TOP 10 บทความยอดนิยม

ดูทั้งหมด
รีวิวโบรกเกอร์ วิธีสมัคร

โบรกเกอร์ Forex มีปฏิกิริยาอย่างไรต่อข่าว?

ตุลาคม 18, 2022

ผลกระทบของข่าว Forex ต่อโบรกเกอร์และเทรดเดอร์: กลยุทธ์รับมือความผันผวนระดับสูง

การติดตามข่าวสารเศรษฐกิจมหภาคเป็นส่วนสำคัญที่ไม่อาจมองข้ามได้สำหรับเทรดเดอร์ในตลาด Forex เนื่องจากข่าวเหล่านี้มีศักยภาพในการขับเคลื่อนราคาสินทรัพย์ให้เคลื่อนไหวอย่างรุนแรงและรวดเร็วภายในระยะเวลาอันสั้น สำหรับผู้ที่สนใจใน การซื้อขายข่าวสาร โดยเฉพาะ ข้อมูลข่าวสารยิ่งทวีความสำคัญมากขึ้นไปอีก อย่างไรก็ตาม ความผันผวนที่เพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติในช่วงเวลาที่มีการประกาศข่าวสำคัญนี้ กลับเป็นความท้าทายอย่างยิ่งสำหรับทั้งโบรกเกอร์และเทรดเดอร์ โบรกเกอร์จะต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ทำให้การดำเนินการคำสั่งซื้อขายเป็นไปได้ยากและมีความเสี่ยงสูง ในขณะที่เทรดเดอร์อาจต้องรับมือกับสภาวะตลาดที่ไม่เป็นใจ บทความนี้จะเจาะลึกถึงปัญหาหลักๆ ที่เกิดขึ้น และวิธีการที่โบรกเกอร์ใช้ในการจัดการกับความผันผวนดังกล่าว รวมถึงแนวทางที่เทรดเดอร์ควรทราบและเตรียมรับมือ เพื่อให้การเทรดในช่วงข่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงให้น้อยที่สุด

ภาพประกอบ: เป้าหมายการลงทุนและการเทรด Forex

ปัญหาหลักที่โบรกเกอร์และเทรดเดอร์ต้องเผชิญในช่วงประกาศข่าวสำคัญ

ในช่วงเวลาที่ตลาดมีความผันผวนสูงจากการประกาศข่าวเศรษฐกิจสำคัญ โบรกเกอร์ Forex มักจะต้องใช้มาตรการพิเศษเพื่อปกป้องตนเองและรักษาสภาพคล่องของตลาด ซึ่งอาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อประสบการณ์การเทรดของลูกค้า มาตรการเหล่านี้มีหลากหลายรูปแบบ และเทรดเดอร์จำเป็นต้องทำความเข้าใจเพื่อวางแผนการซื้อขายได้อย่างเหมาะสม

1. การขยายสเปรด (Spread Expansion)

สเปรด (Spread) คือผลต่างระหว่างราคา Bid (ราคาที่โบรกเกอร์พร้อมจะซื้อจากคุณ) และราคา Ask (ราคาที่โบรกเกอร์พร้อมจะขายให้คุณ) ในสภาวะตลาดปกติ สเปรดจะค่อนข้างแคบ แต่เมื่อมีข่าวสำคัญประกาศออกมา ตลาดจะเกิดความผันผวนอย่างรุนแรง และสภาพคล่องจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

