EA ระบบ Hedged Grid System: กลยุทธ์การเทรดอัตโนมัติที่ช่วยลดความเสี่ยงและสร้างโอกาสทำกำไรในตลาด Forex
ในโลกของการลงทุนในตลาดการเงินที่มีความผันผวนสูงอย่างตลาด Forex การใช้เครื่องมือและระบบอัตโนมัติเข้ามาช่วยบริหารจัดการการเทรดกลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง EA ระบบ Hedged Grid System ซึ่งเป็นระบบการซื้อขายอัตโนมัติ (Expert Advisor – EA) ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดความเสี่ยงและสร้างโอกาสในการทำกำไรภายใต้สภาวะตลาดที่หลากหลาย ระบบนี้ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายเนื่องจากคุณสมบัติเด่นที่ตอบโจทย์นักลงทุนทั้งมือใหม่และมืออาชีพ บทความนี้จะเจาะลึกถึงหลักการทำงาน ข้อดี ข้อควรพิจารณา และเคล็ดลับการใช้งาน EA Hedged Grid System อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้คุณเข้าใจและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการเทรดได้อย่างมั่นใจ
EA ระบบ Hedged Grid System คืออะไร?
EA ระบบ Hedged Grid System คือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ทำงานบนแพลตฟอร์มการซื้อขาย เช่น MetaTrader 4 (MT4) หรือ MetaTrader 5 (MT5) โดยมีกลยุทธ์หลักในการเปิดคำสั่งซื้อขายทั้งฝั่งซื้อ (Long) และฝั่งขาย (Short) ในเวลาเดียวกัน เพื่อป้องกันความเสี่ยง (Hedge) และสร้างกริดของคำสั่ง (Grid) โดยมีการตั้งระยะห่างของคำสั่งแต่ละออเดอร์อย่างสม่ำเสมอ หลักการสำคัญคือการใช้ประโยชน์จากความผันผวนของราคา ไม่ว่าจะขึ้นหรือลง ระบบจะพยายามปิดทำกำไรในแต่ละช่วง และเมื่อราคาเคลื่อนที่ผิดทาง ระบบจะเปิดออเดอร์สวนทางเพื่อลดการขาดทุนหรือเปลี่ยนสถานะเป็นการทำกำไรเมื่อราคากลับมาในทิศทางที่ต้องการ
หลักการทำงานของ Hedged Grid System
ระบบ Hedged Grid ทำงานโดยอาศัยการเปิดออเดอร์ตามช่วงราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ตัวอย่างเช่น หากคุณกำหนดให้ระบบเปิดออเดอร์ทุกๆ 10 pips เมื่อราคาเคลื่อนที่ไป 10 pips ในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง ระบบจะเปิดออเดอร์ใหม่เพิ่มขึ้นมา และในขณะเดียวกันก็จะมีออเดอร์ในทิศทางตรงกันข้ามที่เปิดอยู่เพื่อ “ป้องกันความเสี่ยง”
- การ Hedging: การเปิดสถานะ Buy และ Sell พร้อมกันในคู่เงินเดียวกัน หรือในสินทรัพย์เดียวกัน เพื่อลดความเสี่ยงจากทิศทางของตลาดที่ไม่แน่นอน หากราคาเคลื่อนที่ไปในทิศทางใด ระบบจะมีออเดอร์ที่ได้เปรียบ และในขณะเดียวกันออเดอร์ที่เสียเปรียบก็จะถูกบริหารจัดการเพื่อรอโอกาสกลับมาทำกำไรหรือลดการขาดทุน
- การสร้าง Grid: ระบบจะวางคำสั่งซื้อขายในลักษณะกริด หรือ “ตาราง” ที่มีระยะห่างเท่ากัน ตัวอย่างเช่น การเปิดออเดอร์ Buy ทุกๆ 10 pips เหนือราคาปัจจุบัน และเปิดออเดอร์ Sell ทุกๆ 10 pips ต่ำกว่าราคาปัจจุบัน การทำเช่นนี้ช่วยให้ระบบสามารถจับการเคลื่อนไหวของราคาได้ทั้งสองทิศทาง และสามารถทำกำไรจากความผันผวนเล็กๆ น้อยๆ ได้
ข้อดีของ EA ระบบ Hedged Grid System
EA ระบบ Hedged Grid System มีข้อดีหลายประการที่ทำให้เป็นที่นิยมในหมู่นักเทรด โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการระบบอัตโนมัติที่สามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมงและมีความยืดหยุ่นสูง:
1. ความอัตโนมัติและความเรียบง่ายในการทำงาน
หนึ่งในข้อดีที่โดดเด่นที่สุดคือความเป็นอัตโนมัติ EA จะทำการวิเคราะห์ตลาด เปิด/ปิดคำสั่งซื้อขาย และบริหารจัดการความเสี่ยงตามพารามิเตอร์ที่ตั้งค่าไว้ล่วงหน้าโดยไม่ต้องมีการแทรกแซงจากมนุษย์ตลอด 24 ชั่วโมงต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์
