Position Trading คืออะไร?
Position Trading เป็นรูปแบบการซื้อขายระยะยาว คำนี้มักใช้ใน Forex และการซื้อขายหุ้น ผู้เทรดระยะยาวเรียกว่า Position Traders
สำหรับนักลงทุน Forex พวกเขาสามารถถือคำสั่ง Position Trading ได้ตั้งแต่สองสามสัปดาห์ถึงเดือนหรือหลายปี
สำหรับผู้เทรดหุ้น เป็นเรื่องปกติที่จะถือหุ้นตั้งแต่ 1 ปีถึงหลายสิบปี
หาก Swing Trading ช่วยให้ผู้เทรดจับคลื่นลูกเดียว กลยุทธ์ Position Trading จะนำมาซึ่งมากกว่านั้น ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้เทรดจับคลื่นได้มากขึ้น นั่นคืออยู่ในเทรนด์ได้นานขึ้นโดยไม่ถูกหยุด
ลักษณะของกลยุทธ์ Position Trading
Position Trading ตรงกันข้ามกับ Scalping และ Day Trading รูปแบบการซื้อขายนี้ไม่ค่อยสนใจความผันผวนในระยะสั้น
เพื่อดำเนินการตามกลยุทธ์ Position Trading ผู้เทรดมักจะทำการวิจัยและศึกษาประเด็นและข้อมูลที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด หลังจากซื้อจนเกือบลืมและรอจนกว่าจะถึงกำไรที่คาดไว้จึงค่อยขาย
Position Trading จะเห็นได้ทั่วไปในตลาดหุ้นมากกว่าในตลาด Forex
ผู้เทรดซื้อขายในรูปแบบนี้เฉพาะเมื่อมีเงินทุนจำนวนมากและลงทุนเพียงเล็กน้อยในแต่ละที่ เพียงเล็กน้อยสำหรับสินค้าโภคภัณฑ์แต่ละรายการ ซึ่งจะช่วยกระจายความเสี่ยงและชนะรางวัลใหญ่เมื่อตลาดอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้อง
4 กลยุทธ์ Position Trading ที่ดีที่สุด
กลยุทธ์เทรดที่ “ดีที่สุด” ที่เรากำลังจะแนะนำนั้นเป็นกลยุทธ์ทั่วไปที่ได้รับการยืนยันว่าใช้เทรดทำกำไรได้จริงและมีประสิทธิภาพมากๆ แต่เราก็ยังคงยืนยันคำเดิมว่ากลยุทธ์เทรดที่ดีที่สุดของนักเทรดแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน เพราะกลยุทธ์ที่ดีที่สุดของท่านก็คือกลยุทธ์ที่เหมาะกับรูปแบบของท่านที่สุดนั่นเองครับ อย่างไรก็แล้วแต่ กลยุทธ์ที่เรากำลังจะแนะนำวันนี้เป็นกลยุทธ์พื้นฐานที่ท่านควรรู้จัก เนื่องจากมันเป็นกลยุทธ์หลักที่เทรดเดอร์มักนำมาต่อยอดไปสู่กลยุทธ์อื่นๆ เพราะอย่างน้อยๆ ท่านก็จะเข้าใจหลักการเทรดแบบ position trading มากยิ่งขึ้นครับ
1. กลยุทธ์ Position Trading โดยใช้แนวรับและแนวต้าน
บทบาทสำคัญของ แนวรับและแนวต้าน คือการพิจารณาหาความเคลื่อนไหวของราคาแบบง่ายๆ ในกรอบราคาระหว่างเส้นแนวรับ (ซึ่งอยู่ต่ำกว่าลิมิตราคา) และเส้นแนวต้าน (ซึ่งอยู่ด้านบน) นั่นเอง
และนี่คือสิ่งสำคัญที่ท่านจะต้องพิจารณาเมื่อใช้กลยุทธ์แนวรับแนวต้าน:
- ท่านสามารถศึกษาราคาย้อนหลังได้โดยใช้ indicator เชิงเทคนิค เพื่อหาระดับแนวรับและแนวต้านที่แม่นยำ ซึ่งจะช่วยให้ท่านพิจารณาระดับที่ควรตัดขาดทุนและจังหวะในการทำกำไร และสามารถวางแผนการเทรดได้ล่วงหน้า
