TOP 10 บทความยอดนิยม

ดูทั้งหมด
สอนเทรดมือใหม่

4 รูปแบบแท่งเทียน Bullish ที่ดี

กรกฎาคม 21, 2022

เปิดเผย 4 รูปแบบแท่งเทียน Bullish ที่เทรดเดอร์มืออาชีพต้องรู้ เพื่อคว้าโอกาสในตลาด!

ในโลกของการเทรด ไม่ว่าจะเป็นตลาด Forex, ตลาดหุ้น หรือตลาดสินทรัพย์อื่นๆ การทำความเข้าใจพฤติกรรมราคาเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด และหนึ่งในเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดในการวิเคราะห์พฤติกรรมเหล่านั้นคือ รูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รูปแบบแท่งเทียนขาขึ้น (Bullish Candlestick Patterns) ที่เป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงการกลับตัวของแนวโน้มขาลงเป็นขาขึ้น หรือการต่อเนื่องของแนวโน้มขาขึ้นเดิม รูปแบบเหล่านี้เป็นเสมือนแผนที่นำทางที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถคาดการณ์การเคลื่อนไหวของตลาด เพื่อแสวงหาผลกำไรที่เหมาะสม

บทความนี้จะเจาะลึก 4 รูปแบบแท่งเทียนขาขึ้นที่ได้รับการยอมรับและใช้งานอย่างแพร่หลายจากเทรดเดอร์ทั่วโลก โดยจะอธิบายถึงโครงสร้าง, จิตวิทยาเบื้องหลัง, และวิธีการนำไปใช้ในการตัดสินใจเทรดอย่างละเอียด เพื่อให้คุณสามารถนำความรู้นี้ไปปรับใช้กับการวิเคราะห์ทางเทคนิคในทุกอุตสาหกรรมได้อย่างมั่นใจ

กราฟแท่งเทียน Bullish

ทำไมรูปแบบแท่งเทียน Bullish จึงเป็นหัวใจสำคัญของการวิเคราะห์ตลาด?

รูปแบบแท่งเทียนขาขึ้นเหล่านี้ถือเป็นสากล เพราะหลักการทำงานและจิตวิทยาที่อยู่เบื้องหลังนั้นสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับการวิเคราะห์ทางเทคนิคในทุกตลาด ไม่ว่าจะเป็นตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Forex), ตลาดหุ้น, หรือแม้แต่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์อย่างทองคำ ความพิเศษนี้ทำให้เทรดเดอร์รายย่อยจำนวนมากนิยมใช้รูปแบบเหล่านี้ในการคาดการณ์ทิศทางตลาด

การทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงรูปแบบเหล่านี้ ไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณระบุจุดเข้าซื้อที่มีศักยภาพ แต่ยังช่วยให้คุณเข้าใจถึงพลวัตระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการสร้าง กลยุทธ์การเทรดที่มีประสิทธิภาพ และเพิ่มโอกาสในการทำกำไรสูงสุดในตลาดการเงิน

1. Bullish Pin Bar: สัญญาณการปฏิเสธราคาจากผู้ซื้อที่แข็งแกร่ง

Bullish Pin Bar หรือที่รู้จักกันในชื่อ Pinocchio Bar เป็นหนึ่งในรูปแบบแท่งเทียนที่บ่งบอกถึงการกลับตัวได้อย่างชัดเจน มีลักษณะเด่นคือ “หางยาว” (Long Shadow หรือ Wick) ที่ยื่นลงมาด้านล่าง และมี “ลำตัวเล็ก” (Small Body) อยู่ที่ส่วนบนของแท่งเทียน

  • โครงสร้าง: ในกรณีของ Bullish Pin Bar ลำตัวของแท่งเทียนจะอยู่ค่อนไปทางด้านบน แสดงให้เห็นว่าราคาเปิดและราคาปิดอยู่ใกล้กันและสูงกว่าระดับต่ำสุดอย่างมาก ส่วนหางที่ยื่นยาวลงมาด้านล่างบ่งชี้ถึงการที่ราคาถูกผลักดันลงไปอย่างรุนแรงในช่วงหนึ่ง แต่ก็ถูกผลักดันกลับขึ้นมาได้ในที่สุด
  • อัตราส่วน: โดยทั่วไปแล้ว หางของ Pin Bar ควรมีสัดส่วนประมาณ 70-80% ของขนาดแท่งเทียนทั้งหมด ในขณะที่ลำตัวควรมีขนาดเพียง 20-30% และเป็นข้อกำหนดที่สำคัญคือ ลำตัวจะต้องก่อตัวอยู่ทางด้านบนของแท่งเทียนเสมอ
  • ความสำคัญของสี: สีของแท่งเทียน Pin Bar นั้นไม่สำคัญเท่ากับโครงสร้างของมัน แต่สิ่งสำคัญคือการสังเกตว่าแท่งเทียน Pin Bar ควรปิดอยู่ภายในช่วงของแท่งเทียนก่อนหน้า (Previous Candlestick) เพื่อยืนยันความแข็งแกร่งของสัญญาณ
  • จิตวิทยาเบื้องหลัง: หางยาวของ Bullish Pin Bar แสดงให้เห็นว่าผู้ขาย (Bears) พยายามกดดันราคาให้ลดลงอย่างมาก แต่กลับไม่สามารถรักษาระดับราคาต่ำนั้นไว้ได้ เนื่องจากผู้ซื้อ (Bulls) มีกำลังมากพอที่จะเข้ามารับซื้อและผลักดันราคาให้สูงขึ้นมาปิดใกล้ระดับเปิด สัญญาณนี้บ่งบอกอย่างชัดเจนว่าแนวโน้มกำลังจะเปลี่ยนจากตลาดหมี (Bearish Market) ไปสู่ตลาดกระทิง (Bullish Market)
  • การนำไปใช้: รูปแบบ Bullish Pin Bar มักจะก่อตัวขึ้นที่จุดสิ้นสุดของแนวโน้มขาลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกิดขึ้นที่ระดับ แนวรับ (Support Level) ที่สำคัญ จะเป็นสัญญาณการกลับตัวของแนวโน้มขาขึ้น (Bullish Reversal) ที่มีความน่าเชื่อถือสูงมาก เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Pin Bar Candlestick

Bullish Pin Bar
ตัวอย่าง Bullish Pin Bar

2. Bullish Engulfing Candlestick: การครอบงำของแรงซื้อ

Bullish Engulfing Candlestick เป็นรูปแบบการกลับตัวที่ทรงพลังอีกรูปแบบหนึ่ง ประกอบด้วยแท่งเทียนสองแท่ง โดยแท่งเทียนแท่งที่สองที่มีลักษณะขาขึ้นจะ “กลืนกิน” แท่งเทียนแท่งแรกที่มีลักษณะขาลงอย่างสมบูรณ์

  • โครงสร้าง:
    • แท่งเทียนแรกจะเป็นแท่งเทียนขาลง (สีแดงหรือสีดำ) ซึ่งบ่งบอกถึงการครอบงำของผู้ขายในระยะสั้น
    • แท่งเทียนที่สองจะเป็นแท่งเทียนขาขึ้น (สีเขียวหรือสีขาว) ที่มีขนาดใหญ่กว่าแท่งแรกอย่างเห็นได้ชัด โดยที่ราคาเปิดของแท่งที่สองจะต่ำกว่าราคาปิดของแท่งแรก และราคาปิดของแท่งที่สองจะสูงกว่าราคาเปิดของแท่งแรก ทำให้แท่งที่สองครอบคลุมแท่งแรกทั้งหมด
  • อัตราส่วน: เพื่อให้สัญญาณมีความน่าเชื่อถือ ลำตัวของแท่งเทียนทั้งสองในรูปแบบ Engulfing ควรมีสัดส่วนมากกว่า 60% ของแท่งเทียนนั้นๆ เนื่องจากแท่งเทียนขนาดใหญ่แสดงถึงโมเมนตัมของตลาดที่แข็งแกร่ง
  • จิตวิทยาเบื้องหลัง: รูปแบบนี้บ่งชี้ว่าผู้ซื้อได้เข้าควบคุมตลาดจากผู้ขายได้อย่างสมบูรณ์ หลังจากที่ราคาลดลงในแท่งแรก ผู้ซื้อได้เข้ามารับซื้ออย่างมหาศาลจนทำให้ราคาเปิดต่ำลงกว่าเดิม แต่ก็สามารถผลักดันราคาให้สูงขึ้นไปปิดได้สูงกว่าราคาเปิดของแท่งแรกอย่างชัดเจน ซึ่งแสดงถึงการเปลี่ยนทิศทางของแรงกดดันในตลาดอย่างรุนแรง
  • การนำไปใช้: Bullish Engulfing เป็นรูปแบบการกลับตัวของแนวโน้มขาขึ้นที่มักจะเกิดขึ้นที่จุดสิ้นสุดของแนวโน้มขาลง เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Bullish Engulfing Pattern

    นอกจากนี้ รูปแบบ Engulfing ยังสามารถมองได้ว่าเป็นโครงสร้างที่ปรับเปลี่ยนมาจาก Pin Bar ในกรอบเวลาที่ต่ำกว่า ซึ่งหมายความว่าจิตวิทยาการซื้อขายของทั้งสองรูปแบบมีความคล้ายคลึงกัน เพียงแต่มีความแตกต่างกันในเรื่องของกรอบเวลาและโครงสร้างของรูปแบบเท่านั้น ดังนั้น หากคุณสามารถระบุรูปแบบ Engulfing ได้ คุณก็กำลังเห็นสัญญาณที่คล้ายคลึงกับการปฏิเสธราคาอย่างรุนแรงเช่นเดียวกับ Pin Bar นั่นเอง

Bullish Engulfing Candlestick

3. Morning Doji Star: แสงแห่งความหวังหลังค่ำคืนที่มืดมิด

Morning Doji Star เป็นรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวขาขึ้นที่ประกอบด้วยแท่งเทียนสามแท่ง ซึ่งบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงจากแนวโน้มขาลงไปสู่แนวโน้มขาขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

  • โครงสร้าง:
    1. แท่งเทียนแรก: เป็นแท่งเทียนขาลงขนาดใหญ่ (Bearish Candlestick) ซึ่งยืนยันถึงแรงกดดันจากผู้ขายที่ยังคงมีอยู่
    2. แท่งเทียนที่สอง: คือ แท่งเทียน Doji ซึ่งมีลำตัวเล็กมากหรือไม่มีลำตัวเลย (ราคาเปิดและปิดเกือบเท่ากัน) และมีเงาบนล่างที่สั้นหรือยาวก็ได้ แท่ง Doji นี้จะเปิดกระโดดลงมาจากแท่งแรก (Gap Down) แสดงถึงความไม่แน่ใจของตลาดหรือการหยุดชะงักของแนวโน้มขาลง
    3. แท่งเทียนที่สาม: เป็นแท่งเทียนขาขึ้นขนาดใหญ่ (Bullish Candlestick) ที่เปิดกระโดดขึ้นมาจากแท่ง Doji (Gap Up) และปิดสูงกว่ากึ่งกลางของแท่งเทียนขาลงแรกอย่างน้อย
  • อัตราส่วน: เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ อัตราส่วน Body-to-Wick ของแท่งเทียนขาลงแรกและแท่งเทียนขาขึ้นที่สามควรมากกว่า 70% ซึ่งบ่งบอกถึงแรงผลักดันที่ชัดเจนของแต่ละฝั่ง
  • จิตวิทยาเบื้องหลัง:
    • แท่งแรก: ยืนยันว่าผู้ขายยังคงควบคุมตลาดอยู่ และราคากำลังอยู่ในภาวะขายมากเกินไป (Oversold)
    • แท่ง Doji: บ่งบอกว่าแนวโน้มขาลงได้หยุดชะงักลงชั่วคราวแล้ว และตลาดกำลังเข้าสู่ช่วงของการตัดสินใจ ไม่แน่ใจว่าจะไปในทิศทางใดต่อ แรงซื้อและแรงขายเริ่มเท่าเทียมกัน
    • แท่งที่สาม: เป็นการยืนยันว่าผู้ซื้อได้เข้าควบคุมตลาดอย่างเต็มที่และแข็งแกร่ง สามารถผลักดันราคาให้พุ่งขึ้นสร้างจุดสูงสุดใหม่ (Higher High) ซึ่งเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นแนวโน้มขาขึ้นใหม่ที่ชัดเจน เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Morning Doji Star
  • การนำไปใช้: Morning Doji Star เป็นสัญญาณการกลับตัวขาขึ้นที่มีความน่าเชื่อถือสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อปรากฏขึ้นหลังจากแนวโน้มขาลงที่ยาวนาน หรือที่บริเวณแนวรับสำคัญ บ่งบอกถึงโอกาสในการเข้าซื้อที่ยอดเยี่ยม