  • ทำไมถึงเกิดขึ้น?
    • สภาพคล่องต่ำ: ผู้ให้บริการสภาพคล่อง (Liquidity Providers) เช่น ธนาคารขนาดใหญ่ อาจถอนตัวออกไปชั่วคราวหรือไม่เสนอราคาที่แข่งขันได้ ทำให้โบรกเกอร์มีต้นทุนในการจับคู่คำสั่งสูงขึ้น
    • ปกป้องโบรกเกอร์: การขยายสเปรดเป็นกลไกที่โบรกเกอร์ใช้เพื่อลดความเสี่ยงจากการดำเนินการคำสั่งซื้อขายในช่วงที่ราคาผันผวนอย่างรุนแรงและคาดเดาได้ยาก หากไม่ขยายสเปรด โบรกเกอร์อาจต้องแบกรับความเสี่ยงจากการ Slippage มหาศาล
  • ผลกระทบต่อเทรดเดอร์:
    • ต้นทุนการเทรดที่สูงขึ้น: สเปรดที่กว้างขึ้นหมายถึงค่าใช้จ่ายในการเข้าและออกจากตลาดที่สูงขึ้น ทำให้การทำกำไรยากขึ้นโดยเฉพาะสำหรับกลยุทธ์ที่ต้องเข้าออกบ่อยครั้ง
    • ส่งผลต่อคำสั่ง Stop Loss/Take Profit: หากคุณตั้ง Stop Loss หรือ Take Profit ไว้ที่ระดับหนึ่ง สเปรดที่กว้างขึ้นอาจทำให้คำสั่งของคุณถูกดำเนินการที่ราคาที่แย่กว่าที่คาดการณ์ไว้ หรือแม้กระทั่งทำให้ Stop Loss ถูกกระตุ้นเร็วขึ้นโดยที่ราคายังไม่ไปถึงระดับจริง ๆ หากวัดจากราคา Bid/Ask ปกติ
  • เคล็ดลับและกฎสำหรับเทรดเดอร์:
    • ปรับระดับ Stop Loss และ Take Profit: ควรพิจารณาปรับระดับคำสั่งเหล่านี้ให้ห่างจากราคาปัจจุบันมากขึ้นเล็กน้อย เพื่อรองรับสเปรดที่กว้างขึ้นในช่วงข่าว
    • หลีกเลี่ยงการ Scalping: การ Scalping หรือการเทรดสั้นๆ เพื่อเก็บกำไรเล็กน้อยๆ มีความเสี่ยงสูงมากในช่วงที่สเปรดกว้าง เนื่องจากต้นทุนการเทรดที่สูงขึ้นอาจทำให้กำไรหายไปหมดหรือกลายเป็นขาดทุนทันที
    • ตรวจสอบนโยบายโบรกเกอร์: โบรกเกอร์แต่ละรายมีนโยบายการขยายสเปรดที่แตกต่างกัน ควรศึกษาข้อมูลก่อนการเทรดข่าว

2. Slippage (ราคาคลาดเคลื่อน)

Slippage หรือการที่คำสั่งซื้อขายของคุณถูกดำเนินการที่ราคาที่แตกต่างจากราคาที่คุณคาดหวังหรือคลิกสั่ง เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงที่มีการประกาศข่าวสำคัญ ซึ่งมักจะมาพร้อมกับ ช่องว่างราคา (Price Gap) บนกราฟ

  • ทำไมถึงเกิดขึ้น?
    • การเคลื่อนไหวของราคาที่รวดเร็ว: ในช่วงข่าว ราคาอาจเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงหลายสิบหรือหลายร้อยจุดในเสี้ยววินาที ทำให้ราคาที่คุณเห็นบนหน้าจอและราคาที่โบรกเกอร์สามารถจับคู่คำสั่งได้เกิดความคลาดเคลื่อน
    • สภาพคล่องไม่เพียงพอ: ตลาดอาจไม่มีคำสั่งซื้อขายในปริมาณที่เพียงพอที่ราคาที่คุณต้องการ ณ วินาทีนั้น ทำให้คำสั่งของคุณถูกจับคู่กับราคาถัดไปที่มีสภาพคล่อง
  • ผลกระทบต่อเทรดเดอร์:
    • การเข้า/ออกที่ราคาเสียเปรียบ: ไม่ว่าจะเป็นการเปิดสถานะ, การปิด Stop Loss หรือ Take Profit หากเกิด Slippage คุณอาจได้ราคาที่ไม่เป็นไปตามแผน ซึ่งนำไปสู่การขาดทุนที่มากขึ้น หรือกำไรที่น้อยลง
    • คำสั่ง Market Order มีความเสี่ยงสูง: คำสั่งประเภทนี้จะถูกดำเนินการทันทีที่ราคาตลาด ณ ขณะนั้น ซึ่งเสี่ยงต่อ Slippage อย่างมากในช่วงข่าว
  • เคล็ดลับและกฎสำหรับเทรดเดอร์:
    • หลีกเลี่ยงการเทรดก่อนและหลังข่าวเล็กน้อย: หากไม่ต้องการเผชิญกับ Slippage วิธีที่ง่ายที่สุดคือหลีกเลี่ยงการเปิดหรือปิดสถานะในช่วงเวลาวิกฤตที่ข่าวเพิ่งออกและตลาดกำลังผันผวนอย่างรุนแรง
    • ใช้คำสั่ง Limit Order: หากต้องการเข้าหรือออกที่ราคาที่แน่นอน ควรใช้คำสั่ง Limit Order แทน Market Order อย่างไรก็ตาม คำสั่ง Limit Order อาจไม่ถูกจับคู่เลยหากราคาไม่กลับมาถึงระดับที่คุณตั้งไว้
    • ยอมรับความเสี่ยง: หากคุณเป็นเทรดเดอร์ข่าว การยอมรับว่า Slippage เป็นส่วนหนึ่งของเกมและรวมเอาไว้ในแผนการบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งจำเป็น