- การพิจารณาระดับแนวรับและแนวต้านที่ผ่านๆ มาเป็นสิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้ เนื่องจากมันจะช่วยให้ท่านสังเกตการเปลี่ยนแปลงของราคาหลังมีการ breakout หรือเบรคทะลุแนวรับแนวต้านไปได้
- เทรดเดอร์บางรายอาจใช้ Fibonacci Retracement เพื่อเข้าใจความเคลื่อนไหวของราคาในกรอบแนวรับและแนวต้านได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
2. กลยุทธ์ Position Trading โดยติดตามการ Breakout
พูดง่ายๆ ก็คือเทรดเดอร์จะต้องรอให้ราคาเบรคทะลุผ่านเส้นแนวรับและแนวต้านไปให้ได้เสียก่อน โดยเมื่อท่านเห็นราคาทะลุผ่านระดับใดระดับหนึ่งไปได้ นั่นคือจังหวะที่เหมาะสมในการเปิดออเดอร์ Long (หากราคาพุ่งทะลุเส้นแนวต้าน) และออเดอร์ Short (หากราคาร่วงทะลุเส้นแนวรับ) โดยการจะใช้กลยุทธ์ breakout นั้น เทรดเดอร์จะต้องเข้าใจหลักการของแนวรับแนวต้าน และสามารถระบุแนวรับแนวต้านที่ถูกต้องได้
3. กลยุทธ์ Position Trading โดยอาศัยการวิ่งสวนเทรนด์ (Pullback)
เมื่อราคาพุ่งขึ้นไปได้สักระยะหนึ่ง อาจมีจังหวะที่ราคาเกิดการกลับตัวลงมาได้เช่นกัน โดยเมื่อเทรดเดอร์สังเกตเห็นการกลับตัวก็นับว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมในการเปิดออเดอร์ โดยหลักการสำคัญคือการเปิดออเดอร์ sell ที่ราคา Low และ buy ที่ราคา High อย่างไรก็ตาม อย่าลืมป้องกันความเสี่ยงด้วยนะครับ เพราะอย่าลืมว่าราคาไม่ได้เคลื่อนที่เป็นเส้นตรง แต่เคลือนที่ขึ้นๆ ลงๆ เป็นรูปคลื่นอยู่เสมอ ดังนั้น ราคาก็อาจเกิดการกลับตัวขึ้นลงและเทรนด์ก็เปลี่ยนได้ทุกเมื่อเช่นกัน เราขอแนะนำให้ลองใช้เส้น Fibonacci ก็จะช่วยคาดการณ์ระดับราคาได้ง่ายและชัดเจนยิ่งขึ้น
4. กลยุทธ์ Position Trading โดยอาศัยกรอบราคา
บางครั้งเทรนด์ก็อาจไม่จำเป็นเท่าไหร่นัก หากเทรดเดอร์รู้จักใช้เครื่องมือทางเทคนิคและทักษะในการระบุระดับราคาด้วยตนเอง (โดยอาศัยระดับ high และ low) โดยท่านจะต้องพิจารณากรอบราคาของสินทรัพย์ต่างๆ รวมถึงปริมาณการซื้อขาย (วอลุ่ม) ของสินทรัพย์นั้นๆ เช่น เมื่อท่านเห็นว่าจังหวะนั้นมีการขายมากเกินไป (Oversold) นั่นคือสัญญาณในการเปิดออเดอร์ buy และหากมีการซื้อมากเกินไป (Overbought) ก็เตรียม sell ได้เลยครับ
บทสรุป
เราขอย้ำอีกครั้งว่ากลยุทธ์ position trading ที่ดีที่สุดคือกลยุทธ์ที่เหมาะกับรูปแบบการเทรดของท่านมากที่สุด โดยอาศัยการใช้งานเครื่องมือ, indicator และกราฟราคาในการพิจารณาและทำความเข้าใจความเคลื่อนไหวของตลาดและทิศทางราคา ซึ่งถึงแม้ว่ากลยุทธ์บางรูปแบบที่เราได้นำเสนอมานั้นอาจมีความซับซ้อนอยู่บ้าง แต่เชื่อเถอะครับว่าถ้าหากท่านมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิคมากเพียงพอ ท่านก็พร้อมที่จะเผชิญกับทุกอุปสรรคในการเทรดได้อย่างแน่นอน
…………………………………………………………………………………………………
แจกฟรีระบบเทรด
No Comments