TOP 10 บทความยอดนิยม

ดูทั้งหมด
สอนเทรดมือใหม่

คำศัพท์ในวงการเทรด FOREX สำหรับมือใหม่

มิถุนายน 9, 2022

เจาะลึกคำศัพท์ Forex ฉบับมืออาชีพ: คู่มือสู่ความเข้าใจตลาดและสร้างผลกำไรอย่างยั่งยืน

การเข้าสู่โลกของการเทรด Forex (Foreign Exchange) หรือตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศนั้น จำเป็นต้องมีความเข้าใจในคำศัพท์เฉพาะทาง เพื่อให้สามารถสื่อสาร วิเคราะห์ และตัดสินใจลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้จะเจาะลึกคำศัพท์สำคัญในวงการ Forex ที่มือใหม่และผู้สนใจควรทำความเข้าใจ เพื่อปูพื้นฐานสู่การเป็นนักเทรดมืออาชีพ

ความสำคัญของคำศัพท์ในตลาด Forex

ตลาด Forex เป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีการซื้อขายสกุลเงินตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ ด้วยปริมาณการซื้อขายมหาศาล ทำให้เป็นตลาดที่มีสภาพคล่องสูงและมีความผันผวน การทำความเข้าใจคำศัพท์เฉพาะจึงเป็นกุญแจสำคัญในการตีความข่าวสาร วิเคราะห์แนวโน้ม และวางกลยุทธ์การเทรดที่เหมาะสม หากปราศจากความเข้าใจในภาษาของตลาด นักเทรดอาจเผชิญกับความสับสน ตัดสินใจผิดพลาด และนำไปสู่การสูญเสียเงินลงทุนได้ การเรียนรู้คำศัพท์เหล่านี้จึงไม่ใช่แค่การจำความหมาย แต่เป็นการสร้างรากฐานที่มั่นคงในการเป็น เทรดเดอร์ ที่ประสบความสำเร็จ

คำศัพท์ Forex ที่มือใหม่ควรรู้

1. เทรดเดอร์ / นักเทรด / ผู้เทรด

คืออะไร: “เทรดเดอร์” (Trader) “นักเทรด” หรือ “ผู้เทรด” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลที่ทำการซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงินในตลาดใด ๆ ก็ตาม รวมถึงตลาด Forex ด้วย เป้าหมายหลักของเทรดเดอร์คือการทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของราคา

  • ทำไมต้องมี: การเทรดเป็นกิจกรรมที่ต้องใช้ทักษะ การวิเคราะห์ และการตัดสินใจ เทรดเดอร์จึงเป็นผู้ขับเคลื่อนตลาดและสร้างสภาพคล่อง
  • ประเภทของเทรดเดอร์:
    • เทรดเดอร์รายย่อย (Retail Trader): บุคคลทั่วไปที่ใช้เงินทุนส่วนตัวในการเทรด มักเทรดผ่านโบรกเกอร์ออนไลน์
    • เทรดเดอร์สถาบัน (Institutional Trader): บุคคลที่ทำงานให้กับสถาบันการเงินขนาดใหญ่ เช่น ธนาคาร กองทุน Hedge Fund มักมีเงินทุนมหาศาลและเข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็วกว่า
    • โปรเฟสชั่นนอลเทรดเดอร์ (Professional Trader): ผู้ที่ทำการเทรดเป็นอาชีพหลัก มีความรู้และประสบการณ์สูง
  • คุณสมบัติที่สำคัญ: การมีวินัย การบริหารความเสี่ยง การวิเคราะห์ตลาด และจิตวิทยาการเทรดที่ดีเป็นสิ่งจำเป็น

2. ล้างพอร์ต / พอร์ตแตก (Margin Call / Account Blow Up)

คืออะไร: “ล้างพอร์ต” หรือ “พอร์ตแตก” หมายถึง สถานการณ์ที่เงินทุนในบัญชีเทรดหมดลงจนเหลือ 0 หรือไม่เพียงพอที่จะรักษาสถานะการเทรดที่เปิดอยู่ได้อีกต่อไป มักเกิดขึ้นเมื่อนักเทรดขาดทุนอย่างต่อเนื่องและไม่สามารถบริหารจัดการความเสี่ยงได้