3. Requotes (การขอราคายืนยันใหม่)

Requotes เป็นอีกหนึ่งปฏิกิริยาที่เทรดเดอร์มักพบเมื่อโบรกเกอร์ใช้รูปแบบการดำเนินการคำสั่งแบบ “Instant Execution” ซึ่งโบรกเกอร์จะทำหน้าที่เป็นผู้กำหนดราคา หากเกิด Slippage เกินกว่าค่าเบี่ยงเบนสูงสุดที่เทรดเดอร์ตั้งไว้ โบรกเกอร์จะปฏิเสธคำสั่งเดิมและเสนอราคาใหม่

  • ทำไมถึงเกิดขึ้น?
    • รูปแบบ Instant Execution: โบรกเกอร์ต้องรับประกันราคาที่คุณเห็น ณ ตอนที่คุณกดสั่งซื้อ หากราคามีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเกินไป พวกเขาไม่สามารถให้ราคานั้นได้และจำเป็นต้องขอราคายืนยันใหม่
    • Max Deviation (ค่าเบี่ยงเบนสูงสุด): เทรดเดอร์สามารถตั้งค่า Max Deviation เพื่อบอกโบรกเกอร์ว่ายอมรับ Slippage ได้เท่าไหร่ หากราคาคลาดเคลื่อนเกินกว่าค่าที่กำหนด โบรกเกอร์จะส่ง Requote กลับมา
  • ผลกระทบต่อเทรดเดอร์:
    • พลาดโอกาส: Requotes อาจทำให้เทรดเดอร์พลาดจังหวะสำคัญในการเข้าหรือออกจากตลาด เนื่องจากต้องรอการยืนยันราคาใหม่และราคาก็อาจเคลื่อนที่ไปไกลแล้ว
    • ได้รับราคาที่รับประกัน: ข้อดีคือ คุณมีโอกาสที่จะยอมรับหรือปฏิเสธราคาใหม่ได้ ซึ่งช่วยป้องกันการได้รับราคาที่แย่เกินไปโดยที่คุณไม่ต้องการ
  • เคล็ดลับและกฎสำหรับเทรดเดอร์:
    • เลือกโบรกเกอร์ที่มี Market Execution: โบรกเกอร์ที่ใช้รูปแบบ Market Execution จะดำเนินการคำสั่งที่ราคาตลาดที่ดีที่สุดที่มีอยู่ทันที มักจะไม่เกิด Requotes แต่ยังคงมีโอกาสเกิด Slippage ได้
    • ทำความเข้าใจการตั้งค่า Max Deviation: หากโบรกเกอร์ของคุณใช้ Instant Execution ให้เรียนรู้วิธีการตั้งค่า Max Deviation อย่างเหมาะสม

4. การปิดการซื้อขาย (Closed Trading / Close-Only Mode)

แม้จะไม่บ่อยนัก แต่โบรกเกอร์บางรายอาจเลือกที่จะจำกัดกิจกรรมการซื้อขายในช่วงที่มีการประกาศข่าวเศรษฐกิจสำคัญ โดยอนุญาตให้เทรดเดอร์ “ปิด” สถานะที่มีอยู่เท่านั้น แต่ไม่อนุญาตให้ “เปิด” สถานะใหม่