- ทำงานได้ต่อเนื่อง: ระบบสามารถเทรดได้ตลอดเวลาที่ตลาดเปิด ทำให้ไม่พลาดโอกาสในการทำกำไรแม้ในขณะที่คุณไม่ได้เฝ้าหน้าจอ
- ลดอารมณ์ในการตัดสินใจ: การเทรดด้วยอารมณ์เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เทรดเดอร์จำนวนมากขาดทุน การใช้ EA ช่วยตัดปัจจัยด้านอารมณ์ออกไป ทำให้การตัดสินใจเป็นไปตามตรรกะและแผนที่วางไว้
- เหมาะสำหรับมือใหม่: ผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ในการเทรดมากนักสามารถเริ่มต้นได้ง่ายขึ้น เพราะไม่ต้องเรียนรู้กลยุทธ์ที่ซับซ้อนด้วยตนเองทั้งหมด
2. การป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ที่มีประสิทธิภาพ
ระบบนี้ถูกออกแบบมาโดยมีกลไกการ Hedging ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการเคลื่อนไหวของราคาที่ไม่คาดฝัน การเปิดออเดอร์ทั้งสองทิศทางช่วยให้พอร์ตของคุณมีความสมดุลมากขึ้น
- ลดผลกระทบจากข่าวสำคัญ: เมื่อมีข่าวเศรษฐกิจสำคัญที่ส่งผลให้ราคาผันผวนรุนแรง การมีออเดอร์ Hedging จะช่วยลดความเสียหายจากการเคลื่อนไหวแบบฉับพลันได้ดีกว่าระบบที่ไม่ Hedging
- การฟื้นตัวของพอร์ต: หากราคาเคลื่อนที่ไปในทิศทางที่ไม่พึงประสงค์ ออเดอร์ Hedging จะช่วยพยุงพอร์ตและรอโอกาสที่ราคากลับมา เพื่อให้ระบบสามารถปิดทำกำไรโดยรวมได้
- ความยืดหยุ่นในการบริหารความเสี่ยง: คุณสามารถปรับขนาดของออเดอร์ Hedging หรือระยะห่างของ Grid เพื่อให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความสำคัญของการบริหารความเสี่ยงในการเทรด Forex สามารถดูได้ที่ กลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงใน Forex และ 7 วิธีบริหารความเสี่ยง.
3. ความยืดหยุ่นในการปรับแต่งตามความต้องการ
EA ระบบ Hedged Grid System ส่วนใหญ่มาพร้อมกับพารามิเตอร์ที่สามารถปรับแต่งได้อย่างละเอียด ทำให้คุณสามารถตั้งค่าให้เหมาะสมกับสไตล์การเทรด คู่เงินที่เทรด และระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
- ปรับระยะห่าง Grid: คุณสามารถกำหนดระยะห่างของแต่ละออเดอร์ใน Grid ได้ (เช่น 5 pips, 10 pips, 20 pips) ซึ่งส่งผลต่อความถี่ในการเปิดออเดอร์และขนาดของการทำกำไรต่อรอบ
- ปรับขนาด Lot Size: สามารถกำหนดขนาด Lot Size เริ่มต้น และอัตราการเพิ่ม Lot Size (Martingale หรือ Anti-Martingale) เพื่อควบคุมผลตอบแทนและความเสี่ยง
- กำหนด Take Profit และ Stop Loss: แม้จะเป็นระบบ Grid แต่ก็ยังสามารถกำหนดจุดทำกำไร (Take Profit) และจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) สำหรับออเดอร์แต่ละชุดหรือสำหรับ Grid ทั้งหมดได้
- เลือกช่วงเวลาและคู่เงิน: สามารถตั้งค่าให้ EA ทำงานเฉพาะช่วงเวลาที่ตลาดมีความผันผวนสูง หรือเฉพาะกับคู่เงินที่คุณมีความเชี่ยวชาญ
4. ความสามารถในการทำกำไรจากความผันผวนของราคาในระยะสั้น
เนื่องจากระบบ Grid จะเปิดออเดอร์ทั้งสองทิศทางและมีระยะห่างของคำสั่งที่ค่อนข้างถี่ ทำให้สามารถจับโอกาสในการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาที่ผันผวนไปมาในกรอบแคบๆ ได้เป็นอย่างดี
- Scalping Opportunities: ในสภาวะตลาดที่ไม่มีเทรนด์ชัดเจน หรือมีการเคลื่อนไหวในกรอบ ระบบสามารถทำกำไรเล็กๆ น้อยๆ จากการ Scalping ได้อย่างต่อเนื่อง
- เหมาะกับตลาด Sideways: หากตลาดเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideways หรือออกข้างเป็นระยะเวลานาน ระบบ Hedged Grid จะมีประสิทธิภาพสูงในการเก็บกำไร
- ลดความจำเป็นในการคาดเดาทิศทาง: คุณไม่จำเป็นต้องคาดเดาทิศทางตลาดที่แม่นยำ เพราะระบบจะทำงานโดยอาศัยการเคลื่อนไหวของราคา ไม่ว่าตลาดจะขึ้นหรือลง
สำหรับเทคนิคการเทรดสั้นหรือ Scalping คุณสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ Scalping Trading Strategy และ Easy Scalping Beginners Guide.