Morning Doji Star

4. Tweezer Bottom Pattern: การยืนยันจุดต่ำสุดที่แข็งแกร่ง

Tweezer Bottom Pattern เป็นรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวขาขึ้นที่ประกอบด้วยแท่งเทียนสองแท่งที่มี “จุดต่ำสุด (Low)” เดียวกันหรือใกล้เคียงกันมาก เปรียบเสมือนแหนบที่หนีบอยู่ที่จุดต่ำสุดเดียวกัน

  • โครงสร้าง:
    • แท่งเทียนแรก: เป็นแท่งเทียนขาลง (Bearish Candlestick) ที่บ่งบอกถึงแรงขายที่ยังคงกดดันราคา
    • แท่งเทียนที่สอง: เป็นแท่งเทียนขาขึ้น (Bullish Candlestick) ที่เปิดในระดับราคาเดียวกับราคาปิดของแท่งแรก (หรือใกล้เคียงกันมาก) และไม่มีเงาด้านล่าง (หรือมีเล็กน้อยมาก) และที่สำคัญที่สุดคือ จุดต่ำสุดของทั้งสองแท่งเทียนจะเท่ากันหรือใกล้เคียงกันมาก
  • การยืนยัน: การปิดของแท่งเทียนที่สองควรอยู่เหนือระดับ 50% ของแท่งเทียนแรกเสมอ เพื่อยืนยันว่าผู้ซื้อได้เข้าควบคุมตลาดอย่างมีนัยสำคัญ
  • จิตวิทยาเบื้องหลัง:

    รูปแบบนี้เกิดขึ้นเมื่อตลาดอยู่ในช่วงขาลง ผู้ขายพยายามผลักดันราคาลงไปถึงจุดต่ำสุดหนึ่ง แต่เมื่อถึงจุดต่ำสุดนั้น ผู้ซื้อได้เข้ามาแทรกแซงอย่างรวดเร็วและผลักดันราคาขึ้น ทำให้แท่งเทียนที่สองไม่สามารถทำจุดต่ำสุดใหม่ได้ และปิดในทิศทางขาขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าระดับราคานั้นเป็นแนวรับที่แข็งแกร่งและไม่สามารถถูกทำลายได้ง่ายๆ

    การที่แท่งเทียนขาขึ้นปิดเหนือระดับ 50% ของแท่งเทียนก่อนหน้า แสดงถึงชัยชนะของผู้ซื้อในการเอาชนะแรงกดดันจากผู้ขายอย่างเด็ดขาด และเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าราคากำลังจะเพิ่มขึ้นในอนาคต

  • การนำไปใช้: Tweezer Bottom Pattern มักจะก่อตัวขึ้นที่จุดสิ้นสุดของแนวโน้มขาลง และเป็นสัญญาณที่ชัดเจนของการกลับตัวเป็นขาขึ้น การปรากฏของรูปแบบนี้ที่ระดับแนวรับที่สำคัญจะยิ่งเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับสัญญาณ

Tweezer Bottom Pattern

ตารางสรุป 4 รูปแบบแท่งเทียน Bullish ยอดนิยม

เพื่อความเข้าใจที่ง่ายขึ้น เราได้สรุปคุณสมบัติสำคัญของทั้ง 4 รูปแบบแท่งเทียน Bullish ไว้ในตารางด้านล่าง:

รูปแบบแท่งเทียน จำนวนแท่งเทียน ลักษณะสำคัญ จิตวิทยาตลาด ความน่าเชื่อถือ (โดยประมาณ)
Bullish Pin Bar 1 หางยาวด้านล่าง, ลำตัวเล็กด้านบน (เปิด/ปิดใกล้กัน) ผู้ขายพยายามกดราคา แต่ผู้ซื้อปฏิเสธและดันราคากลับขึ้นอย่างแข็งแกร่ง สูง
Bullish Engulfing 2 แท่งเทียนขาขึ้นขนาดใหญ่ กลืนแท่งเทียนขาลงก่อนหน้าทั้งหมด ผู้ซื้อเข้าควบคุมตลาดอย่างสมบูรณ์ พลิกสถานการณ์จากแรงขาย สูง
Morning Doji Star 3 ขาลง (ใหญ่) → Doji (เล็ก/ไร้ลำตัว) → ขาขึ้น (ใหญ่) ตลาดลังเลหลังขาลงรุนแรง ก่อนที่ผู้ซื้อจะกลับเข้าคุมตลาด สูงมาก
Tweezer Bottom 2 แท่งเทียนขาลง ตามด้วยแท่งเทียนขาขึ้น โดยมีจุดต่ำสุดเท่ากัน/ใกล้เคียงกัน ตลาดทดสอบแนวรับ แต่ถูกปฏิเสธซ้ำๆ บ่งบอกถึงแนวรับที่แข็งแกร่ง ปานกลางถึงสูง

FAQ: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับรูปแบบแท่งเทียน Bullish

เพื่อให้คุณมีความเข้าใจที่ครอบคลุมและสามารถนำความรู้ไปใช้ได้อย่างมั่นใจ เราได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับรูปแบบแท่งเทียน Bullish พร้อมคำตอบที่ละเอียดไว้ ณ ที่นี้:

Q1: รูปแบบแท่งเทียน Bullish สามารถใช้ได้กับทุกสินทรัพย์และทุก Timeframe จริงหรือ?

A1: ใช่ รูปแบบแท่งเทียน Bullish ที่กล่าวมาข้างต้นมีหลักการและจิตวิทยาที่อิงกับการต่อสู้ระหว่างแรงซื้อและแรงขาย ซึ่งเป็นพื้นฐานของตลาดการเงินทุกประเภท ทำให้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับสินทรัพย์ที่หลากหลาย เช่น Forex, หุ้น, สินค้าโภคภัณฑ์ (ทองคำ, น้ำมัน) หรือแม้แต่คริปโตเคอร์เรนซี อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือการพิจารณา Timeframe ที่เหมาะสมกับสไตล์การเทรดของคุณ โดยทั่วไปแล้ว ยิ่ง Timeframe ใหญ่ (เช่น รายวัน รายสัปดาห์) สัญญาณจากรูปแบบแท่งเทียนจะยิ่งมีความน่าเชื่อถือสูงกว่า Timeframe ที่เล็กกว่า (เช่น ราย 1 นาที ราย 5 นาที) เนื่องจากมีข้อมูลการซื้อขายที่มากกว่าและลด Noise ในตลาดได้ดีกว่า

Q2: ควรใช้รูปแบบแท่งเทียน Bullish ร่วมกับเครื่องมืออื่น ๆ หรือไม่?

A2: อย่างยิ่ง! การใช้รูปแบบแท่งเทียนเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอสำหรับการตัดสินใจเทรดที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เทรดเดอร์มืออาชีพมักจะใช้รูปแบบแท่งเทียนร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่น ๆ เพื่อเพิ่มความแม่นยำและยืนยันสัญญาณ เช่น:

  • แนวรับ-แนวต้าน (Support and Resistance): การที่รูปแบบ Bullish เกิดขึ้นที่บริเวณแนวรับที่แข็งแกร่งจะยิ่งเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับสัญญาณการกลับตัว
  • อินดิเคเตอร์ (Indicators): เช่น RSI (Relative Strength Index) เพื่อดูภาวะ Oversold (ขายมากเกินไป) หรือ MACD (Moving Average Convergence Divergence) เพื่อยืนยันโมเมนตัมของการกลับตัว
  • รูปแบบกราฟ (Chart Patterns): การรวมรูปแบบแท่งเทียนเข้ากับ รูปแบบกราฟขนาดใหญ่ เช่น Double Bottom หรือ Falling Wedge จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของสัญญาณ
  • Volume: การเพิ่มขึ้นของปริมาณการซื้อขาย (Volume) ในแท่งเทียน Bullish ที่สองหรือสามของรูปแบบ Engulfing หรือ Morning Star จะเป็นการยืนยันความแข็งแกร่งของแรงซื้อ

Q3: หากรูปแบบแท่งเทียน Bullish ปรากฏขึ้น แต่ไม่มีการเคลื่อนไหวของราคาตามที่คาดการณ์ไว้ ควรทำอย่างไร?