  • ทำไมถึงเกิดขึ้น?
    • ลดความเสี่ยงทั้งสองฝ่าย: เป็นวิธีที่โบรกเกอร์ใช้เพื่อลดความเสี่ยงจากการดำเนินการคำสั่งในสภาวะตลาดที่มีความผันผวนสูงมาก ซึ่งอาจนำไปสู่การขาดทุนอย่างรุนแรงสำหรับทั้งโบรกเกอร์และลูกค้า
    • รักษาสภาพคล่อง: ช่วยให้โบรกเกอร์สามารถจัดการสภาพคล่องและคำสั่งซื้อขายที่มีอยู่ได้ง่ายขึ้น
  • ผลกระทบต่อเทรดเดอร์:
    • พลาดโอกาสในการทำกำไร: เทรดเดอร์จะไม่สามารถใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวของราคาในช่วงข่าวเพื่อเปิดสถานะใหม่ได้
    • ป้องกันการขาดทุนที่ไม่คาดคิด: ในทางกลับกัน การจำกัดนี้ก็ช่วยป้องกันเทรดเดอร์จากการเปิดสถานะในสภาวะที่คาดเดายาก ซึ่งอาจนำไปสู่การขาดทุนอย่างหนักได้เช่นกัน
  • เคล็ดลับและกฎสำหรับเทรดเดอร์:
    • ตรวจสอบนโยบายโบรกเกอร์ล่วงหน้า: หากคุณวางแผนที่จะเทรดข่าว ควรตรวจสอบนโยบายของโบรกเกอร์เกี่ยวกับข้อจำกัดการซื้อขายในช่วงข่าวสำคัญเสมอ
    • พิจารณาการปิดสถานะล่วงหน้า: หากคุณมีสถานะเปิดอยู่และไม่ต้องการความเสี่ยงจากความผันผวนของข่าว การปิดสถานะก่อนข่าวประกาศอาจเป็นทางเลือกที่ดี

5. การไม่มีการเชื่อมต่อ (No Connection)

นี่คือสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดที่เทรดเดอร์ข่าวไม่อยากพบเจอ การไม่มีการเชื่อมต่อหมายความว่าคุณไม่สามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มการซื้อขายได้ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าหรือออกจากสถานะ หรือแม้แต่การดูการเคลื่อนไหวของราคา

  • ทำไมถึงเกิดขึ้น?
    • ปัญหาทางเทคนิคของโบรกเกอร์: อาจเกิดจากภาระงานของเซิร์ฟเวอร์ที่สูงเกินไปในช่วงที่มีคำสั่งซื้อขายจำนวนมากหลั่งไหลเข้ามาอย่างพร้อมเพรียงกัน
    • การจงใจจำกัดการเข้าถึง: โบรกเกอร์บางรายอาจตั้งใจจำกัดการเข้าถึงเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการดำเนินงาน ซึ่งถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่เป็นธรรมอย่างยิ่ง
  • ผลกระทบต่อเทรดเดอร์:
    • ติดสถานะโดยไม่สามารถจัดการได้: หากคุณมีสถานะเปิดอยู่และเกิดการไม่มีการเชื่อมต่อ คุณจะไม่สามารถปิดสถานะหรือปรับ Stop Loss ได้ ทำให้เสี่ยงต่อการขาดทุนมหาศาล
    • พลาดโอกาสทำกำไรทั้งหมด: ไม่สามารถเข้าเทรดหรือออกจากสถานะที่กำลังทำกำไรได้
  • เคล็ดลับและกฎสำหรับเทรดเดอร์:
    • หลีกเลี่ยงโบรกเกอร์ที่มีประวัติไม่ดี: หากโบรกเกอร์มีประวัติการเกิดปัญหาการเชื่อมต่อบ่อยครั้งในช่วงข่าว ควรพิจารณาเปลี่ยนไปใช้ โบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้ มากกว่า
    • ทดสอบโบรกเกอร์: ลองใช้บัญชีทดลอง (Demo Account) ของโบรกเกอร์ที่คุณสนใจในช่วงข่าวสำคัญ เพื่อดูว่าการเชื่อมต่อมีปัญหาหรือไม่