5. ทำกำไรได้ดีในสภาวะราคาที่เคลื่อนที่แนวนอนเป็นระยะเวลานาน
ตลาด Forex ไม่ได้มีแต่ช่วงที่เป็นเทรนด์ขาขึ้นหรือขาลงเท่านั้น แต่ยังมีช่วงที่ราคาเคลื่อนที่ในลักษณะ Sideways หรือ “ออกข้าง” เป็นระยะเวลานาน ซึ่งเป็นสภาวะที่เทรดเดอร์จำนวนมากประสบปัญหา แต่สำหรับ EA ระบบ Hedged Grid System นี่คือโอกาสทอง
- การเก็บกำไรในกรอบ: เมื่อราคาติดอยู่ในกรอบแคบๆ ระบบจะเปิดออเดอร์ทั้ง Buy และ Sell ตามกริดที่ตั้งไว้ และปิดทำกำไรเมื่อราคาชน TP ในแต่ละออเดอร์ ทำให้สามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างสม่ำเสมอในสภาวะที่ตลาด “ไร้ทิศทาง”
- ลดความเสี่ยงจากการไล่ตามเทรนด์: ในช่วงตลาด Sideways การพยายามไล่ตามเทรนด์อาจนำไปสู่การขาดทุนซ้ำๆ แต่ระบบ Hedged Grid หลีกเลี่ยงปัญหานี้โดยการใช้ประโยชน์จากความผันผวนภายในกรอบ
- ความเหมาะสมกับคู่เงินที่มีความผันผวนปานกลาง: คู่เงินบางคู่มีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวในกรอบบ่อยครั้ง ระบบนี้จึงเหมาะกับการนำไปใช้กับคู่เงินเหล่านั้น
ข้อควรพิจารณาและความเสี่ยงของ EA ระบบ Hedged Grid System
แม้ว่า EA ระบบ Hedged Grid System จะมีข้อดีหลายประการ แต่ก็มีข้อควรพิจารณาและความเสี่ยงที่นักลงทุนควรทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ก่อนนำไปใช้งานจริง:
- ความเสี่ยงเมื่อตลาดเป็นเทรนด์แรง: หากตลาดเกิดเทรนด์ที่แข็งแกร่งและต่อเนื่องไปในทิศทางเดียวเป็นระยะเวลานาน ระบบ Hedged Grid ที่ออกแบบมาเพื่อตลาด Sideways อาจประสบปัญหาอย่างรุนแรง เนื่องจากออเดอร์ที่เปิดสวนเทรนด์จะสะสมการขาดทุนและ Lot Size อาจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ (หากมีการใช้กลยุทธ์ Martingale) ซึ่งอาจนำไปสู่ Margin Call หรือล้างพอร์ตได้
- การใช้ Margin สูง: การเปิดออเดอร์จำนวนมากทั้งสองทิศทางและอาจมีการเพิ่ม Lot Size ทำให้ระบบใช้ Margin ในบัญชีค่อนข้างสูง หากบัญชีมี Equity ไม่เพียงพอ จะเพิ่มความเสี่ยงในการถูก Margin Call
- ความซับซ้อนในการตั้งค่า: แม้จะบอกว่าใช้งานง่าย แต่การตั้งค่าพารามิเตอร์ต่างๆ เช่น ระยะห่างของ Grid, Lot Size, Take Profit, และการบริหารจัดการ Drawdown ให้เหมาะสมกับสภาวะตลาดและขนาดของบัญชีนั้นต้องใช้ความเข้าใจและประสบการณ์
- การทดสอบย้อนหลัง (Backtesting) สำคัญมาก: การนำ EA ไปใช้โดยไม่มีการทดสอบ Backtest ที่ดีพอ อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิด ควรทดสอบกับข้อมูลย้อนหลังหลายปีและในสภาวะตลาดที่แตกต่างกันเพื่อประเมินประสิทธิภาพและความเสี่ยง
การทำความเข้าใจ Drawdown คืออะไร และ Margin Call คืออะไร เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการบริหารความเสี่ยงสำหรับระบบ Grid System
เคล็ดลับการใช้งาน EA ระบบ Hedged Grid System อย่างมีประสิทธิภาพ