  • ทำไมถึงเกิดขึ้น:
    • การใช้ Leverage มากเกินไป: Leverage เป็นดาบสองคมที่ช่วยเพิ่มผลตอบแทน แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงในการขาดทุนเช่นกัน หากใช้ Leverage สูงและตลาดเคลื่อนไหวสวนทางเพียงเล็กน้อย อาจทำให้เงินทุนหมดเร็ว
    • การไม่ตั้ง Stop Loss: Stop Loss คือคำสั่งอัตโนมัติเพื่อจำกัดการขาดทุน การไม่ตั้ง Stop Loss ทำให้การขาดทุนสามารถขยายตัวได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
    • การเทรดโดยไม่มีกลยุทธ์: การเทรดแบบไร้ทิศทางและอารมณ์นำ อาจทำให้ตัดสินใจผิดพลาดได้ง่าย
    • ตลาดผันผวนรุนแรง: เหตุการณ์ไม่คาดฝันหรือข่าวสำคัญอาจทำให้ตลาดเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงจนกินทุนหมดอย่างรวดเร็ว
  • ผลลัพธ์เป็นอย่างไร: นักเทรดจะสูญเสียเงินทุนทั้งหมดในบัญชีเทรด และอาจทำให้เกิดความท้อถอยในการเทรดต่อไปได้
  • วิธีการป้องกัน:
    • บริหารจัดการเงินทุน (Money Management): กำหนดขนาด Lot ที่เหมาะสมกับเงินทุน
    • ตั้ง Stop Loss เสมอ: เป็นกฎเหล็กที่สำคัญที่สุดในการเทรด
    • ทำความเข้าใจ Leverage: ใช้ Leverage อย่างระมัดระวังและเหมาะสม
    • มีกลยุทธ์การเทรดที่ชัดเจน: ไม่เทรดตามอารมณ์หรือคำบอกเล่า

3. แมงเม่า / เม่า (Retail Investor / New Trader)

คืออะไร: “แมงเม่า” หรือ “เม่า” เป็นคำสแลงในวงการเทรดที่ใช้เรียกนักเทรดรายย่อย โดยเฉพาะผู้ที่ขาดประสบการณ์ มีเงินทุนไม่มาก และมักจะเทรดตามกระแส ข่าวลือ หรือความรู้สึกส่วนตัว โดยไม่มีการวิเคราะห์อย่างรอบคอบ

  • ทำไมถึงถูกเรียกว่า “แมงเม่า”: เปรียบเสมือนแมงเม่าที่บินเข้าหาแสงไฟ (โอกาสทำกำไร) โดยไม่ระวังอันตราย (ความเสี่ยง) และมักจะถูกเผาไหม้ (ขาดทุน) ในที่สุด
  • พฤติกรรมของแมงเม่า:
    • เทรดตามข่าวลือ: ไม่ตรวจสอบข้อมูล ไม่วิเคราะห์ด้วยตนเอง
    • ไม่มีกลยุทธ์ที่ชัดเจน: เทรดตามอารมณ์หรือคำแนะนำจากผู้อื่น
    • ไล่ราคา: ซื้อเมื่อราคาสูง ขายเมื่อราคาต่ำ
    • ใช้ Leverage สูงเกินตัว: หวังรวยเร็ว แต่เพิ่มความเสี่ยงในการล้างพอร์ต
    • ขาดวินัย: ไม่ทำตามแผนการเทรดที่วางไว้
  • วิธีการหลีกเลี่ยงการเป็น “แมงเม่า”:
    • ศึกษาหาความรู้: ทำความเข้าใจตลาด การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและเทคนิค
    • พัฒนากลยุทธ์ของตนเอง: สร้างระบบการเทรดที่เหมาะสมกับตนเอง
    • มีวินัยในการเทรด: ทำตามแผนอย่างเคร่งครัด
    • บริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบ: ปกป้องเงินทุนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
    • ควบคุมอารมณ์: อย่าให้อารมณ์ความโลภและความกลัวมาครอบงำการตัดสินใจ