6. ข้อกำหนดมาร์จิ้นที่เพิ่มขึ้น (Increased Margin Requirements)

ข้อกำหนดมาร์จิ้นที่เพิ่มขึ้นหมายถึงการที่โบรกเกอร์ต้องการให้เทรดเดอร์รักษาระดับเงินทุนในบัญชีให้สูงขึ้น เพื่อรองรับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในช่วงความผันผวน

  • ทำไมถึงเกิดขึ้น?
    • ลดความเสี่ยง: โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเหตุการณ์สำคัญ เช่น การประชุมของธนาคารกลาง หรือการเลือกตั้งใหญ่ โบรกเกอร์คาดการณ์ว่าตลาดจะมีความผันผวนสูงมาก จึงเพิ่ม Margin Requirement เพื่อป้องกันไม่ให้เทรดเดอร์เปิดสถานะที่มีขนาดใหญ่เกินไปเมื่อเทียบกับเงินทุน และป้องกัน Margin Call หรือ Stop Out
    • ลด Leverage: การเพิ่ม Margin Requirement โดยปริยายจะลด Leverage ที่เทรดเดอร์สามารถใช้ได้
  • ผลกระทบต่อเทรดเดอร์:
    • ต้องการเงินทุนมากขึ้น: หากต้องการเปิดสถานะขนาดเท่าเดิม เทรดเดอร์จะต้องมีเงินในบัญชี Margin มากขึ้น
    • เสี่ยงต่อ Margin Call: หากคุณมีสถานะเปิดอยู่และโบรกเกอร์เพิ่ม Margin Requirement โดยที่คุณไม่มีเงินทุนสำรองเพียงพอ คุณอาจได้รับ Margin Call ได้ง่ายขึ้น
    • จำกัดขนาดการเทรด: เทรดเดอร์อาจต้องลดขนาดการซื้อขายลงเพื่อรักษาระดับ Margin ให้เพียงพอ
  • เคล็ดลับและกฎสำหรับเทรดเดอร์:
    • เตรียมเงินทุนสำรอง: ควรมีเงินทุนสำรองในบัญชีเพียงพอเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีสถานะเปิดค้างไว้ในช่วงที่มีข่าวสำคัญ
    • ติดตามประกาศจากโบรกเกอร์: โบรกเกอร์ที่ดีมักจะแจ้งให้ลูกค้าทราบล่วงหน้าเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดมาร์จิ้น
    • ปรับขนาดการเทรด: หากจำเป็น ควรลดขนาดล็อตการเทรดลงเพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดมาร์จิ้นที่สูงขึ้น

ตารางสรุปผลกระทบจากข่าว Forex และกลยุทธ์รับมือ

เพื่อสรุปและทำความเข้าใจผลกระทบต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ตารางด้านล่างนี้จะแสดงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในช่วงประกาศข่าวสำคัญ พร้อมกลยุทธ์เบื้องต้นสำหรับเทรดเดอร์:

ปัญหาที่อาจเกิดขึ้น คำอธิบาย ผลกระทบต่อเทรดเดอร์ กลยุทธ์รับมือ
การขยายสเปรด ส่วนต่าง Bid/Ask กว้างขึ้นอย่างมาก ต้นทุนสูงขึ้น, Stop Loss/Take Profit คลาดเคลื่อน ปรับ Stop Loss/Take Profit, หลีกเลี่ยง Scalping
Slippage คำสั่งดำเนินการที่ราคาต่างจากที่คาดหวัง ได้ราคาที่ไม่ต้องการ, ขาดทุนมากขึ้น หลีกเลี่ยงเทรดช่วงข่าว, ใช้ Limit Order
Requotes โบรกเกอร์ขอราคายืนยันใหม่ พลาดโอกาส, ต้องตัดสินใจใหม่ เลือกโบรกเกอร์ Market Execution, เข้าใจ Max Deviation
การปิดการซื้อขาย อนุญาตให้ปิดเท่านั้น, ห้ามเปิดสถานะใหม่ พลาดโอกาสทำกำไร, ป้องกันขาดทุน ตรวจสอบนโยบายโบรกเกอร์, ปิดสถานะล่วงหน้า
ไม่มีการเชื่อมต่อ ไม่สามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มได้ ติดสถานะ, ขาดทุนหนัก, พลาดโอกาส เลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้, ทดสอบ Demo Account
ข้อกำหนดมาร์จิ้นที่เพิ่มขึ้น โบรกเกอร์เพิ่ม Margin Requirement ชั่วคราว ต้องการเงินทุนเพิ่ม, เสี่ยง Margin Call เตรียมเงินสำรอง, ติดตามประกาศโบรกเกอร์, ลดขนาดการเทรด