A3: สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่ารูปแบบแท่งเทียนไม่ใช่การรับประกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต แต่เป็นเพียงการเพิ่มความน่าจะเป็นเท่านั้น หากรูปแบบ Bullish ปรากฏขึ้น แต่ราคาไม่ได้เคลื่อนไหวตามที่คาดการณ์ไว้ หรือกลับตัวลงไปอีกครั้ง อาจบ่งบอกถึงหลายสิ่ง:

  • สัญญาณหลอก (False Signal): อาจเกิดจากสภาพคล่องต่ำในตลาด หรือมีข่าวสำคัญที่เข้ามากระทบอย่างไม่คาดคิด
  • การรอการยืนยัน: อาจต้องรอแท่งเทียนถัดไปเพื่อยืนยันทิศทางที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
  • การจัดการความเสี่ยง: นี่คือเหตุผลที่ การตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) เป็นสิ่งสำคัญเสมอ การยอมรับการขาดทุนเล็กน้อยเมื่อสัญญาณผิดพลาดเป็นส่วนหนึ่งของการเทรดที่ประสบความสำเร็จ
  • การทบทวนแผน: หากเกิดสัญญาณผิดพลาดบ่อยครั้ง ควรทบทวนกลยุทธ์การเทรดและเงื่อนไขในการเข้าออกของคุณ

Q4: รูปแบบแท่งเทียน Bullish Engulfing และ Morning Star แตกต่างกันอย่างไร?

A4: แม้ทั้งสองรูปแบบจะเป็นสัญญาณกลับตัวขาขึ้นที่แข็งแกร่ง แต่ก็มีความแตกต่างกันที่สำคัญ:

  • จำนวนแท่งเทียน:
    • Bullish Engulfing: ประกอบด้วย 2 แท่งเทียน (แท่งขาลง → แท่งขาขึ้นขนาดใหญ่ที่กลืนกิน)
    • Morning Star: ประกอบด้วย 3 แท่งเทียน (แท่งขาลง → แท่ง Doji/แท่งขนาดเล็ก → แท่งขาขึ้นขนาดใหญ่)
  • จิตวิทยา:
    • Bullish Engulfing: แสดงถึงการเข้าควบคุมตลาดของผู้ซื้ออย่างรวดเร็วและเด็ดขาดในทันที
    • Morning Star: แสดงถึงช่วงเวลาของการลังเลหรือไม่แน่ใจ (Doji) หลังจากการครอบงำของผู้ขาย ก่อนที่ผู้ซื้อจะกลับมามีอำนาจอย่างชัดเจน ซึ่งอาจให้สัญญาณที่ยืนยันการกลับตัวได้ชัดเจนกว่าในบางกรณี

Q5: อะไรคือ “Body-to-Wick Ratio” และทำไมถึงสำคัญ?

A5: “Body-to-Wick Ratio” หรืออัตราส่วนลำตัวต่อเงา เป็นการวัดสัดส่วนระหว่างขนาดของลำตัวแท่งเทียน (ช่วงราคาระหว่างราคาเปิดและราคาปิด) กับขนาดของเงา (Wick/Shadow) ซึ่งแสดงถึงช่วงราคาที่ซื้อขายสูงสุด-ต่ำสุดนอกเหนือจากราคาเปิด-ปิด

อัตราส่วนนี้มีความสำคัญเพราะช่วยบ่งบอกถึง โมเมนตัมและความแข็งแกร่งของแรงซื้อหรือแรงขาย:

  • ลำตัวใหญ่, เงาเล็ก (High Body-to-Wick Ratio): บ่งบอกถึงแรงผลักดันที่แข็งแกร่งในทิศทางนั้น ๆ เช่น Bullish Engulfing ที่มีลำตัวใหญ่ แสดงว่าผู้ซื้อสามารถผลักดันราคาจากเปิดไปปิดได้ไกล โดยมีการต่อต้านน้อย
  • ลำตัวเล็ก, หางยาว (Low Body-to-Wick Ratio): บ่งบอกถึงการปฏิเสธราคา เช่น Pin Bar ที่มีหางยาวและลำตัวเล็ก แสดงว่าราคาถูกผลักดันไปในทิศทางหนึ่งอย่างรุนแรง แต่ก็ถูกปฏิเสธและผลักดันกลับมาปิดใกล้ระดับเปิด ซึ่งบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงของแรงผลักดัน

การเข้าใจอัตราส่วนนี้ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถตีความความหมายของแต่ละแท่งเทียนได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น และประเมินความน่าเชื่อถือของรูปแบบแท่งเทียนได้แม่นยำขึ้น

บทสรุป

รูปแบบแท่งเทียน Bullish ทั้งสี่ที่กล่าวมาข้างต้น ไม่ว่าจะเป็น Bullish Pin Bar, Bullish Engulfing, Morning Doji Star, และ Tweezer Bottom ล้วนมีจิตวิทยาการซื้อขายที่คล้ายคลึงกัน โดยเป็นการบ่งชี้ถึงการเข้าควบคุมตลาดของผู้ซื้อหลังจากช่วงเวลาที่ผู้ขายมีอิทธิพล หรือเป็นการยืนยันความแข็งแกร่งของแนวโน้มขาขึ้น โดยความแตกต่างในโครงสร้างของแต่ละรูปแบบนั้น เกิดจากพลวัตของราคาในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน

หากคุณวิเคราะห์รูปแบบเหล่านี้ด้วยมุมมองของเทรดเดอร์มืออาชีพ คุณจะตระหนักว่ารูปแบบทั้งสี่นี้แท้จริงแล้วมักจะกลายเป็นแท่งเทียนขาขึ้นขนาดใหญ่เพียงแท่งเดียวในกรอบเวลาที่สูงขึ้น (Higher Timeframe) ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของแรงซื้อที่เข้ามาในตลาดอย่างมีนัยสำคัญ

ด้วยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในโครงสร้างและจิตวิทยาเบื้องหลังของรูปแบบแท่งเทียนเหล่านี้ คุณจะสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการวิเคราะห์แผนภูมิแท่งเทียนในทุกอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อระบุ จุดเข้าซื้อที่เหมาะสม และเพิ่มโอกาสในการทำกำไรสูงสุดในตลาดการเงินที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

อย่ารอช้า! เริ่มต้นฝึกฝนการระบุรูปแบบแท่งเทียนเหล่านี้บนกราฟจริง และผสานเข้ากับกลยุทธ์การเทรดของคุณวันนี้ เพื่อยกระดับศักยภาพในการทำกำไรของคุณให้เหนือกว่าเดิม!

______________________________________
สำหรับพี่ๆที่สนใจเข้ากลุ่มผู้ใช้ EA เปิดบัญชีคลิกที่ลิงค์
https://bit.ly/MTRatsamee ส่งเลข MT4 รับลิงค์ได้เลย
✅สำหรับใครที่สนใจรับบเทรดอัตโนมัติฟรี ติอต่อรับทาง inbox ได้เลย
________________________
✅ 👍🏽สมัครยืนยันตัวตนรับ EA ได้ฟรีตลอดชีพ
XM มีโบนัสสำหรับลูกค้าที่สมัครใหม่ $30 และมีโบนัสเงินฝาก
Exness สมัครง่ายฝากถอนเร็ว
MTrading เทรดดีไม่มีสะดุด XAUUSD ไม่มีค่า Swap บนบัญชี M.Pro!
________________________
✅ ♥️ สอบถามเพิ่มเติมที่📱https://bit.ly/MTRatsamee
Line id : @ft.th https://lin.ee/u0dwlLM
——–
ติดตามเราได้ที่
📧LINE: @ft.th ( https://lin.ee/u0dwlLM )
🎬Youtube: FTT – investing (https://shorturl.asia/7wqIe )
_____________________________________________

You Might Also Like

Contact Us on Line