เพื่อให้การใช้งาน EA ระบบ Hedged Grid System เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยง นักลงทุนควรปฏิบัติตามเคล็ดลับเหล่านี้:
- เลือกคู่เงินที่เหมาะสม: EA ประเภทนี้เหมาะกับคู่เงินที่มีพฤติกรรมเคลื่อนที่ Sideways หรือมีความผันผวนในกรอบบ่อยครั้ง หลีกเลี่ยงคู่เงินที่มีแนวโน้มเป็นเทรนด์แรงหรือผันผวนรุนแรงเกินไป
- เริ่มต้นด้วยบัญชี Demo: ก่อนที่จะนำไปใช้กับบัญชีจริง ควรทดสอบประสิทธิภาพและทำความคุ้นเคยกับการตั้งค่าบนบัญชี Demo เพื่อเรียนรู้พฤติกรรมของ EA ในสภาวะตลาดจริง
- ทำความเข้าใจพารามิเตอร์: ศึกษาและทำความเข้าใจพารามิเตอร์ต่างๆ ของ EA อย่างละเอียด เช่น Grid Step (ระยะห่างของออเดอร์), Lot Multiplier (ตัวคูณ Lot Size), Take Profit, Stop Loss และ Maximum Drawdown ที่ยอมรับได้
- บริหารจัดการขนาด Lot Size: การกำหนด Lot Size ที่เหมาะสมกับขนาด Equity ของบัญชีเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง หลีกเลี่ยงการใช้ Lot Size ที่ใหญ่เกินไป ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงในการ Margin Call อย่างรวดเร็ว
- เฝ้าระวังข่าวสาร: แม้ว่า EA จะทำงานอัตโนมัติ แต่การติดตามข่าวสารเศรษฐกิจที่สำคัญยังคงเป็นสิ่งจำเป็น เพราะข่าวอาจทำให้ราคาเคลื่อนที่นอกเหนือการควบคุมของระบบ Grid ได้ ควรพิจารณาหยุด EA ชั่วคราวในช่วงที่มีข่าวสำคัญมากๆ
- ใช้ VPS (Virtual Private Server): เพื่อให้ EA ทำงานได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่หยุดชะงัก ควรติดตั้ง EA บน VPS เพื่อให้โปรแกรมทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องเปิดคอมพิวเตอร์ของคุณทิ้งไว้
- มีการถอนกำไรอย่างสม่ำเสมอ: หาก EA ทำกำไรได้ ควรพิจารณาถอนกำไรออกมาเป็นระยะ เพื่อลดความเสี่ยงของเงินทุนที่อยู่ในตลาด
- ตั้งค่า Stop Loss โดยรวม (Optional): บาง EA อาจมีฟังก์ชันการตั้ง Stop Loss โดยรวมสำหรับ Grid ทั้งหมด หากราคาวิ่งผิดทางไปมากจนถึงจุดที่ยอมรับการขาดทุนได้ ระบบจะปิดออเดอร์ทั้งหมดเพื่อจำกัดความเสียหาย
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ VPS คืออะไร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน EA.



FAQ: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ EA ระบบ Hedged Grid System
Q1: EA ระบบ Hedged Grid System เหมาะกับนักลงทุนประเภทใด?
A: EA ระบบ Hedged Grid System เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการระบบเทรดอัตโนมัติเพื่อลดการใช้เวลาในการเฝ้าหน้าจอ และผู้ที่ต้องการกระจายความเสี่ยงโดยการใช้กลยุทธ์ Hedging นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับนักลงทุนที่เข้าใจและยอมรับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับระบบ Grid ซึ่งอาจมี Drawdown สูงในช่วงตลาดที่มีเทรนด์รุนแรง
Q2: ข้อแตกต่างระหว่าง Hedged Grid กับ Grid System แบบธรรมดาคืออะไร?
