เจาะลึกกลยุทธ์ Descending Broadening Wedge: รูปแบบการกลับตัวของแนวโน้มขาขึ้นที่คุณต้องรู้
ในโลกของการเทรด รูปแบบกราฟ (Chart Patterns) เปรียบเสมือนแผนที่ที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถคาดการณ์ทิศทางของตลาดได้แม่นยำยิ่งขึ้น หนึ่งในรูปแบบที่สำคัญและมักถูกมองข้ามคือ Descending Broadening Wedge ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนการกลับตัวของแนวโน้มจากขาลงเป็นขาขึ้นที่ทรงพลัง บทความนี้จะเจาะลึกถึงความหมาย วิธีการระบุ กลไกเบื้องหลัง และกลยุทธ์การเทรดที่ใช้รูปแบบนี้อย่างละเอียด เพื่อให้คุณสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการตัดสินใจลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Descending Broadening Wedge คืออะไร: ความหมายและลักษณะสำคัญ
Descending Broadening Wedge เป็นรูปแบบกราฟแท่งเทียนที่จัดอยู่ในหมวดหมู่ของ รูปแบบการกลับตัวของแนวโน้ม (Reversal Pattern) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มันส่งสัญญาณถึงการสิ้นสุดของแนวโน้มขาลงและศักยภาพในการเริ่มต้นของแนวโน้มขาขึ้นในระยะยาว.
ลักษณะทางกายภาพของ Descending Broadening Wedge
รูปแบบนี้โดดเด่นด้วยคลื่นราคาที่กำลังขยายตัวในขณะที่เคลื่อนที่ลงมา ประกอบด้วยเส้นแนวโน้มสองเส้นที่กางออก (Broadening) ในทิศทางขาลง (Descending) โดยมีรายละเอียดดังนี้:
- จุดเริ่มต้นที่แคบ: รูปแบบจะเริ่มต้นด้วยการเคลื่อนไหวของราคาที่ค่อนข้างจำกัดและแคบลง
- การขยายตัวของคลื่นราคา: เมื่อราคายังคงเคลื่อนที่ลงมา คลื่นราคาแต่ละลูกจะเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าคลื่นก่อนหน้าอย่างเห็นได้ชัด นั่นหมายความว่าจุดสูงสุดที่ต่ำลง (Lower Highs) และจุดต่ำสุดที่ต่ำลง (Lower Lows) จะถูกสร้างขึ้นในระยะที่ห่างกันมากขึ้นเรื่อยๆ
- เส้นแนวโน้มที่กางออก: เมื่อลากเส้นแนวโน้มเชื่อมจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดของคลื่นเหล่านี้ คุณจะสังเกตเห็นว่าเส้นทั้งสองจะกางออกจากกันคล้ายรูปพัดหรือปากแตรที่เปิดกว้างออกไปด้านล่าง
ความสมมาตรและลวดลายที่เป็นธรรมชาติของรูปแบบเหล่านี้เป็นสิ่งที่ทำให้มันมีเอกลักษณ์และเป็นที่นิยมในหมู่นักเทรดรายย่อยในการคาดการณ์ตลาด

วิธีการระบุรูปแบบ Descending Broadening Wedge บนกราฟราคา
การระบุรูปแบบ Descending Broadening Wedge บนกราฟอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักเทรด เพื่อให้สามารถนำกลยุทธ์ไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นี่คือขั้นตอนและเกณฑ์ที่คุณควรปฏิบัติตาม:
- ระบุจุดเริ่มต้นของคลื่นราคา: สังเกตการเคลื่อนไหวของราคาที่แสดงแนวโน้มขาลง โดยเริ่มแรกราคาจะสร้างจุดต่ำสุดที่ต่ำกว่า (Lower Lows) และจุดสูงสุดที่ต่ำกว่า (Lower Highs) อย่างต่อเนื่อง
- การขยายตัวของคลื่น: คลื่นราคาแต่ละคลื่นที่เกิดขึ้นถัดไปควรจะมีขนาดหรือความกว้างของการแกว่งตัวที่ใหญ่ขึ้นกว่าคลื่นก่อนหน้าอย่างชัดเจน บ่งบอกถึงความผันผวนที่เพิ่มขึ้นภายในแนวโน้มขาลง
- ลากเส้นแนวโน้ม (Trendlines):
- เส้นแนวโน้มด้านบน: ลากเชื่อมจุดสูงสุดที่ต่ำลงอย่างน้อยสองจุด
- เส้นแนวโน้มด้านล่าง: ลากเชื่อมจุดต่ำสุดที่ต่ำลงอย่างน้อยสองจุด
คุณจะพบว่าเส้นแนวโน้มทั้งสองนี้จะกางออกจากกัน โดยมีปลายด้านซ้าย (จุดเริ่มต้นของรูปแบบ) แคบและปลายด้านขวา (จุดสิ้นสุดของรูปแบบ) กว้างออกไป
- จำนวนคลื่นที่เหมาะสม: เพื่อให้รูปแบบมีความน่าเชื่อถือ ควรมีคลื่นราคาภายในรูปแบบ Descending Broadening Wedge อย่างน้อยสามคลื่น
- การยืนยันการขยายตัว: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าจุดเริ่มต้นของรูปแบบมีความแคบ และเมื่อราคาวิ่งลงไปเรื่อยๆ ช่วงการแกว่งตัวจะกว้างขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นการยืนยันลักษณะ “Broadening” ของ Wedge
ตัวอย่างประกอบ: ลองดูภาพด้านล่างเพื่อทำความเข้าใจการระบุรูปแบบนี้บนกราฟราคาได้ดียิ่งขึ้น จะเห็นว่าราคาค่อยๆ ลดต่ำลง แต่ความผันผวนระหว่างจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดกลับเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างเส้นแนวโน้มที่กว้างขึ้น

Descending Broadening Wedge บอกอะไรกับเทรดเดอร์?