FAQ: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเทรด Forex ช่วงข่าว

1. ทำไมข่าว Forex จึงมีความสำคัญต่อการเทรด?

ข่าวเศรษฐกิจมหภาค เช่น การประกาศอัตราดอกเบี้ย, รายงานการจ้างงาน, หรือตัวเลข GDP มีอิทธิพลอย่างมากต่ออารมณ์ของตลาดและความเชื่อมั่นของนักลงทุน เมื่อตัวเลขเหล่านี้ออกมาดีกว่าหรือแย่กว่าที่คาดการณ์ไว้มาก ก็จะส่งผลให้ค่าเงินแข็งค่าขึ้นหรืออ่อนค่าลงอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวของราคาที่รุนแรงและมีปริมาณการซื้อขายที่สูงขึ้น เทรดเดอร์จึงจำเป็นต้องติดตามเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ หรือเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

2. เทรดเดอร์ควรเตรียมตัวอย่างไรก่อนถึงช่วงเวลาประกาศข่าวสำคัญ?

การเตรียมตัวที่ดีเป็นหัวใจสำคัญ:

  • ศึกษาปฏิทินเศรษฐกิจ: ทราบล่วงหน้าว่าข่าวสำคัญจะประกาศเมื่อใดและคู่สกุลเงินใดได้รับผลกระทบ
  • ตรวจสอบนโยบายโบรกเกอร์: ทำความเข้าใจว่าโบรกเกอร์ของคุณมีมาตรการพิเศษอะไรบ้างในช่วงข่าว เช่น การขยายสเปรด หรือการเพิ่ม Margin Requirement
  • บริหารความเสี่ยง: พิจารณาลดขนาดล็อตการเทรด หรือปิดสถานะทั้งหมดก่อนข่าวออก หากคุณไม่ต้องการเสี่ยงกับความผันผวนสูง
  • เตรียมเงินทุนสำรอง: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมี Margin เพียงพอในบัญชี เพื่อป้องกัน Margin Call หากคุณเลือกที่จะถือสถานะไว้
  • วางแผนการเทรด: กำหนดกลยุทธ์ที่ชัดเจนว่าจะเข้าหรือออกเมื่อใด และยอมรับความเสี่ยงได้เท่าไหร่

3. โบรกเกอร์ Forex มีวิธีการจัดการกับความผันผวนช่วงข่าวอย่างไรบ้าง?

โบรกเกอร์ใช้กลไกหลายอย่างเพื่อจัดการกับความเสี่ยงและความผันผวน โดยทั่วไปแล้วจะใช้มาตรการดังที่กล่าวมาในบทความนี้ ได้แก่ การขยายสเปรดเพื่อลดความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง การใช้ Requotes ในรูปแบบ Instant Execution เพื่อให้ลูกค้าได้รับราคาที่รับประกัน และในบางกรณีอาจมีการปิดการซื้อขายชั่วคราว หรือเพิ่มข้อกำหนดมาร์จิ้นเพื่อให้เทรดเดอร์ใช้ Leverage ได้น้อยลง ทั้งหมดนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องทั้งโบรกเกอร์และเทรดเดอร์จากสภาวะตลาดที่อาจคาดเดาได้ยากและรุนแรงเกินไป

4. การเทรดข่าวมีความเสี่ยงสูงจริงหรือไม่ และจะลดความเสี่ยงได้อย่างไร?

การเทรดข่าวมีความเสี่ยงสูงมากเนื่องจากความผันผวนของราคาที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้และความรวดเร็วของการเคลื่อนไหวที่อาจทำให้คำสั่งของคุณไม่ถูกดำเนินการตามราคาที่ต้องการ เพื่อลดความเสี่ยง คุณควร:

  • เข้าใจกลยุทธ์: มีกลยุทธ์การเทรดข่าวที่ชัดเจนและทดสอบมาแล้ว
  • ใช้ Stop Loss ที่เหมาะสม: ตั้ง Stop Loss เสมอ แต่ต้องเข้าใจว่าอาจเกิด Slippage ได้
  • จำกัดขนาดการเทรด: ไม่ควรเทรดด้วยล็อตขนาดใหญ่เกินไปในช่วงข่าว
  • เลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสม: โบรกเกอร์ที่มีความโปร่งใสและระบบการดำเนินการคำสั่งที่ดีจะช่วยลดปัญหาลงได้
  • พิจารณาไม่เทรด: หากคุณยังไม่มีประสบการณ์มากพอ การหลีกเลี่ยงการเทรดในช่วงข่าวเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุด

5. EA (Expert Advisor) สามารถช่วยในการเทรดข่าวได้หรือไม่?

EA หรือระบบเทรดอัตโนมัติ (Automated Trading System) สามารถนำมาใช้ในการเทรดข่าวได้ และอาจมีข้อได้เปรียบในเรื่องของความเร็วในการดำเนินการคำสั่ง ซึ่งมนุษย์ไม่สามารถทำได้ อย่างไรก็ตาม EA ที่ออกแบบมาสำหรับการเทรดข่าวโดยเฉพาะจะต้องมีความซับซ้อนและได้รับการทดสอบอย่างละเอียด เนื่องจากต้องรับมือกับความผันผวนสูง, Slippage และ Spread ที่กว้างขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ การใช้ EA ที่ไม่ได้รับการออกแบบมาเพื่อสภาวะตลาดช่วงข่าวโดยเฉพาะ อาจทำให้เกิดการขาดทุนอย่างรวดเร็วได้ เทรดเดอร์ควรเลือกใช้ EA ที่มีประวัติผลงานที่พิสูจน์ได้และมีความเข้าใจในกลไกการทำงานของมันเป็นอย่างดี

สรุป

การเทรด Forex ในช่วงเวลาที่มีการประกาศข่าวเศรษฐกิจสำคัญเป็นเหมือนการเดินอยู่บนเส้นด้ายที่บางเฉียบ แม้จะมีโอกาสในการทำกำไรสูง แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงและ ความท้าทายในการบริหารความเสี่ยง ที่ไม่ธรรมดา ทั้งการขยายสเปรด, Slippage, Requotes, การปิดการซื้อขายชั่วคราว, ปัญหาการเชื่อมต่อ และข้อกำหนดมาร์จิ้นที่สูงขึ้น ล้วนเป็นสิ่งที่เทรดเดอร์ต้องทำความเข้าใจและเตรียมรับมือ เพื่อให้สามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลและป้องกันตนเองจากสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน

สิ่งสำคัญที่สุดคือการเลือก โบรกเกอร์ Forex ที่มีความน่าเชื่อถือ และโปร่งใส รวมถึงการมี แผนการบริหารความเสี่ยง ที่รัดกุม การศึกษาข้อมูล ติดตามข่าวสาร และการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้คุณสามารถนำทางในตลาดที่มีความผันผวนสูงได้อย่างมั่นใจมากขึ้น ไม่ว่าคุณจะเลือกที่จะเข้าเทรดในช่วงข่าว หรือหลีกเลี่ยงเพื่อความปลอดภัย การเข้าใจกลไกและผลกระทบเหล่านี้คือปัจจัยสำคัญสู่ความสำเร็จในระยะยาว

_____________________________________________

✅ ♥️ สอบถามเพิ่มเติมที่

Line id : @ft.th https://lin.ee/u0dwlLM

———–

ติดตามเราได้ที่

?LINE: @ft.th ( https://lin.ee/u0dwlLM )

?Youtube: FTT – investing (https://shorturl.asia/7wqIe )

?Tiktok: https://vt.tiktok.com/ZSdVyv7Ny/

_____________________________________________

*การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจ
เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

You Might Also Like

Contact Us on Line