมาณการซื้อขายลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อราคาพุ่งขึ้นไปสร้างไหล่ขวา
- ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงเมื่อราคาทะลุเส้นคอ
- ทำไม Volume จึงสำคัญ? Volume แสดงถึงความสนใจของตลาด เมื่อราคาเคลื่อนที่โดยมี Volume น้อย อาจเป็นการเคลื่อนไหวที่ไม่มีนัยสำคัญ แต่เมื่อ Volume พุ่งสูงขึ้นในจังหวะ Breakout แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของอุปสงค์และอุปทานอย่างแท้จริง
- ความสมมาตร (Symmetry):
แม้ว่าไหล่ทั้งสองข้างไม่จำเป็นต้องมีขนาดหรือระยะเวลาเท่ากันเป๊ะ แต่รูปแบบที่สมมาตรยิ่งขึ้นมักจะให้สัญญาณที่น่าเชื่อถือกว่า การที่ไหล่ขวาต่ำกว่าไหล่ซ้ายเล็กน้อยเป็นการยืนยันแรงซื้อที่อ่อนแอลง - Timeframe:
รูปแบบ Head & Shoulders สามารถเกิดขึ้นได้ในทุก Timeframe ตั้งแต่กราฟ 1 นาทีไปจนถึงกราฟรายเดือน อย่างไรก็ตาม รูปแบบที่เกิดขึ้นใน Timeframe ที่ใหญ่กว่า (เช่น H4, Daily, Weekly) มักจะมีความน่าเชื่อถือและมีนัยสำคัญมากกว่าในการส่งสัญญาณกลับตัว เนื่องจากมีข้อมูลราคาที่ครอบคลุมและลดสัญญาณรบกวน (Noise) ได้มากกว่า - เส้นคอ (Neckline):
เส้นคอที่เอียงลงเล็กน้อยมักจะให้สัญญาณกลับตัวที่แข็งแกร่งกว่าเส้นคอที่เป็นแนวราบหรือเอียงขึ้น เพราะบ่งชี้ถึงแรงขายที่เริ่มเข้ามากดดันราคาก่อนที่รูปแบบจะสมบูรณ์
กลยุทธ์การเทรดด้วยรูปแบบ Head & Shoulders
เมื่อระบุรูปแบบ Head & Shoulders ได้อย่างแม่นยำแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการวางแผนกลยุทธ์การเทรดเพื่อทำกำไรจากการกลับตัวของราคา
- จุดเข้า (Entry Point):
- หลังการ Breakout เส้นคอ: วิธีที่พบบ่อยและปลอดภัยที่สุดคือการรอให้ราคาทะลุเส้นคอลงมาอย่างชัดเจนพร้อม Volume ที่เพิ่มขึ้น นี่เป็นการยืนยันสัญญาณกลับตัวอย่างเป็นทางการ
- การรอ Retest ของ Neckline: บางครั้ง หลังจากที่ราคา Breakout เส้นคอลงมาแล้ว อาจมีการดีดตัวกลับขึ้นไปทดสอบเส้นคออีกครั้ง (ซึ่งตอนนี้เปลี่ยนบทบาทเป็นแนวต้าน) การเข้า Sell ในจังหวะ Retest นี้เป็นวิธีที่นิยมมาก เพราะช่วยให้ได้จุดเข้าที่ดีขึ้นและ Risk-Reward Ratio ที่ดีกว่า หากราคาทะลุ Retest ไม่สำเร็จและลงต่อ ก็จะเป็นการยืนยันสัญญาณขายที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
- จุดหยุดขาดทุน (Stop Loss):
- เหนือไหล่ขวา: ตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับ Stop Loss คือเหนือจุดสูงสุดของไหล่ขวาเล็กน้อย
- ทำไมต้องวางเหนือไหล่ขวา? เพราะหากราคาสามารถทะลุจุดสูงสุดของไหล่ขวาขึ้นไปได้ หมายความว่ารูปแบบ Head & Shoulders อาจจะไม่สมบูรณ์และแนวโน้มขาขึ้นอาจยังไม่สิ้นสุด การตั้ง Stop Loss ในจุดนี้ช่วยปกป้องเงินทุนของคุณจากการคาดการณ์ที่ผิดพลาด
- จุดทำกำไร (Take Profit):
- วัดจากหัวถึงเส้นคอ: วิธีการกำหนดเป้าหมายทำกำไรคือการวัดระยะห่างจากจุดสูงสุดของหัว (Head) ไปยังเส้นคอ (Neckline) จากนั้นให้นำระยะทางที่ได้ไปฉายลงมาจากจุดที่ราคา Breakout เส้นคอลงมา
- ทำไมวิธีนี้ถึงใช้ได้? หลักการนี้อ้างอิงจากแนวคิด “Measured Move” ซึ่งเชื่อว่าขนาดของการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นหลังจากรูปแบบกลับตัว มักจะสัมพันธ์กับขนาดของรูปแบบนั้นๆ
- อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน (Risk-Reward Ratio): ควรตั้งเป้าหมายทำกำไรให้มีอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนอย่างน้อย 1:2 หรือมากกว่า เพื่อให้การเทรดแต่ละครั้งมีความคุ้มค่าต่อความเสี่ยงที่รับ
รูปแบบ Inverse Head & Shoulders: สัญญาณกลับตัวเป็นขาขึ้น (Bullish Reversal)
รูปแบบ Inverse Head & Shoulders หรือที่เรียกว่า Head & Shoulders แบบกลับหัว เป็นภาพสะท้อนของรูปแบบ Head & Shoulders แบบดั้งเดิม แต่จะปรากฏขึ้นในช่วงปลายของแนวโน้มขาลง (Downtrend) เพื่อส่งสัญญาณการกลับตัวเป็นขาขึ้น (Bullish Reversal) รูปแบบนี้บ่งชี้ว่าแรงขายกำลังอ่อนแรงลงและแรงซื้อกำลังจะเข้ามาควบคุมตลาด
Inverse Head & Shoulders Pattern คืออะไร?
รูปแบบ Inverse Head & Shoulders มีโครงสร้างคล้ายกับ Head & Shoulders ปกติ เพียงแต่กลับด้านกัน ประกอบด้วย 4 ส่วนสำคัญ:
- ไหล่ซ้าย (Left Shoulder): ราคาดิ่งลงทำจุดต่ำสุดใหม่ในแนวโน้มขาลง ก่อนที่จะมีการดีดตัวขึ้นเล็กน้อย นี่แสดงถึงแรงขายที่ยังคงแข็งแกร่ง แต่เริ่มมีแรงซื้อเข้ามาบ้างเพื่อทำกำไรในระยะสั้น
- หัว (Head): ราคาปรับตัวลงไปอีกครั้งและทะลุจุดต่ำสุดของไหล่ซ้ายไปทำจุดต่ำสุดใหม่ที่ต่ำกว่าอย่างมีนัยสำคัญ หลังจากนั้นก็ดีดตัวขึ้นมาอีกครั้ง นี่คือจุดที่แรงขายถึงขีดสุด แต่แรงซื้อก็เริ่มปรากฏชัดเจนขึ้นเช่นกัน
- ไหล่ขวา (Right Shoulder): ราคาปรับตัวลงมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่สามารถทำจุดต่ำสุดได้เท่ากับส่วนหัว หรืออาจจะสูงกว่าไหล่ซ้ายด้วยซ้ำ การก่อตัวของไหล่ขวาที่สูงกว่าหัวนี้เป็นสัญญาณสำคัญที่บ่งชี้ว่าแรงขายได้อ่อนแรงลงอย่างมาก และผู้ซื้อเริ่มเข้ามาควบคุมตลาด
- เส้นคอ (Neckline): เป็นเส้นแนวต้านที่ลากเชื่อมจุดสูงสุดระหว่างไหล่ซ้ายกับหัว และหัวกับไหล่ขวา เส้นคออาจเป็นเส้นตรง แนวนอน หรืออาจจะเอียงขึ้นหรือลงก็ได้ ความชันของเส้นคอมีความสำคัญต่อความแข็งแกร่งของสัญญาณกลับตัว
รูปแบบ Inverse Head & Shoulders นี้เป็นสัญญาณกลับตัวที่เป็นขาขึ้น (Bullish Reversal) ซึ่งหมายความว่าตลาดที่เคยอยู่ในแนวโน้มขาลงกำลังจะเปลี่ยนเป็นแนวโน้มขาขึ้น

การก่อตัวของรูปแบบ Inverse Head & Shoulders และจิตวิทยาตลาด
การทำความเข้าใจการก่อตัวของ Inverse Head & Shoulders ช่วยให้เราเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ตลาด
- ขั้นแรก: การสร้างไหล่ซ้าย
- ในตลาดขาลงที่แข็งแกร่ง ราคาจะทำจุดต่ำสุดใหม่ (Lower Low) อย่างต่อเนื่องพร้อมกับ Volume ที่สูง สิ่งนี้บ่งชี้ถึงแรงขายที่ยังคงผลักดันราคาให้ต่ำลง
- เมื่อราคาดีดตัวขึ้นมาเล็กน้อย นี่คือการปรับฐานขึ้นตามปกติในแนวโน้มขาลง แต่ Volume ในช่วงขาขึ้นนี้มักจะต่ำกว่า Volume ในช่วงขาลง
- ขั้นที่สอง: การสร้างหัว
- ราคาปรับตัวลงไปอีกครั้งและทะลุจุดต่ำสุดของไหล่ซ้ายไปทำจุดต่ำสุดใหม่ที่ต่ำกว่าเดิมอย่างชัดเจน แต่สิ่งสำคัญที่ควรสังเกตคือ Volume ในช่วงที่ราคาสร้างหัวนี้มักจะน้อยกว่า Volume ที่สร้างไหล่ซ้าย ซึ่งเป็นสัญญาณแรกที่บ่งชี้ถึงแรงขายที่เริ่มอ่อนแรงลง
- หลังจากนั้น ราคาจะดีดตัวขึ้นมาอีกครั้ง และจุดสูงสุดของการดีดตัวนี้จะเชื่อมต่อกับจุดสูงสุดของการดีดตัวหลังไหล่ซ้าย ก่อตัวเป็นเส้นคอ (Neckline)
- ขั้นที่สาม: การสร้างไหล่ขวา
- ราคาพยายามปรับตัวลงมาอีกครั้ง แต่ด้วยแรงขายที่อ่อนแรงลง ทำให้ไม่สามารถทำจุดต่ำสุดได้เท่ากับส่วนหัว และมักจะสูงกว่าไหล่ซ้ายด้วยซ้ำ
- Volume ในช่วงที่สร้างไหล่ขวานี้มักจะต่ำที่สุดในบรรดาไหล่ทั้งสองและส่วนหัว ซึ่งเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าแรงขายกำลังจะหมดลง และตลาดอาจกำลังเตรียมตัวเข้าสู่ช่วงขาขึ้น
- จากนั้น ราคาจะดีดตัวขึ้นมาอีกครั้ง และเมื่อราคาเคลื่อนที่ขึ้นไปถึงเส้นคอ นี่คือช่วงเวลาสำคัญที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด
- ขั้นสุดท้าย: การ Breakout เส้นคอ
- เมื่อราคาดีดตัวขึ้นและทะลุผ่านเส้นคอขึ้นไปอย่างชัดเจน ถือเป็นการยืนยัน (Confirmation) ของรูปแบบ Inverse Head & Shoulders
- การ Breakout มักจะมาพร้อมกับ Volume ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ บ่งชี้ว่าแรงซื้อได้เข้ามาควบคุมตลาดอย่างสมบูรณ์ และแนวโน้มขาลงได้สิ้นสุดลงแล้ว
- — ถ้าเส้นคอควรดึงจากไหล่ทั้งสองข้างต่ำ? เส้นคอที่เอียงขึ้นเล็กน้อยจะให้สัญญาณกลับตัวที่มีความน่าเชื่อถือสูงกว่า เนื่องจากแสดงถึงแรงซื้อที่เริ่มเข้ามาก่อนที่จะมีการ Breakout อย่างสมบูรณ์
กฎและข้อควรระวังสำหรับ Inverse Head & Shoulders
หลักการในการระบุและยืนยันรูปแบบ Inverse Head & Shoulders คล้ายกับ Head & Shoulders ปกติ แต่กลับด้านกัน:
- การยืนยันด้วยปริมาณการซื้อขาย (Volume Confirmation): Volume ควรมีลักษณะดังนี้:
- ปริมาณการซื้อขายสูงในช่วงสร้างไหล่ซ้ายและหัว
- ปริมาณการซื้อขายลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อราคาปรับตัวลงไปสร้างไหล่ขวา
- ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงเมื่อราคาทะลุเส้นคอ
- ความสมมาตร: รูปแบบที่สมมาตรยิ่งขึ้นมักจะให้สัญญาณที่น่าเชื่อถือกว่า
- Timeframe: รูปแบบที่เกิดขึ้นใน Timeframe ที่ใหญ่กว่า (เช่น H4, Daily, Weekly) มักจะมีความน่าเชื่อถือสูงกว่า
- เส้นคอ (Neckline): เส้นคอที่เอียงขึ้นเล็กน้อยมักจะให้สัญญาณกลับตัวที่แข็งแกร่งกว่าเส้นคอที่เป็นแนวราบหรือเอียงลง
กลยุทธ์การเทรดด้วยรูปแบบ Inverse Head & Shoulders
การวางแผนกลยุทธ์การเทรดสำหรับ Inverse Head & Shoulders ก็เป็นไปในทิศทางตรงกันข้ามกับ Head & Shoulders ปกติ
- จุดเข้า (Entry Point):
- หลังการ Breakout เส้นคอ: เข้า Buy เมื่อราคาทะลุเส้นคอขึ้นไปอย่างชัดเจนพร้อม Volume ที่เพิ่มขึ้น
- การรอ Retest ของ Neckline: รอให้ราคาย่อตัวกลับลงมาทดสอบเส้นคออีกครั้ง (ซึ่งตอนนี้เปลี่ยนบทบาทเป็นแนวรับ) การเข้า Buy ในจังหวะ Retest นี้ช่วยให้ได้จุดเข้าที่ดีขึ้นและ Risk-Reward Ratio ที่ดีกว่า หากราคาทะลุ Retest ไม่สำเร็จและขึ้นต่อ ก็จะเป็นการยืนยันสัญญาณซื้อที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
- จุดหยุดขาดทุน (Stop Loss):
- ต่ำกว่าไหล่ขวา: ตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับ Stop Loss คือต่ำกว่าจุดต่ำสุดของไหล่ขวาเล็กน้อย
- ทำไมต้องวางต่ำกว่าไหล่ขวา? เพราะหากราคาสามารถทะลุจุดต่ำสุดของไหล่ขวาลงไปได้ หมายความว่ารูปแบบ Inverse Head & Shoulders อาจจะไม่สมบูรณ์และแนวโน้มขาลงอาจยังไม่สิ้นสุด
- จุดทำกำไร (Take Profit):
- วัดจากหัวถึงเส้นคอ: วิธีการกำหนดเป้าหมายทำกำไรคือการวัดระยะห่างจากจุดต่ำสุดของหัว (Head) ไปยังเส้นคอ (Neckline) จากนั้นให้นำระยะทางที่ได้ไปฉายขึ้นมาจากจุดที่ราคา Breakout เส้นคอขึ้นไป
- อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน (Risk-Reward Ratio): ควรตั้งเป้าหมายทำกำไรให้มีอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนอย่างน้อย 1:2 หรือมากกว่า
ตารางเปรียบเทียบ: Head & Shoulders vs. Inverse Head & Shoulders
เพื่อความเข้าใจที่ชัดเจนยิ่งขึ้น นี่คือตารางสรุปความแตกต่างและจุดเด่นของทั้งสองรูปแบบ:
| คุณสมบัติ | Head & Shoulders (แบบปกติ) | Inverse Head & Shoulders (แบบกลับหัว) |
|---|---|---|
| ประเภทรูปแบบ | กลับตัวเป็นขาลง (Bearish Reversal) | กลับตัวเป็นขาขึ้น (Bullish Reversal) |
| ปรากฏในแนวโน้ม | ขาขึ้น (Uptrend) | ขาลง (Downtrend) |
| โครงสร้าง | ไหล่ซ้าย (สูงสุด), หัว (สูงสุดกว่า), ไหล่ขวา (สูงสุด) | ไหล่ซ้าย (ต่ำสุด), หัว (ต่ำสุดกว่า), ไหล่ขวา (ต่ำสุด) |
| เส้นคอ (Neckline) | แนวรับ | แนวต้าน |
| สัญญาณการ Breakout | ทะลุเส้นคอลง (ราคาลดลง) | ทะลุเส้นคอขึ้น (ราคาเพิ่มขึ้น) |
| ปริมาณการซื้อขาย (Volume) | ลดลงเมื่อสร้างไหล่ขวา, เพิ่มขึ้นเมื่อ Breakout ลง | ลดลงเมื่อสร้างไหล่ขวา, เพิ่มขึ้นเมื่อ Breakout ขึ้น |
| จุดเข้า (Entry) | Sell หลังจาก Breakout Neckline หรือ Retest | Buy หลังจาก Breakout Neckline หรือ Retest |
| Stop Loss | เหนือไหล่ขวา | ต่ำกว่าไหล่ขวา |
| Take Profit | วัดจากหัวถึง Neckline แล้วฉายลง | วัดจากหัวถึง Neckline แล้วฉายขึ้น |
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับรูปแบบ Head & Shoulders
Q1: รูปแบบ Head & Shoulders มีความแม่นยำแค่ไหน?