รูปแบบ Descending Broadening Wedge เป็นมากกว่าแค่รูปทรงบนกราฟ มันสะท้อนถึง พฤติกรรมราคา (Price Action) และจิตวิทยาของตลาดที่ซับซ้อน ซึ่งนักเทรดควรทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง เพื่อใช้ในการตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด
กลไกทางจิตวิทยาและพฤติกรรมตลาด
เมื่อราคาสร้างจุดต่ำสุดที่ต่ำลงอย่างต่อเนื่อง และคลื่นราคาแต่ละลูกมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าคลื่นก่อนหน้า นี่คือสัญญาณที่บ่งชี้ถึงสภาวะที่สำคัญหลายประการ:
- ความลังเลของตลาด: แม้ว่าแนวโน้มโดยรวมจะเป็นขาลง แต่การที่คลื่นราคาเริ่มขยายตัว แสดงให้เห็นว่าแรงขายเริ่มอ่อนแอลง และแรงซื้อเริ่มมีความพยายามที่จะเข้าสู่ตลาดมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ยังไม่สามารถพลิกกลับแนวโน้มได้อย่างสมบูรณ์
- การไล่ล่า Stop Loss ของสถาบัน: ในช่วงปลายของรูปแบบนี้ ผู้เล่นรายใหญ่หรือ “Market Makers” มักจะใช้ประโยชน์จากความผันผวนที่เพิ่มขึ้น เพื่อ “กำจัด” หรือ “ไล่ล่า Stop Loss” ของนักเทรดรายย่อย โดยการผลักดันราคาให้เคลื่อนไหวอย่างรุนแรงในทิศทางตรงกันข้ามกับตำแหน่งของนักเทรดส่วนใหญ่ Stop Loss (SL) ของนักเทรดรายย่อยที่เปิดสถานะ Sell มักจะอยู่เหนือจุดสูงสุดก่อนหน้า การที่ราคาสามารถทะลุจุดสูงสุดเหล่านี้ได้ในช่วงสั้นๆ เป็นการเรียก Stop Loss และเก็บสภาพคล่อง
- สภาวะ Oversold: การที่ราคาทำจุดต่ำสุดที่ต่ำลงติดต่อกันหลายครั้ง บ่งชี้ว่าสินทรัพย์อยู่ในสภาวะ “ขายมากเกินไป” (Oversold) ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญที่เอื้อต่อการกลับตัวของราคา
- การสะสมกำลัง: คลื่นสุดท้ายของรูปแบบ Descending Broadening Wedge มักจะเป็นคลื่นที่ใหญ่ที่สุด บ่งบอกว่าตลาดได้ดูดซับแรงขายและกำจัดนักเทรดรายย่อยออกไปได้มากที่สุดแล้ว เหลือแต่ผู้เล่นที่แข็งแกร่งและมีศักยภาพในการผลักดันราคาขึ้น

บทสรุปสำหรับเทรดเดอร์
ดังนั้น เมื่อคุณเห็นรูปแบบ Descending Broadening Wedge บนกราฟ ให้เข้าใจว่านี่คือสัญญาณที่มีความหมาย: ตลาดกำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญ และมีโอกาสสูงที่จะเกิดการกลับตัวเป็นแนวโน้มขาขึ้น (Bullish Reversal) อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องระมัดระวัง สัญญาณหลอก (False Signals) ที่ผู้ดูแลสภาพคล่องอาจสร้างขึ้นเพื่อหลอกล่อนักเทรดรายย่อย ดังนั้น ประสบการณ์และการใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ ร่วมด้วยจึงเป็นสิ่งสำคัญในการยืนยันสัญญาณ
กลยุทธ์การเทรด Descending Broadening Wedge อย่างมืออาชีพ
การเทรดด้วยรูปแบบ Descending Broadening Wedge ต้องอาศัยกลยุทธ์ที่ชัดเจน ประกอบด้วยจุดเข้า (Entry), จุดหยุดขาดทุน (Stop Loss), จุดทำกำไร (Take Profit) และที่สำคัญคือการบริหารความเสี่ยง (Risk Management) เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและจำกัดความเสี่ยง

ขั้นตอนการเทรด Descending Broadening Wedge
- การระบุและยืนยันรูปแบบ:
- ลากเส้นแนวโน้มสองเส้นเชื่อมจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดของคลื่นราคา
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีคลื่นราคาอย่างน้อย 3 คลื่นภายในรูปแบบ
- ยืนยันว่ารูปแบบมีการกางออก โดยจุดเริ่มต้นแคบและจุดสิ้นสุดกว้าง
- รอสัญญาณ Breakout:
รอให้ราคาทะลุ เส้นแนวโน้มด้านบน ของรูปแบบด้วยแท่งเทียนขนาดใหญ่ (Strong Bullish Candlestick) การทะลุแนวต้านนี้เป็นสัญญาณแรกของการกลับตัวที่กำลังจะเกิดขึ้น
- กลยุทธ์การเข้าเทรด (Entry Strategy):
มี 2 ทางเลือกหลักหลังจากการ Breakout:
- เข้าทันทีเมื่อ Breakout: หากแท่งเทียน Breakout มีความแข็งแกร่งและมี Volume การซื้อขายสูง คุณสามารถพิจารณาเข้าสถานะ Long (ซื้อ) ได้ทันที
- รอการ Retest (Pullback) – ทางเลือกที่อนุรักษ์นิยมและมีความเสี่ยงต่ำกว่า: นี่คือกลยุทธ์ที่แนะนำสำหรับนักเทรดที่ต้องการความมั่นใจมากขึ้น รอนให้ราคาย้อนกลับลงมาทดสอบเส้นแนวโน้มด้านบนที่ถูก Breakout ไปแล้ว (ซึ่งตอนนี้กลายเป็นแนวรับ) หากราคาสามารถรักษาระดับเหนือเส้นแนวรับนี้และแสดงสัญญาณ Bullish เช่น รูปแบบ Bullish Engulfing หรือ Pin Bar คุณสามารถเข้าสถานะ Long ได้ที่จุดนี้
ทำไมถึงควรรอ Retest? การรอ Retest ช่วยยืนยันว่าการ Breakout นั้นเป็นของจริง ไม่ใช่สัญญาณหลอก (False Breakout) และยังช่วยให้ได้จุดเข้าที่ดีขึ้น ด้วยความเสี่ยงที่น้อยลงเนื่องจาก Stop Loss จะอยู่ใกล้กับจุดเข้ามากขึ้น
- การกำหนดจุดหยุดขาดทุน (Stop Loss – SL):
วาง Stop Loss ไว้ต่ำกว่าจุดต่ำสุดล่าสุดที่เกิดจากคลื่นราคาก่อนการ Breakout เล็กน้อย หรือต่ำกว่าเส้นแนวรับที่ถูก Retest หากคุณใช้กลยุทธ์การรอ Retest การวาง SL ที่จุดนี้จะช่วยป้องกันการขาดทุนอย่างรุนแรงหากราคากลับมาเคลื่อนที่ในทิศทางขาลงอีกครั้ง
- การกำหนดจุดทำกำไร (Take Profit – TP):
กำหนดจุดทำกำไรเป้าหมายที่จุดเริ่มต้นของรูปแบบ Descending Broadening Wedge หรือที่ระดับแนวต้านสำคัญก่อนหน้า การตั้งเป้าหมายนี้อิงจากหลักการที่ว่าราคาจะพยายามกลับไปทดสอบจุดเริ่มต้นของรูปแบบหลังจากเกิดการกลับตัว

การเสริมความแข็งแกร่งด้วยเครื่องมืออื่นๆ
แม้ว่ารูปแบบ Descending Broadening Wedge จะเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ แต่การใช้ร่วมกับ เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของสัญญาณและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้อย่างมาก:
- อินดิเคเตอร์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Indicator): การ Breakout ที่มีปริมาณการซื้อขายที่สูงอย่างมีนัยสำคัญ จะช่วยยืนยันความแข็งแกร่งของการเคลื่อนไหว
- อินดิเคเตอร์ Momentum (เช่น RSI, MACD): ตรวจสอบว่าอินดิเคเตอร์เหล่านี้แสดงสัญญาณ Divergence แบบ Bullish ซึ่งบ่งชี้ว่าแรงขายกำลังอ่อนตัวลงและแรงซื้อกำลังเข้ามา
- ระดับแนวรับและแนวต้าน (Support and Resistance): ใช้แนวรับและแนวต้านที่สำคัญเพื่อยืนยันจุดทำกำไรและประเมินความแข็งแกร่งของแนวโน้ม
- รูปแบบแท่งเทียนยืนยัน: มองหารูปแบบแท่งเทียน Bullish Reversal (เช่น Hammer, Morning Star) ที่จุด Breakout หรือ Retest