4. ตบ / ทุบ (Sell Off / Dump)

คืออะไร: “ตบ” หรือ “ทุบ” เป็นคำสแลงที่ใช้ในสถานการณ์ที่ราคาสินทรัพย์มีการปรับตัวลงอย่างรุนแรงและรวดเร็ว โดยเฉพาะเมื่อกราฟราคามีการพุ่งขึ้นไปสูงมากจนผิดปกติ และมีสัญญาณบ่งชี้การกลับตัวลง นักเทรดที่ “ตบ” หรือ “ทุบ” จะทำการเปิดคำสั่งขาย (Sell) ในจังหวะที่ราคาสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อทำกำไรจากการที่ราคากำลังจะร่วงลงอย่างรวดเร็ว

  • ทำไมถึง “ตบ” หรือ “ทุบ”:
    • สัญญาณกลับตัว: เกิดรูปแบบแท่งเทียนกลับตัว (Reversal Candlestick Pattern) เช่น Shooting Star, Engulfing Pattern หรือเกิด รูปแบบแท่งเทียน Three Black Crows ที่บ่งชี้ถึงแรงขายที่เข้ามาอย่างรุนแรง
    • Overbought Condition: อินดิเคเตอร์ทางเทคนิค (Technical Indicator) เช่น RSI หรือ Stochastic บ่งชี้ว่าราคาอยู่ในภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought)
    • ข่าวสำคัญ: มีข่าวเศรษฐกิจหรือเหตุการณ์สำคัญที่ส่งผลกระทบในเชิงลบต่อสินทรัพย์นั้น ๆ
  • ลักษณะของกราฟ: มักจะเห็นไส้เทียนด้านบนยาว ๆ (Long Upper Shadow) ซึ่งแสดงถึงแรงขายที่เข้ามาอย่างรวดเร็วในช่วงราคาสูงสุด
  • ผลลัพธ์: หากจับจังหวะได้ถูกต้อง นักเทรดจะสามารถทำกำไรได้มากจากการเปิด Sell ที่ราคาสูงสุดและราคาดิ่งลงอย่างรุนแรง
  • ความเสี่ยง: การ “ตบ” หรือ “ทุบ” ต้องอาศัยประสบการณ์และความแม่นยำในการวิเคราะห์ หากผิดพลาดอาจทำให้ขาดทุนอย่างหนักได้

5. กราฟลาก (Whiplash / High Volatility)

คืออะไร: “กราฟลาก” หมายถึง สถานการณ์ที่กราฟราคาของสินทรัพย์มีการเคลื่อนไหวแบบ Swing ขึ้นลงอย่างรุนแรงและผันผวนมากในระยะเวลาอันสั้น โดยไม่มีทิศทางที่ชัดเจน หรืออาจวิ่งไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งอย่างรวดเร็วและเป็นระยะทางที่ไกลมาก