A: รูปแบบ Head & Shoulders เป็นหนึ่งในรูปแบบกราฟที่มีความน่าเชื่อถือสูงที่สุดในบรรดารูปแบบกลับตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกิดขึ้นใน Timeframe ที่ใหญ่กว่า (เช่น H4, Daily) และได้รับการยืนยันด้วยปริมาณการซื้อขาย (Volume) ที่สอดคล้องกัน อย่างไรก็ตาม ไม่มีรูปแบบใดที่แม่นยำ 100% นักลงทุนจึงควรใช้เครื่องมือและ กลยุทธ์บริหารความเสี่ยง อื่นๆ ร่วมด้วยเสมอ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเทรดที่ประสบความสำเร็จ
Q2: ควรใช้ Head & Shoulders ร่วมกับเครื่องมืออะไรเพื่อเพิ่มความแม่นยำ?
A: เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการเทรดด้วยรูปแบบ Head & Shoulders คุณสามารถใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ ได้ เช่น:
- Indicators: RSI (Relative Strength Index) หรือ MACD (Moving Average Convergence Divergence) สามารถช่วยยืนยันสัญญาณ Divergence (เมื่อราคากับ Indicator เคลื่อนที่สวนทางกัน) ซึ่งบ่งชี้ถึงโมเมนตัมที่อ่อนแอลงก่อนการกลับตัว
- Price Action: สังเกตรูปแบบแท่งเทียนกลับตัว (Reversal Candlestick Patterns) เช่น Engulfing Pattern, Pin Bar บริเวณเส้นคอหรือเมื่อเกิด Retest เพื่อยืนยันแรงซื้อ/แรงขาย
- แนวรับแนวต้าน (Support & Resistance): ใช้แนวรับและแนวต้านอื่นๆ ใน Timeframe ที่สูงกว่าเพื่อยืนยันเป้าหมายทำกำไรหรือจุด Stop Loss ที่เหมาะสม
- เส้นแนวโน้ม (Trendlines): สังเกตการ Breakout ของ Trendline ที่เกิดขึ้นพร้อมกับการ Breakout ของ Neckline
Q3: Head & Shoulders เกิดขึ้นใน Timeframe ใดบ่อยที่สุด?
A: รูปแบบ Head & Shoulders สามารถเกิดขึ้นได้ในทุก Timeframe แต่จะพบเห็นได้บ่อยใน Timeframe ระยะกลางถึงยาว เช่น กราฟ 1 ชั่วโมง (H1), 4 ชั่วโมง (H4), รายวัน (Daily) หรือรายสัปดาห์ (Weekly) รูปแบบที่เกิดขึ้นใน Timeframe ที่ใหญ่กว่ามักจะมีสัญญาณที่ชัดเจนและน่าเชื่อถือกว่า เนื่องจากราคาที่สะท้อนใน Timeframe ใหญ่มีการกรองสัญญาณรบกวนออกไปมากกว่า ทำให้เป็นตัวบ่งชี้การกลับตัวของแนวโน้มหลักได้ดีกว่า
Q4: มีความแตกต่างระหว่าง Head & Shoulders ที่มี Neckline เอียงขึ้น vs. เอียงลงหรือไม่?
A: มีความแตกต่างที่สำคัญ:
- Neckline เอียงลง (สำหรับ Head & Shoulders ปกติ): ถือเป็นสัญญาณกลับตัวเป็นขาลงที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษ เนื่องจากแสดงให้เห็นว่าแรงขายเริ่มเข้ามากดดันราคาให้ทำจุดต่ำสุดที่ต่ำลงตั้งแต่ก่อนที่จะมีการ Breakout เส้นคอ
- Neckline เอียงขึ้น (สำหรับ Head & Shoulders ปกติ): สัญญาณกลับตัวอาจไม่แข็งแกร่งเท่าแบบเอียงลง และอาจมีความเสี่ยงที่จะเกิด False Breakout ได้ง่ายกว่า
- Neckline เอียงขึ้น (สำหรับ Inverse Head & Shoulders): ถือเป็นสัญญาณกลับตัวเป็นขาขึ้นที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษ เนื่องจากแสดงให้เห็นว่าแรงซื้อเริ่มเข้ามากดดันราคาให้ทำจุดสูงสุดที่สูงขึ้นตั้งแต่ก่อนที่จะมีการ Breakout เส้นคอ
- Neckline เอียงลง (สำหรับ Inverse Head & Shoulders): สัญญาณกลับตัวอาจไม่แข็งแกร่งเท่าแบบเอียงขึ้น และอาจมีความเสี่ยงที่จะเกิด False Breakout ได้ง่ายกว่า
Q5: อะไรคือสัญญาณ “False Breakout” ของรูปแบบ Head & Shoulders?
A: False Breakout คือสถานการณ์ที่ราคาดูเหมือนจะทะลุเส้นคอไปแล้ว แต่หลังจากนั้นกลับพลิกตัวกลับมาเคลื่อนที่ในทิศทางเดิม สัญญาณที่อาจบ่งบอกถึง False Breakout ได้แก่:
- Volume ไม่ยืนยัน: การ Breakout ที่ไม่มี Volume สนับสนุนอย่างมีนัยสำคัญ
- ปิดแท่งเทียนกลับตัว: แท่งเทียนที่ Breakout เส้นคอไปแล้ว แต่กลับปิดต่ำกว่า (สำหรับ Head & Shoulders) หรือสูงกว่า (สำหรับ Inverse Head & Shoulders) เส้นคออย่างชัดเจนใน Timeframe เดียวกัน
- ราคาดึงกลับอย่างรวดเร็ว: ราคาทะลุเส้นคอไปได้เพียงเล็กน้อยแล้วถูกแรงซื้อ/แรงขายดึงกลับเข้ามาอย่างรวดเร็ว
- การ Breakout ใน Timeframe เล็ก: การ Breakout ที่เกิดขึ้นใน Timeframe ที่เล็กมากๆ อาจเป็นเพียงสัญญาณรบกวนที่ไม่น่าเชื่อถือเท่ากับใน Timeframe ที่ใหญ่กว่า
การระวัง False Breakout มีความสำคัญอย่างยิ่งในการปกป้องเงินทุนและหลีกเลี่ยงการเข้าเทรดผิดทาง ควรใช้การยืนยันหลายๆ อย่างก่อนตัดสินใจเข้าเทรด
สรุป (Conclusion)
รูปแบบ Head & Shoulders และ Inverse Head & Shoulders เป็นเครื่องมืออันทรงคุณค่าในคลังแสงของนักวิเคราะห์ทางเทคนิค ด้วยลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์และความสามารถในการส่งสัญญาณกลับตัวของแนวโน้มได้อย่างชัดเจน การทำความเข้าใจโครงสร้าง การก่อตัว และจิตวิทยาที่อยู่เบื้องหลังแต่ละส่วนของรูปแบบเหล่านี้ จะช่วยให้คุณสามารถคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาในอนาคตได้อย่างมีข้อมูลและหลักการ
สิ่งสำคัญที่สุดคือการใช้รูปแบบเหล่านี้ด้วยความระมัดระวัง และควรมีการยืนยันด้วยปัจจัยอื่นๆ เสมอ เช่น ปริมาณการซื้อขาย (Volume), การใช้ Indicators เสริม, และการวิเคราะห์ Price Action นอกจากนี้ การบริหารความเสี่ยงที่ดีด้วยการกำหนด Stop Loss และ Take Profit อย่างเหมาะสม ถือเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในระยะยาวในตลาดการเงิน
การฝึกฝนการระบุและการเทรดด้วยรูปแบบ Head & Shoulders บน บัญชีทดลอง (Demo Account) จะช่วยให้คุณเกิดความชำนาญและสร้างความมั่นใจก่อนที่จะนำไปใช้กับบัญชีจริง ขอให้ทุกท่านประสบความสำเร็จในการเทรด!