A: Grid System แบบธรรมดามักจะเปิดออเดอร์ในทิศทางเดียว (เช่น Buy Grid หรือ Sell Grid) เพื่อตามเทรนด์ หรือสวนเทรนด์โดยตรง ซึ่งมีความเสี่ยงสูงเมื่อตลาดเปลี่ยนทิศทางอย่างรุนแรง ในขณะที่ Hedged Grid System จะเปิดออเดอร์ทั้งสองทิศทาง (Buy และ Sell) ในเวลาเดียวกัน เพื่อป้องกันความเสี่ยงและพยายามทำกำไรจากความผันผวนของราคาได้ทั้งขาขึ้นและขาลง
Q3: ควรเริ่มต้นใช้ EA ระบบ Hedged Grid ด้วยเงินทุนเท่าไหร่?
A: จำนวนเงินทุนที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับการตั้งค่า EA (เช่น ระยะห่าง Grid, Lot Size, คู่เงินที่เทรด) และระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ โดยทั่วไปแล้ว ระบบ Grid System มักต้องการเงินทุนที่ค่อนข้างมากเพื่อรองรับ Drawdown ที่อาจเกิดขึ้นเมื่อตลาดเป็นเทรนด์ที่รุนแรง การเริ่มต้นด้วยบัญชีขนาดเล็กที่มี Lot Size ที่เหมาะสมและมีการบริหารความเสี่ยงที่ดีจะช่วยลดความเสี่ยงลงได้มาก ควรเริ่มต้นทดสอบกับบัญชี Demo ก่อนเสมอเพื่อหาจุดสมดุลที่เหมาะสม
Q4: EA Hedged Grid System สามารถทำกำไรได้ตลอดเวลาจริงหรือไม่?
A: ไม่มีระบบเทรดใดที่สามารถทำกำไรได้ตลอดเวลา 100% EA Hedged Grid System มีจุดแข็งในตลาด Sideways หรือตลาดที่มีความผันผวนในกรอบ แต่จะมีความเสี่ยงสูงเมื่อตลาดเป็นเทรนด์ที่แข็งแกร่งและต่อเนื่องไปในทิศทางเดียวเป็นระยะเวลานาน สิ่งสำคัญคือการทำความเข้าใจข้อจำกัดของระบบและการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม
Q5: การเลือกโบรกเกอร์มีผลต่อการทำงานของ EA หรือไม่?
A: มีผลอย่างมาก โบรกเกอร์ที่มีสเปรดต่ำ ค่าคอมมิชชั่นที่ยุติธรรม และการดำเนินการคำสั่งซื้อขายที่รวดเร็ว (Low Latency) จะช่วยให้ EA ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ โบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือและมีสภาพคล่องสูงจะช่วยให้คุณมั่นใจในการฝากถอนเงินและลดความกังวลเกี่ยวกับปัญหาทางเทคนิคอื่นๆ
คุณสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ โบรกเกอร์สเปรดต่ำ ที่เหมาะสำหรับการเทรด Scalping หรือ Grid System ได้
สนใจรับ EA ฟรี ติดต่อ Admin ทาง inbox เพจ หรือแอด Line @ft.th ได้เลย
บทสรุป (Conclusion)
EA ระบบ Hedged Grid System เป็นเครื่องมืออัตโนมัติที่มีศักยภาพสูงในการสร้างผลกำไรในตลาด Forex โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาวะตลาด Sideways หรือมีความผันผวนในกรอบ ด้วยจุดเด่นด้านความเป็นอัตโนมัติ การป้องกันความเสี่ยง และความยืดหยุ่นในการปรับแต่ง ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนหลากหลายกลุ่ม อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำความเข้าใจหลักการทำงาน ข้อจำกัด และความเสี่ยงที่มาพร้อมกับระบบนี้ การตั้งค่าพารามิเตอร์อย่างรอบคอบ การบริหารจัดการเงินทุนอย่างมีวินัย และการเฝ้าระวังตลาดอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้คุณสามารถใช้ประโยชน์จาก EA Hedged Grid System ได้อย่างเต็มศักยภาพ และประสบความสำเร็จในการเทรดในระยะยาว
คำแนะนำ: การลงทุนในตลาด Forex มีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้เข้าใจถึงลักษณะสินค้า เงื่อนไข และผลตอบแทนความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
สมัครยืนยันตัวตนรับ EA ได้ฟรีตลอดชีพ
XM มีโบนัสสำหรับลูกค้าที่สมัครใหม่ $30 และมีโบนัสเงินฝาก
Exness สมัครง่ายฝากถอนเร็ว
https://bit.ly/ExnessCom
รหัสพาสเนอร์เลข 11000789
GMI เทรดดีไม่มีสะดุด
ฟรี Free Swap ทุกบัญชี
https://bit.ly/GMI-TH
รหัส IB GMP28407
______________
*การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต