Forex กับ หุ้น: แตกต่างกันยังไง?
มูลค่าการซื้อขายในตลาด Forex เฉลี่ยแล้วมีขนาดใหญ่กว่าตลาดหุ้น ประมาณ 200 เท่า !
ตลาด Forex เปิด 24 ชม. | ตลาดหุ้น เปิดเพียง 8 ชม.
ค่าธรรมการเทรด Forex ต่ำกว่าการเทรดหุ้น
Forex ไม่มีปันผล (มีค่า Swap) | หุ้น มีปันผล
Forex มี Leverage ทำให้ใช้เงินลงทุนต่ำกว่า | หุ้น ไม่มี
Forex สามารถทำกำไรได้ทั้งฝั่งขึ้น และลง | หุ้นได้แค่ ฝั่งขึ้น เท่านั้น
ความแตกต่างที่สำคัญห้าประการระหว่างหุ้นและ Forex:
ด้านล่างนี้ คุณจะเห็นความแตกต่างที่สำคัญห้าประการระหว่างหุ้นและอัตราแลกเปลี่ยน
- ปริมาณการซื้อขาย
- เวลาซื้อขาย
- สภาพคล่อง
- ระยะเวลาการซื้อขาย
- วิธีการทำกำไร
- โอกาสในการขยายกำไร
ตอนนี้เราจะเจาะลึกมากขึ้นเกี่ยวกับความแตกต่างที่สำคัญทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น
ปริมาณการซื้อขาย
ความแตกต่างระหว่างตลาดหุ้นและ Forex ที่ใหญ่มากอย่างหนึ่งคือ ขนาดของตลาด Forex ที่แท้จริง Forex มีปริมาณการซื้อขายประมาณ 5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อวัน ด้วยคู่สกุลเงินการซื้อขายที่ได้รับความสนใจอย่างมากซึ่งได้แก่ EUR/USD, USD/JPY, GBP/USD และ AUD/USD ตลาด Forex มีปริมาณการซื้อขายปริมาณเงินดอลลาร์ที่มากกว่าปริมาณการซื้อขายหุ้นของตลาดโลกที่มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 200 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อวัน
การมีปริมาณการซื้อขายที่มากมายขนาดนี้สามารถทำให้เทรดเดอร์ได้ผลประโยชน์มากขึ้น ปริมาณการซื้อขายที่สูงหมายถึง เทรดเดอร์สามารถที่จะดำเนินการคำสั่งซื้อที่ง่ายกว่าและสามารถปิดการขายได้ด้วยราคาที่เทรดเดอร์ต้องการ ในขณะที่ตลาดทั้งหมดมีแนวโน้มของช่องว่างต่างๆมากกว่า ในการมีสภาพคล่องที่มากกว่าในจุดกำหนดราคาแต่ละจุดก็จะทำให้เทรดเดอร์สามารถเข้าและออกจากตลาดได้ดีกว่า
ปริมาณมหาศาลของตลาด forex นั้นนำมาซึ่งโอกาสมากมายสำหรับเทรดเดอร์ อนุญาตให้ดำเนินการคำสั่งซื้อขายได้ทันทีและปิดการซื้อขายทันทีที่ผู้ค้าต้องการปิด
เวลาซื้อขาย
ตลาดForex เป็นตลาดประเภท OTC (Over the Counter) หมายความว่ามันไม่ได้ทำธุรกรรมการแลกเปลี่ยนแบบดั้งเดิม ตลาดForex จะเปิดให้ซื้อขายได้ตลอด24ชั่วโมง การเทรด Forex ถูกอำนวยความสะดวกมากขึ้นผ่านตลาดระหว่างธนาคาร ซึ่งหมายความว่าการเทรดนั้นสามารถทำได้ทั่วทุกมุมโลกในระหว่างเวลาทำการของแต่ละประเทศและช่วงเวลาของการเทรด ดังนั้น เทรดเดอร์ Forex จึงสามารถเข้าถึงการเทรดได้อย่างสมจริง 24 ชั่วโมงต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์ ในทางกลับกัน ดัชนีหุ้นสำคัญเทรดในเวลาที่ต่างกันและได้รับผลกระทบจากตัวแปรที่แตกต่างกัน
สภาพคล่อง
ตลาดที่มีการซื้อขายในปริมาณการซื้อขายที่สูงนั้น โดยทั่วไปแล้วจะมีสภาพคล่องที่สูงเช่นกัน สภาพคล่องจึงนำไปสู่สเปรดที่แน่นขึ้นและลดต้นทุนการทำธุรกรรมอีกด้วย คู่สกุลเงินของ Forex โดยทั่วไปมักมีเปรดที่ต่ำรวมทั้งต้นทุนการทำธุรกรรมที่ต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับหุ้น และนี่คือหนึ่งในข้อได้เปรียบที่สำคัญของการเทรดระหว่างตลาด Forex และการเทรดในตลาดหุ้น
ระยะเวลาการซื้อขาย
การเทรด Forex เหมาะกับนักลงทุนที่ชื่นชอบสไตล์การเทรดในระยะสั้นหรือปานกลางมากกว่าเนื่องจากตลาด Forex มีสภาพคล่องสูง การดำเนินคำสั่งรวดเร็วและการชำระราคา T+0 ขณะที่การซื้อขายหุ้นจะมีสภาพคล่องต่ำกว่าและการชำระราคา T+2 ทำให้การซื้อขายหุ้นจะเหมาะกับนักลงทุนที่ชื่นชอบสไตล์การลงทุนในระยะยาวมากกว่า
วิธีการทำกำไร
การเทรด Forex สามารถเทรดได้ทั้งตลาดขาขึ้นและขาลง ซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้ แต่การเทรดหุ้นจะสามารถทำกำไรได้ในกรณีที่ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นอย่างเดียว
โอกาสในการขยายกำไร
ข้อที่น่าดึงดุดใจที่สุดของการเทรด Forex ก็คือการเทรดด้วยเลเวอเรจและมาร์จิ้น ซึ่งจะทำให้นักลงทุนมีโอกาสขยายขอบเขตการทำกำไรได้ด้วยเงินทุนน้อย ใช้เงินทุนอย่างมีประสิทธิภาพให้มากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับการเทรดหุ้นที่ต้องใช้เงินทุนเต็มจำนวนและไม่สามารถขยายกำไรได้ แต่การใช้เลเวอเรจก็มีข้อเสียด้วยเพราะเลเวอเรจเป็นดาบคมสองด้าน ในขณะที่สามารถขยายกำไรได้ก็สามารถขยายขาดทุนได้เช่นกันเมื่อกราฟไปที่ทิศทางตรงกันข้าม
ดังนั้นเราจึงสรุปการสนทนาทั้งหมดที่เราทำข้างต้นลงในตารางเล็กๆ นี้เพื่อแก้ไขทุกอย่าง
_______________________________________
สำหรับพี่ๆที่สนใจเข้ากลุ่มผู้ใช้ EA เปิดบัญชีคลิกที่ลิงค์
ส่งเลข MT4 รับลิงค์ได้เลย
________________________________________________
สมัครยืนยันตัวตนรับ EA ได้ฟรีตลอดชีพ
XM มีโบนัสสำหรับลูกค้าที่สมัครใหม่ $30 และมีโบนัสเงินฝาก
Exness สมัครง่ายฝากถอนเร็ว
GMI เทรดดีไม่มีสะดุด ฟรี Free Swap ทุกบัญชี
https://bit.ly/GMI-TH
https://bit.ly/GMI-TH
________________________________________________
ติดตามเราได้ที่
LINE: @ft.th ( https://lin.ee/u0dwlLM )
Youtube: FTT – investing (https://shorturl.asia/7wqIe )
Tiktok: https://vt.tiktok.com/ZSdVyv7Ny/
_____________________________________________