คำแนะนำสำคัญ: ก่อนที่จะนำกลยุทธ์นี้ไปใช้ในการเทรดจริง ควรทำการทดสอบย้อนหลัง (Backtesting) อย่างละเอียด และฝึกฝนในบัญชีทดลอง (Demo Account) จนกว่าจะมั่นใจในความเข้าใจและทักษะของคุณ
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับ Descending Broadening Wedge
| คำถาม | คำตอบ |
|---|---|
| Descending Broadening Wedge คืออะไร? | เป็นรูปแบบกราฟ Wedge Pattern ชนิดหนึ่งที่บ่งชี้ถึงการกลับตัวของแนวโน้มจากขาลงเป็นขาขึ้น ประกอบด้วยคลื่นราคาที่ขยายตัวในขณะที่เคลื่อนที่ลง โดยเส้นแนวโน้มด้านบนและด้านล่างจะกางออกจากกัน |
| รูปแบบนี้บอกอะไรกับเทรดเดอร์? | มันบอกว่าแนวโน้มขาลงกำลังจะสิ้นสุดลง และมีโอกาสสูงที่จะเกิดการกลับตัวเป็นแนวโน้มขาขึ้น เนื่องจากแรงขายเริ่มอ่อนแอลง และตลาดอยู่ในสภาวะ Oversold พร้อมที่จะเกิดการสะสมกำลังจากผู้ซื้อรายใหญ่ |
| จะระบุรูปแบบ Descending Broadening Wedge ได้อย่างไร? | ระบุจากจุดต่ำสุดที่ต่ำลงและจุดสูงสุดที่ต่ำลงอย่างต่อเนื่อง โดยคลื่นราคาแต่ละคลื่นจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ลากเส้นแนวโน้มสองเส้นเชื่อมจุดสูงสุดและจุดต่ำสุด ซึ่งจะกางออกจากกัน และควรมีอย่างน้อย 3 คลื่นภายในรูปแบบ |
| กลยุทธ์การเทรดด้วยรูปแบบนี้เป็นอย่างไร? | รอยืนยันการ Breakout เหนือเส้นแนวโน้มด้านบน อาจเข้าทันทีหรือรอการ Retest จากนั้นตั้ง Stop Loss ใต้จุดต่ำสุดล่าสุด หรือใต้เส้นแนวโน้มที่ถูก Retest และตั้ง Take Profit ที่จุดเริ่มต้นของรูปแบบ |
| ควรใช้เครื่องมืออื่นใดร่วมด้วย? | ควรใช้ร่วมกับอินดิเคเตอร์ปริมาณการซื้อขาย (Volume), อินดิเคเตอร์ Momentum (เช่น RSI, MACD), ระดับแนวรับ-แนวต้านที่สำคัญ และรูปแบบแท่งเทียนยืนยัน (Candlestick Reversal Patterns) เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือของสัญญาณ |
สรุป: Descending Broadening Wedge กุญแจสู่การจับจังหวะกลับตัว
Descending Broadening Wedge เป็นรูปแบบกราฟที่ทรงพลังซึ่งให้ข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้ม มันทำหน้าที่เป็นสัญญาณเตือนล่วงหน้าที่บ่งชี้ถึงการสิ้นสุดของแรงกดดันขาลงและศักยภาพในการเริ่มต้นของแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง การทำความเข้าใจความหมาย การระบุที่ถูกต้อง และการประยุกต์ใช้กลยุทธ์การเทรดที่เหมาะสม จะช่วยให้นักลงทุนสามารถคว้าโอกาสในการทำกำไรจากการกลับตัวของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าไม่มีรูปแบบกราฟใดที่สมบูรณ์แบบ การผสมผสานรูปแบบนี้เข้ากับการวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ และการบริหารความเสี่ยงที่เข้มงวด จะเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในระยะยาวในตลาดการเงิน
หากคุณสนใจที่จะเรียนรู้กลยุทธ์การเทรดเพิ่มเติม หรือต้องการเครื่องมือช่วยในการตัดสินใจ สามารถเข้าร่วมกลุ่มผู้ใช้ EA (Expert Advisor) ของเราได้ฟรี เพียง เปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ที่ร่วมรายการ และส่งเลข MT4 เพื่อรับลิงก์เข้ากลุ่ม
https://bit.ly/GMI-TH