  • ทำไมถึง “ลาก”:
    • ข่าวสำคัญ: การประกาศข่าวเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น Non-Farm Payroll, อัตราดอกเบี้ย หรือการแถลงการณ์จากธนาคารกลาง มักทำให้ตลาดเกิดความผันผวนสูง
    • สภาพคล่องต่ำ: ในบางช่วงเวลา เช่น ช่วงเช้าตรู่หรือวันหยุดที่มีปริมาณการซื้อขายน้อย อาจทำให้กราฟเคลื่อนไหวรุนแรงได้ง่าย
    • การเข้าซื้อขายของสถาบันขนาดใหญ่: การที่นักลงทุนสถาบันเข้าซื้อหรือขายในปริมาณมาก อาจส่งผลให้กราฟเกิดการลากได้
  • ผลกระทบต่อนักเทรด:
    • Stop Loss โดนเกี่ยว: การเคลื่อนไหวที่รุนแรงอาจทำให้คำสั่ง Stop Loss ของนักเทรดโดนเกี่ยวไปโดยไม่ตั้งใจ แม้ว่าสุดท้ายราคาจะกลับมาในทิศทางที่ถูกต้องก็ตาม
    • การตัดสินใจยาก: ความผันผวนสูงทำให้การวิเคราะห์และการตัดสินใจทำได้ยากขึ้น
    • โอกาสและอันตราย: หากจับจังหวะได้ถูกต้อง กราฟลากอาจสร้างผลกำไรมหาศาล แต่ก็มีความเสี่ยงสูงมากเช่นกัน
  • เคล็ดลับในการรับมือ:
    • หลีกเลี่ยงการเทรดในช่วงข่าว: หากไม่มั่นใจ ควรหลีกเลี่ยงการเทรดในช่วงที่มีการประกาศข่าวสำคัญ
    • ปรับขนาด Stop Loss/Take Profit: หากต้องเทรด ควรขยายระยะ Stop Loss และ Take Profit ให้เหมาะสมกับความผันผวน
    • ใช้ Risk Management ที่เข้มงวด: ไม่โอเวอร์เทรดเด็ดขาด

6. ขายหมู (Prematurely Closing a Profitable Trade)

คืออะไร: “ขายหมู” เป็นคำสแลงที่หมายถึง การที่นักเทรดปิดออร์เดอร์ทำกำไรเร็วเกินไป เมื่อเห็นว่าได้กำไรมาบ้างแล้ว แต่หลังจากปิดออร์เดอร์ไป ราคาของสินทรัพย์นั้นกลับวิ่งไปในทิศทางที่ทำกำไรได้มากกว่าเดิมอย่างมหาศาล ทำให้รู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ถือออร์เดอร์ไว้

  • ทำไมถึง “ขายหมู”:
    • ความกลัว: กลัวว่ากำไรที่ได้มาจะหายไป จึงรีบปิดทำกำไรเพื่อรักษากำไรไว้
    • ความไม่มั่นใจในกลยุทธ์: ไม่มีความมั่นใจในระบบการเทรดของตนเอง จึงไม่กล้าถือออร์เดอร์นาน
    • การขาดวินัย: ไม่ทำตามแผนการเทรดที่วางไว้ เช่น ไม่รอให้ถึงจุด Take Profit ที่กำหนดไว้
  • ผลกระทบ: แม้จะยังคงได้กำไร แต่ก็เป็นกำไรที่ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ทำให้พลาดโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้นมาก
  • วิธีการหลีกเลี่ยง “ขายหมู”:
    • มีกลยุทธ์ Take Profit ที่ชัดเจน: กำหนดจุดทำกำไรที่เหมาะสมกับการวิเคราะห์และแผนการเทรด
    • ใช้ Trailing Stop: เป็นเครื่องมือที่ช่วยล็อกกำไรและให้ราคาวิ่งต่อไปได้ หากราคายังคงเคลื่อนที่ในทิศทางที่ทำกำไร
    • ฝึกฝนจิตวิทยาการเทรด: เรียนรู้ที่จะควบคุมอารมณ์ความโลภและความกลัว
    • เชื่อมั่นในระบบ: หากกลยุทธ์ที่ใช้มีสถิติที่ดี ควรเชื่อมั่นและทำตามแผน

ตารางสรุปคำศัพท์ Forex สำหรับมือใหม่

คำศัพท์ ความหมายโดยย่อ สิ่งที่ควรรู้เพิ่มเติม
เทรดเดอร์ / นักเทรด / ผู้เทรด บุคคลที่ทำการซื้อขายสินทรัพย์ในตลาด มีทั้งรายย่อยและสถาบัน ต้องมีวินัยและกลยุทธ์
ล้างพอร์ต / พอร์ตแตก เงินทุนในบัญชีหมดลงจากการขาดทุน เกิดจากการใช้ Leverage สูง ไม่ตั้ง Stop Loss หรือขาดกลยุทธ์
แมงเม่า / เม่า นักเทรดรายย่อยที่ขาดประสบการณ์ เทรดตามอารมณ์/ข่าวลือ ควรศึกษาหาความรู้ พัฒนากลยุทธ์ และบริหารความเสี่ยง
ตบ / ทุบ เปิดออร์เดอร์ขาย (Sell) เมื่อราคาสูงสุดและมีสัญญาณกลับตัวลง ต้องอาศัยการวิเคราะห์กราฟและสัญญาณกลับตัวที่แม่นยำ
กราฟลาก กราฟมีการเคลื่อนไหวผันผวนรุนแรง ขึ้นลงเร็ว หรือวิ่งไปไกลมาก มักเกิดช่วงข่าวสำคัญ ควรระมัดระวัง Stop Loss และ Money Management
ขายหมู ปิดออร์เดอร์ทำกำไรเร็วเกินไป ทำให้พลาดโอกาสกำไรที่มากกว่า ควรมีจุด Take Profit ที่ชัดเจน และใช้ Trailing Stop

FAQ Section: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับคำศัพท์ Forex

Q1: การเรียนรู้คำศัพท์ Forex สำคัญอย่างไรสำหรับมือใหม่?

A1: การเรียนรู้คำศัพท์ Forex เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับมือใหม่ เนื่องจากตลาด Forex มีภาษาและคำเฉพาะทางของตัวเอง หากไม่มีความเข้าใจในคำศัพท์เหล่านี้ นักเทรดจะไม่สามารถเข้าใจข้อมูล ข่าวสาร หรือแม้แต่กลยุทธ์การเทรดที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำได้ การเข้าใจคำศัพท์จะช่วยให้คุณสามารถสื่อสารในวงการได้อย่างถูกต้อง ตีความสถานการณ์ตลาดได้อย่างแม่นยำ และลดความเสี่ยงจากการตัดสินใจที่ผิดพลาดที่เกิดจากความไม่เข้าใจในข้อมูลพื้นฐาน

Q2: “Leverage” มีความเกี่ยวข้องกับการ “ล้างพอร์ต” อย่างไร?

A2: Leverage หรืออัตราทด เป็นเครื่องมือที่โบรกเกอร์มอบให้เพื่อให้นักเทรดสามารถเปิดออร์เดอร์ด้วยขนาดที่ใหญ่กว่าเงินทุนจริงที่มีอยู่ได้มาก ทำให้มีโอกาสในการทำกำไรสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม Leverage ก็เป็นดาบสองคม หากตลาดเคลื่อนไหวสวนทางกับตำแหน่งที่คุณเปิดไว้ แม้เพียงเล็กน้อย ก็อาจทำให้คุณขาดทุนอย่างรวดเร็วและรุนแรง จนเงินในบัญชีไม่พอรักษาสถานะการเทรดและเกิด “Margin Call” ซึ่งนำไปสู่การ “ล้างพอร์ต” ได้ในที่สุด ดังนั้น การใช้ Leverage อย่างระมัดระวังและเหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้จึงเป็นสิ่งสำคัญ

Q3: จะหลีกเลี่ยงการเป็น “แมงเม่า” ได้อย่างไร?

A3: เพื่อหลีกเลี่ยงการเป็น “แมงเม่า” นักเทรดควรเริ่มต้นด้วยการศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับตลาด Forex อย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ทางเทคนิค การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน การบริหารความเสี่ยง และจิตวิทยาการเทรด สร้างและทดสอบกลยุทธ์การเทรดของตนเองให้มีความมั่นใจ และที่สำคัญที่สุดคือการมีวินัยในการปฏิบัติตามแผนที่วางไว้ ไม่เทรดตามอารมณ์หรือกระแสข่าวลือ และควรเริ่มต้นด้วยบัญชีทดลอง (Demo Account) เพื่อฝึกฝนก่อนใช้เงินจริง

Q4: “กราฟลาก” เป็นโอกาสหรืออันตรายสำหรับนักเทรด?

A4: “กราฟลาก” สามารถเป็นได้ทั้งโอกาสและอันตรายสำหรับนักเทรด ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ การบริหารความเสี่ยง และกลยุทธ์ที่ใช้ สำหรับนักเทรดที่มีประสบการณ์และกลยุทธ์ที่สามารถจับจังหวะการเคลื่อนไหวที่รุนแรงได้ อาจเป็นโอกาสในการทำกำไรจำนวนมากในเวลาอันสั้น แต่สำหรับมือใหม่หรือผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ การเคลื่อนไหวที่รุนแรงนี้มักเป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะอาจทำให้ Stop Loss โดนเกี่ยว การตัดสินใจผิดพลาด และนำไปสู่การขาดทุนอย่างรวดเร็ว วิธีที่ดีที่สุดสำหรับมือใหม่คือการหลีกเลี่ยงการเทรดในช่วงเวลาที่ตลาดมีความผันผวนสูง หรือใช้การบริหารความเสี่ยงที่เข้มงวดมากขึ้น

Q5: การ “ขายหมู” เกิดจากสาเหตุใด และมีวิธีจัดการอย่างไร?

A5: การ “ขายหมู” มักเกิดจากความกลัวที่จะสูญเสียกำไรที่ได้มา หรือความไม่มั่นใจในกลยุทธ์ของตนเอง นักเทรดอาจเห็นกำไรเพียงเล็กน้อยแล้วรีบปิดออร์เดอร์เพราะกลัวว่าราคาจะย้อนกลับ ทำให้พลาดโอกาสในการทำกำไรที่มากกว่าเดิม วิธีจัดการกับการ “ขายหมู” คือการกำหนดจุดทำกำไร (Take Profit) ที่ชัดเจนและทำตามแผนอย่างมีวินัย พิจารณาใช้เครื่องมืออย่าง Trailing Stop เพื่อช่วยล็อกกำไรและปล่อยให้ราคาวิ่งต่อไป นอกจากนี้ การฝึกฝนจิตวิทยาการเทรดให้แข็งแกร่ง และเชื่อมั่นในกลยุทธ์ที่ผ่านการทดสอบมาแล้ว จะช่วยลดโอกาสในการ “ขายหมู” ได้

Conclusion: สรุปและ Call to Action

การเข้าใจคำศัพท์เฉพาะทางในวงการ Forex เป็นบันไดขั้นแรกที่สำคัญสู่การเป็นนักเทรดที่ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นคำว่า “เทรดเดอร์”, “ล้างพอร์ต”, “แมงเม่า”, “ตบ/ทุบ”, “กราฟลาก” หรือ “ขายหมู” แต่ละคำล้วนสะท้อนถึงสถานการณ์และพฤติกรรมในตลาดที่คุณจะได้พบเจอ การเรียนรู้และทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง จะช่วยให้คุณเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ และสร้างรากฐานที่มั่นคงในการตัดสินใจเทรดได้อย่างมีเหตุผลและมีวินัย

เริ่มต้นเส้นทางสู่การเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพกับเรา! หากคุณต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับกลยุทธ์การเทรด การบริหารความเสี่ยง หรือต้องการเครื่องมือช่วยเทรดที่มีประสิทธิภาพ เช่น EA (Expert Advisor) ระบบเทรดอัตโนมัติ หรือเข้าถึงกลุ่ม Line VIP เพื่อรับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ อย่ารอช้า! เพียง สมัครเปิดพอร์ตกับโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือของเรา เช่น XM, Mtrading หรือ Exness ตามลิงค์ด้านล่างนี้ คุณก็สามารถรับ EA ฟรีทุกตัวและสิทธิพิเศษอื่น ๆ อีกมากมาย! แล้วส่งเลข MT4 ของคุณไปที่ Line ID: @ft.th เพื่อขอรับสิทธิ์ได้ทันที

ลิงค์สมัครโบรกเกอร์พันธมิตร:

เมื่อสมัครเสร็จ ส่งเลข MT4 ไปที่ Line Id- @ft.th เพื่อขอรับ EA ได้ฟรี!

ช่องทางการพูดคุยและติดตามข่าวสาร:

*การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจเงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

You Might Also Like

Contact Us on Line